CHIC ฟื้นครึ่งปีหลังรุกโปรดักต์พรีเมียม
วันที่ : 18 เมษายน 2568
CHIC ส่งสัญญาณธุรกิจฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลัง เดินเกมพัฒนาสินค้ากลุ่มพรีเมียม อัพฐานลูกค้า พร้อมออกสินค้าใหม่ทุกไตรมาส รุกขยายตลาดภูเก็ต เจาะลูกค้ากำลังซื้อสูงกลุ่มต่างชาติ ตั้งเป้ารายได้เติบโตปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 5%
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน ที่นอนและเครื่องนอนครบวงจร เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ภาพรวมธุรกิจยังคงเผชิญกับความท้าทายจากหลายปัจจัย โดยสถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร และมีสัญญาณที่คล้ายคลึงกับไตรมาสแรกทั้งจากภาวะชะลอตัวของตลาด
รวมถึงการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของใช้ภายในบ้าน แม้ว่าจะมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภคในกลุ่มพรีเมียมก็ตาม
พัฒนาสินค้าพรีเมียม
สำหรับการพัฒนาและการเน้นสินค้าในกลุ่มพรีเมียม บริษัทยังคงมุ่งเน้นในการพัฒนาและนำเสนอสินค้าประเภทพรีเมียมที่มีคุณภาพสูง ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์และมีคุณค่าทางด้านการออกแบบและวัสดุ โดยบริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ ที่มีดีไซน์ทันสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายและความพรีเมียม อย่างเช่น การนำเทคโนโลยีต่างๆ มาผสมผสานในการติดตั้ง Wireless Charger หรือฟังก์ชันการเชื่อมต่อกับมือถือในเฟอร์นิเจอร์ บางชิ้น
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการฟื้นตัวที่ยังไม่ชัดเจน แต่บริษัทเชื่อว่าหากสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ได้แย่ไปมากกว่านี้ ธุรกิจของบริษัทจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
โดยบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 2568 ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว และตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ยประมาณ 5% ซึ่งยังคงเน้นการพัฒนาสินค้าพรีเมียมเป็นหลัก ไม่เน้นการขยายแบรนด์ใหม่ แต่อย่างไรก็ตามการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มพรีเมียมที่มีการพัฒนาทุกไตรมาส จะเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความเป็นผู้นำในตลาด
ออกสินค้าใหม่
นายกิจจา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการดำเนินกลยุทธ์ในปีนี้ บริษัทยังคงเน้นการพัฒนา Product Development โดยการออกสินค้าใหม่ๆ ทุกไตรมาส เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าในระดับ B+ ขึ้นไป ซึ่งบริษัทเชื่อว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชันที่ตอบสนองการใช้งานจริงและใช้งานได้สะดวก ในชีวิตประจำวัน อย่างการเพิ่มฟังก์ชันการเชื่อมต่อมือถือในเฟอร์นิเจอร์ หรือการติดตั้งฟังก์ชัน Wireless Charger จะช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้ในการขยายตลาด ขยายสาขาของบริษัทที่ภูเก็ตมีผลประกอบการที่ดี โดยสาขาภูเก็ตมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติสูงถึง 60-70% ซึ่งมีฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากลูกค้าต่างชาติที่มีการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมักจะมองหาผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านที่มีคุณภาพดีและมีดีไซน์ที่ทันสมัยส่งผลให้สาขาภูเก็ตได้รับการตอบรับที่ดีและมีแนวโน้มที่เติบโตต่อไป ในขณะที่สาขาในกรุงเทพฯ ยังมีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างดี แม้จะไม่มีการเติบโตที่เด่นชัด แต่ยังคงเป็นตลาดหลักที่สำคัญสำหรับบริษัท
รวมถึงการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของใช้ภายในบ้าน แม้ว่าจะมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภคในกลุ่มพรีเมียมก็ตาม
พัฒนาสินค้าพรีเมียม
สำหรับการพัฒนาและการเน้นสินค้าในกลุ่มพรีเมียม บริษัทยังคงมุ่งเน้นในการพัฒนาและนำเสนอสินค้าประเภทพรีเมียมที่มีคุณภาพสูง ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์และมีคุณค่าทางด้านการออกแบบและวัสดุ โดยบริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ ที่มีดีไซน์ทันสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายและความพรีเมียม อย่างเช่น การนำเทคโนโลยีต่างๆ มาผสมผสานในการติดตั้ง Wireless Charger หรือฟังก์ชันการเชื่อมต่อกับมือถือในเฟอร์นิเจอร์ บางชิ้น
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการฟื้นตัวที่ยังไม่ชัดเจน แต่บริษัทเชื่อว่าหากสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ได้แย่ไปมากกว่านี้ ธุรกิจของบริษัทจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
โดยบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 2568 ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว และตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ยประมาณ 5% ซึ่งยังคงเน้นการพัฒนาสินค้าพรีเมียมเป็นหลัก ไม่เน้นการขยายแบรนด์ใหม่ แต่อย่างไรก็ตามการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มพรีเมียมที่มีการพัฒนาทุกไตรมาส จะเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความเป็นผู้นำในตลาด
ออกสินค้าใหม่
นายกิจจา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการดำเนินกลยุทธ์ในปีนี้ บริษัทยังคงเน้นการพัฒนา Product Development โดยการออกสินค้าใหม่ๆ ทุกไตรมาส เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าในระดับ B+ ขึ้นไป ซึ่งบริษัทเชื่อว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชันที่ตอบสนองการใช้งานจริงและใช้งานได้สะดวก ในชีวิตประจำวัน อย่างการเพิ่มฟังก์ชันการเชื่อมต่อมือถือในเฟอร์นิเจอร์ หรือการติดตั้งฟังก์ชัน Wireless Charger จะช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้ในการขยายตลาด ขยายสาขาของบริษัทที่ภูเก็ตมีผลประกอบการที่ดี โดยสาขาภูเก็ตมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติสูงถึง 60-70% ซึ่งมีฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากลูกค้าต่างชาติที่มีการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมักจะมองหาผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านที่มีคุณภาพดีและมีดีไซน์ที่ทันสมัยส่งผลให้สาขาภูเก็ตได้รับการตอบรับที่ดีและมีแนวโน้มที่เติบโตต่อไป ในขณะที่สาขาในกรุงเทพฯ ยังมีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างดี แม้จะไม่มีการเติบโตที่เด่นชัด แต่ยังคงเป็นตลาดหลักที่สำคัญสำหรับบริษัท
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ