นายกฤช ปิ่มหทัยวุฒิ หัวหน้าแผนกตลาดทุนประจำประเทศไทย บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (JLL) เปิดเผยว่า ปี 2567 บริษัทให้คำปรึกษาการลงทุนรวม 38,000 ล้านบาท ไฮไลต์คือ ดีลเช่าระยะยาวที่ดินแปลงใหญ่ย่านราชดำริ การซื้อที่ดินของผู้ผลิต เซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกในนิคมอุตสาหกรรม การซื้อที่ดินย่านบางนาพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ และดีลเช่าที่ดินระยะยาวพัฒนาโรงแรมถนนสุขุมวิท ในส่วนของตลาดการลงทุนโรงแรมปี 2567 ซื้อขายกว่า 22,000 ล้านบาท จาก 15 ดีล สูงกว่าค่าเฉลี่ยต่อปีถึง 10,000 ล้านบาท โดยทำเลกรุงเทพฯ ซื้อขายเกือบ 50% ตามด้วยภูเก็ต เชียงใหม่ คาดปี 2568 มูลค่าการทำธุรกรรมสูงกว่า 13,000 ล้านบาท มากกว่า ค่าเฉลี่ยประมาณ 12%

    นายกฤชกล่าวว่า ปี 2568 คาดตลาดการลงทุนอสังหาฯเติบโตใน 4 กลุ่มสินทรัพย์หลัก ได้แก่ โลจิสติกส์และอุตสาหกรรม ดาต้าเซ็นเตอร์ โรงแรม และที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ ด้วยสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ พบว่านักลงทุน และผู้ผลิตจากต่างประเทศสนใจลงทุนมากขึ้น โดยสำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพิ่มการดึงดูดนักลงทุนผ่านมาตรการสิทธิประโยชน์ภาษีและการส่งเสริมต่างๆ รวมถึงความต้องการดิจิทัลสเปซ ทำให้ดาต้าเซ็นเตอร์เติบโตเร็ว ตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่คงได้รับความสนใจ โดยเฉพาะคอนโดอัลตราลักชัวรี่ ตั้งในทำเลศูนย์กลาง ธุรกิจ

    นายไมเคิล แกลนซี่ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล ประจำประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม กล่าวว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับความสนใจอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงในภูมิรัฐศาสตร์โลก โดยไทยจะได้รับประโยชน์ และเห็นถึงความสนใจนักลงทุนต่างชาติลงทุนกลุ่มโลจิสติกส์และอุตสาหกรรม ดาต้าเซ็นเตอร์ และโรงแรม รวมถึงการขยายการลงทุนเข้าเอเชียตะวันออก เฉียงใต้และไทยสูงขึ้น เป็นโอกาสสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจภูมิภาคนี้ สอดคล้องกับความพยายามของรัฐบาลหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เร่งส่งเสริมสภาพแวดล้อมเพื่อเอื้ออำนวยต่อธุรกิจ รวมถึงเพิ่มสิทธิประโยชน์และการผ่อนปรนกฎระเบียบ สำหรับไทยมีจุดแข็งด้านแรงงานมีคุณภาพ แหล่งพลังงานอุดมสมบูรณ์ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมแข็งแกร่ง เหล่านี้ สามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติที่หลั่งไหลเข้าไทย