'อสังหาฯ-ท่องเที่ยว' เจาะสูงอายุ หวังรับดีมานด์-อำนาจจ่ายสูง
Loading

'อสังหาฯ-ท่องเที่ยว' เจาะสูงอายุ หวังรับดีมานด์-อำนาจจ่ายสูง

วันที่ : 14 เมษายน 2568
เทอร์ร่า กล่าวว่า ในมุมของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย ถือเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) คือ กลุ่มคนที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง หมายความว่า ขนาดตลาดไม่ได้ใหญ่โต แต่ทั้งนี้ในแง่การลงทุนไม่ได้ลดลง ที่สำคัญการทำตลาดยากกว่าการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป เพราะดีมานด์ส่วนใหญ่กำลังซื้อน้อย
    "เทอร์ร่า" ชี้เทรนด์อสังหาฯ เจาะนิชมาร์เก็ตกลุ่มซิลเวอร์เอจ รับดีมานด์อำนาจจ่ายสูง โรงพยาบาลจับโอกาสเนอร์สซิ่งโฮม -เวลเนส-ชะลอวัยต่อยอดธุรกิจ ททท.ชูเส้นทางท่องเที่ยว "สายศรัทธา-ชุมชน-สุขภาพ" เจาะกลุ่มสูงวัย "ดุสิตธานี" เปิดตัวแบรนเด็ด เรสซิเดนส์ "ดุสิต อจารา หัวหิน" มูลค่า 2 พันล้าน เน้นดูแลสุขภาพแบบองค์รวม แนวคิด "มัลติ-เจเนอเรชันนอล ลิฟวิ่ง" แห่ง การอยู่อาศัยทุกช่วงวัย

    การเกิดใหม่ของประชากรต่ำ สวนทางอัตราผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ประเทศไทยเริ่มต้น ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงเช่นเดียวกันกับทั่วโลก เป็นเมกะเทรนด์ที่มักถูกหยิบยกมาพูดบ่อยครั้ง

    ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลายคนมองหาบ้านพักผู้สูงวัย หรือ เนอร์สซิ่งโฮม ที่คุ้นเคย คือ บ้านพักบางแค สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือ สวางคนิเวศ โครงการที่พักอาศัยที่ออกแบบเพื่อผู้สูงอายุที่มีฐานะ ดำเนินงานโดยสภากาชาดไทย

    นางสาวสุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวว่า ในมุมของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย ถือเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) คือ กลุ่มคนที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง หมายความว่า ขนาดตลาดไม่ได้ใหญ่โต

   แต่ทั้งนี้ในแง่การลงทุนไม่ได้ลดลง ที่สำคัญการทำตลาดยากกว่าการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป เพราะดีมานด์ส่วนใหญ่กำลังซื้อน้อย ขณะที่กลุ่มที่กำลังซื้อไม่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่ระบุชัดเจนว่าสำหรับผู้สูงวัยเพราะกลัวแก่ ทำให้การทำตลาดยาก

   รวมทั้งที่ผ่านมา ตลาดบ้านพักผู้สูงวัย หรือ เนอร์สซิ่งโฮม ส่วนใหญ่เป็นการพัฒนา โดยกลุ่มโรงพยาบาลที่มีเงินทุนและประสบการณ์ในการให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการค่อนข้าง นานกว่าจะคืนทุน จึงไม่ตอบโจทย์กลุ่ม ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯที่ต้องการคืนทุนเร็วจึงนิยมพัฒนาโครงการเพื่อขายมากกว่า ยกเว้นว่าจะเป็นการต่อยอดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งระหว่างบริษัทในเครืออย่างพฤกษา กับโรงพยาบาลวิมุตในการให้บริการลูกบ้านให้เข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างสะดวกสบายจากภายในโครงการ

   "เนอร์สซิ่งโฮม จะเป็นบริการที่ลูกค้าจ่ายแบบรายเดือน แตกต่างจากที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยที่สามารถซื้อหรือเช่าอยู่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาจะมีโครงการพัฒนาออกแล้วอย่างจิณณ์ เวลบีอิ้ง หรือโครงการ ดิ แอสเพน ทรี ของ MQDCที่พัฒนาออกมาขาย"

    เวลเนส ชะลอวัยตลาดน่าจับตา

   ขณะเดียวกัน ยังมีอีกตลาดที่น่าสนใจคือ เวลเนส (Wellness) ที่เกี่ยวข้องกับการชะลอวัย( Anti Aging ) มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีโครงการ Hercules เป็นอาคารมิกซ์ยูส ของ BDMS WELLNESS LANGSUAN กลุ่ม โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่พัฒนาเวลเนสซิตี้ มิกซ์ยูสคอมเพล็กซ์ บนพื้นที่ 13 ไร่ย่านหลังสวน คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2573

    อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการ ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่ใช่แค่เม็ดเงินการลงทุนเท่านั้นแต่ยังต้องมีบริการเข้ามารองรับ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ด้านสุขภาพเข้ามาดูแล ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการที่พัฒนาอสังหาฯไม่ลงมาพัฒนาโครงการในเซกเมนต์นี้เพราะต้นทุนสูง ต้องใช้เวลานานกว่าจะคืนทุน

    ททท.ชูเส้นทางศรัทธา-ชุมชน-สุขภาพ

    นางจิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการ ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สินค้าท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มสูงวัยส่วนใหญ่จะเป็น ด้านวัฒนธรรม เช่น ทำบุญตักบาตร โดยเฉพาะ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีกระแสการเดินทางดี รวมถึงเส้นทางสายศรัทธา ใกล้กรุงเทพฯ ที่มีจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่าง จ.พระนครศรีอยุธยา

    นอกจากนี้ยังมีสินค้าท่องเที่ยวชุมชนต่างๆ โดย ททท.ได้เข้าไปพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวสู่ชุมชนที่โดดเด่นเรื่องงานฝีมือ (Craft Destination) ปัจจุบันมีมากกว่า 100 หมู่บ้านทั่วไทย ตอบโจทย์พฤติกรรมการเดินทางของผู้สูงวัยที่ไม่ต้องการความเร่งรีบ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่ได้บริหารสมองและสร้างความสัมพันธ์กับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี

    ขณะเดียวกัน เส้นทาง Craft Destination ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเจนซีและเจนวายด้วย จากจุดขายเรื่องความคิดสร้างสรรค์

   "ส่วนนักท่องเที่ยวสูงวัยกลุ่มไฮเอนด์จะนิยมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Destination) เน้นท่องเที่ยวไปด้วย ดูแลสุขภาพไปด้วย เช่น เชียงใหม่ สมุทรปราการ สระบุรี นครราชสีมา เป็นต้น"

    ทุ่ม 2 พันล้านปั้น "ดุสิต อจารา หัวหิน"

    ก่อนหน้านี้ นายศิรเดช โทณวณิก รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจโรงแรม กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มดุสิตธานีเดินหน้าพัฒนาแบรนเด็ด เรสซิเดนส์ (Branded Residences) ภายใต้ชื่อโครงการว่า ดุสิต อจารา หัวหิน (Dusit Ajara Hua Hin) เพื่อเจาะตลาดที่พักอาศัยของกลุ่มสูงวัย หรือ ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง (Senior Living) วางเป้าหมายเปิด แห่งแรกในหัวหิน บนที่ดินเดียวกับโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน เพื่อสร้างซินเนอร์ยีด้านบริการร่วมกัน เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยแนวคิด มัลติ-เจเนอเรชันนอล ลิฟวิ่ง (Multi-generational Living) แห่งการอยู่อาศัยทุกช่วงวัย

    นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ ดุสิต อจารา หัวหิน มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มดุสิตธานีในการขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักชัวรี ในรูปแบบแบรนเด็ด เรสซิเดนส์ ให้ตอบโจทย์ความต้องการด้านเวล-บีอิ้ง (Well-being) สร้างสุขภาพกายและใจ และเป็นสังคมที่ดีสำหรับคนทุกช่วงวัย ทุกเจเนอเรชัน (Multi-generational Living Concept) ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตในประเทศไทยและทั่วโลก

    "เราเลือกหัวหินในการพัฒนาโครงการใหม่นี้ เพราะนอกจากจะมีโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ซึ่งอยู่คู่หัวหินมากว่า 30 ปีแล้วนั้น หัวหินยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทยที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและมีความผูกพันระหว่างคนไทยและชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ของชายหาดที่สวยงาม และบรรยากาศที่เงียบสงบ และยังคงมี แนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้หัวหินเต็มไปด้วยโอกาสในการพัฒนา"

    อีกทั้งการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ ภายใต้นโยบายของการพัฒนาให้เป็นสมาร์ต ซิตี้ (Smart City) การขยายตัวของเมือง และการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับ นักท่องเที่ยวทั้งระยะสั้นและระยะยาว ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของตลาด โดยเฉพาะในตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงอัลตร้าลักชัวรี ที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมไปถึงโครงการแบบแบรนเด็ด เรสซิเดนส์ ที่ได้ความสนใจเป็นพิเศษ

    ดุสิต อจารา หัวหิน เป็นโครงการแบบลีสโฮลด์ (Leasehold) หรือการเช่าแบบระยะยาว ตั้งอยู่ด้านหน้าโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ขนาด 20 ไร่ ประกอบไปด้วย 7 อาคาร เป็นอาคาร 3 ชั้น 4 อาคาร และอาคาร 6 ชั้น 3 อาคาร รวมทั้งสิ้น 96 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอน 70-90 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 120 - 180 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 250 ตารางเมตร และเพนท์เฮาส์ ซึ่งในทุกอาคารออกแบบให้บริเวณยูนิตชั้น 1 มีพื้นที่สวนสีเขียวส่วนตัว ขนาด 25 - 35 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่จอดรถติดกับที่พักอาศัย

 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ