ปัจจัยเสี่ยงที่มาเยือนแบบไม่มีใครคาดคิด! ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญความท้าทายที่ยากจะหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะเหตุการณ์แผ่นดินไหวและมาตรการภาษีทรัมป์สะเทือนไทยแรง! ส่งผลกระทบทั้งระยะสั้น และระยะยาว นำสู่วิกฤติสภาพคล่อง ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังจะ เกิดขึ้นจากดีมานด์ที่หดหาย หลายฝ่ายต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ยิ่งการแก้ไขปัญหาด้านการเงินที่มีความซับซ้อนซ่อนอยู่มากทีเดียว

    ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันการจัดการหนี้สินในตลาดตราสารการเงินเปราะบาง ต้องยอมรับว่าปัญหาการไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้ครบกำหนดในปีนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องจับตา! นักลงทุน ในตราสารหนี้ประเภท High Yield และบริษัทที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ ระดับ Investment Grade ต้องระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุน เพราะความไม่มั่นใจในเสถียรภาพของบริษัทเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งตลาดการเงินและเศรษฐกิจ

    การพิจารณาการปล่อยสินเชื่อแก่ ผู้ประกอบการผ่านธนาคารพาณิชย์ เป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้างเสถียรภาพ โดยการตั้งดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับสภาพการณ์ มีการตรวจสอบคุณภาพการปล่อยสินเชื่ออย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเกิดหนี้ที่ไม่สามารถชำระได้ในอนาคต

    มาตรการระยะสั้น"กระตุ้นการโอน"

    การกระตุ้นการโอนอสังหาริมทรัพย์นั้น ภาครัฐมีการเสนอมาตรการใหม่ที่เน้น ไม่กำหนดราคาบ้านที่ต้องการซื้อขาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการโอนทรัพย์สินโดยไม่จำกัดวงเงินสูงสุดเหมือนในอดีต รวมทั้ง การลดหย่อนภาษีและดอกเบี้ยบ้านใหม่ จะส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ถือเป็นมาตรการสำคัญในการเพิ่มสภาพคล่อง และกระตุ้นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

   ขณะที่การจัดตั้งมาตรการเฉพาะเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้าม! โดยเฉพาะการให้สินเชื่อระยะยาวที่มีเงื่อนไขผ่อนปรน เพื่อรักษาสภาพคล่องและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ในช่วงที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีความเสี่ยงสูง

   "แผ่นดินไหวและมาตรการภาษีทรัมป์ เป็นโจทย์ใหม่เข้ามาท้าทายเศรษฐกิจไทยและทั่วโลก ดังนั้น รัฐบาลต้องมีมาตรการที่เป็นยาแรงออกมาช่วยเพิ่มเติม"

    สำหรับแผนระยะยาวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การวางโครงสร้างที่เหมาะสม กับการถือครองอสังหาริมทรัพย์ของ ชาวต่างชาติถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยการให้สิทธิในการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่เกิน 60 ปี จะเป็นการเปิด "โอกาส" ให้ชาวต่างชาติสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทยได้อย่างโปร่งใส พร้อมจ่ายภาษีตามกฎหมายไทย ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่น ให้กับตลาดและทำให้ธุรกิจในไทย ขยายตัวได้

    ตั้งกองทุน "บ้านผู้มีรายได้น้อย"

    อีกหนึ่งกลยุทธ์กระตุ้นเศรษฐกิจ คือ การจัดตั้ง "กองทุนสนับสนุนบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง" โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการบ้านหลังแรก จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพได้ง่ายขึ้น รวมทั้งการควบคุมการอยู่อาศัยของชาวต่างชาติในประเทศไทยอย่างมีระเบียบ เพื่อให้เกิดความสมดุลในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

   ขณะเดียวกันการพัฒนาและ เพิ่มมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ในระดับนานาชาติก็มีความสำคัญ เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ยังมีศักยภาพในการพัฒนาไปสู่ระดับนานาชาติ ในมุมของการสร้าง "manmade" หรือสิ่งก่อสร้างที่นอกเหนือจากธุรกิจเอนเทอร์เทนเมนต์ เช่น การพัฒนานิคมการแพทย์และ โรงพยาบาล ศูนย์การพัฒนาทักษะ ทางการศึกษาระดับเทคนิค ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนและแรงงานจาก ต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยได้

   มาตรการที่หลากหลายทั้งระยะสั้นและระยะยาว การวางแผนอย่างรอบคอบจะทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ในช่วงเปลี่ยนผ่านปรับตัวอย่างมีทิศทาง การร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการเชื่อมต่อและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างมีระเบียบ มีประสิทธิภาพสูงขึ้น จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้ไปได้อย่างมั่นคง เพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน