A5 เน้นลูกค้ากำลังซื้อสูงปีนี้เปิดใหม่2โครงการหรู
Loading

A5 เน้นลูกค้ากำลังซื้อสูงปีนี้เปิดใหม่2โครงการหรู

วันที่ : 29 มกราคม 2568
A5 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการในปีนี้ โดยโครงการแรก "CINQ ROYAL 2" จะตั้งอยู่ในย่านเมกาบางนา มีกำหนดเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ สำหรับโครงการที่ 2 จะเป็นการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ของบริษัท โดยมีกำหนดเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
    A5 ลุยเปิด 2 โครงการใหม่ปีนี้ "CINQ ROYAL 2" หลังโครงการ แรกตอบรับดี ส่วนอีกโครงการคาดเปิดกลางปี ในแบรนด์ใหม่ วางกลยุทธ์ชิงพื้นที่ ตลาดบ้านหรู กำลังซื้อสูง บนทำเลศักยภาพ ย่านเมกาบางนา ชูแนวคิด "Quiet Luxury" ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ พร้อมแผน พัฒนาที่ยั่งยืนติดตั้งโซลาร์เซลล์ในทุกโครงการ

   นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจในปีนี้ว่า บริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ ระดับลักซ์ชัวรี ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ และได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ น้อยกว่ากลุ่มอื่น เพราะมีอัตราการกู้ สินเชื่อน้อย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคาร

   นายศุภโชค มองว่าตลาดลักซ์ชัวรี มีความแข็งแกร่ง แม้ในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปอาจชะลอตัว แต่กลุ่มลูกค้าระดับนี้มีความพร้อมในการตัดสินใจลงทุนเมื่อความเชื่อมั่นในตลาดดีขึ้น A5 จึงใช้กลยุทธ์เน้นพัฒนาสินค้าในทำเลที่ดี และสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยชูแนวคิด "Quiet Luxury" หรือ "ความหรูหราแบบเรียบง่าย" ซึ่งให้ความสำคัญกับวัสดุคุณภาพสูงและการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้า และสไตล์ที่แตกต่างและตอบโจทย์กลุ่มลักซ์ชัวรี

   เปิดใหม่ 2 โครงการ

   โดยบริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการในปีนี้ โดยโครงการแรก "CINQ ROYAL 2" จะตั้งอยู่ในย่านเมกาบางนา มีกำหนดเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ฝั่งตะวันออก ของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นทำเลที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง

   สำหรับโครงการที่ 2 จะเป็นการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ของบริษัท โดยมีกำหนดเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โครงการดังกล่าวจะอยู่ในระดับกลางระหว่าง แบรนด์ "Vana" และ "CINQ ROYAL" ซึ่งเป็นแบรนด์บ้านหรูของบริษัท โดยระดับราคาจะอยู่ที่ 50-70 ล้านบาท

   นายศุภโชคกล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ "CINQ ROYAL 1" ในย่านกรุงเทพกรีฑา ซึ่งเป็นบ้านระดับลักซ์ชัวรี ได้รับการตอบรับ ที่ดีมาก และใกล้จะปิดการขายทั้งหมดแล้ว ในขณะที่ "CINQ ROYAL 2" ที่จะเปิดตัว อยู่ใกล้เมกาบางนา และสนามกอล์ฟระดับ พรีเมียม ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ๆ

   บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการ แนวราบเป็นหลัก เนื่องจากการพัฒนาแนวราบ สามารถดำเนินการเป็นเฟสและสร้างรายได้ กลับมาได้เร็วกว่าคอนโดมิเนียม อีกทั้ง ยังช่วยลดความเสี่ยงจากอุปทานล้นตลาดในกลุ่มคอนโดอีกด้วย

   เป้ายอดขายโต 20-30%

   สำหรับปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 20-30% จากปีก่อน โดยมีโครงการหลักที่จะช่วยผลักดันยอดขาย ได้แก่ "CINQ ROYAL 2" และ "Vana Westville" นอกจากนี้ ยอดขายรอโอน (Backlog) ของบริษัทในช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2567 อยู่ที่ 900 ล้านบาท

   นายศุภโชคยังเปิดเผยว่า บริษัทกำลังมองหาโมเดลธุรกิจใหม่ที่นอกเหนือจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบเดิม เพื่อสร้างความหลากหลายและเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอ

   เน้นความยั่งยืน

   ในด้านความยั่งยืน บริษัทให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมการก่อสร้างที่ลดผลกระทบต่อชุมชน โดยโครงการใหม่ทุกโครงการ รวมถึง "CINQ ROYAL 2" จะมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด

   ทั้งนี้ A5 เดินหน้าธุรกิจตามหลัก ESG โดยได้รับการสนับสนุน "Transition Loan" จากธนาคารกรุงไทย เปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน เดินหน้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างสรรค์สังคม ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ยั่งยืน

   ด้านแผนในอนาคต นายศุภโชคกล่าวว่า บริษัทมีแผนซื้อที่ดินเพิ่มเติมทั้งในโซนตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพฯ เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ 4 โครงการ ในปี 2569 โดยมุ่งเน้นการขยายพื้นที่เพื่อสร้าง ความหลากหลายของโครงการที่ตอบโจทย์ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ ยังเตรียมวางโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนา พื้นที่อย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาวและเสริมศักยภาพการเติบโตของบริษัทในอนาคต
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ
30 มกราคม 2568
บิ๊กธุรกิจผุดโปรเจ็กต์ยักษ์บูม 'พัทยา'
LH กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าและบริการ มีโรงแรมอยู่ภายใต้การบริหาร 7 แห่ง คือ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ที่เปิดดำเนินการแล้ว 7 แห่ง มูลค่ารวม 14,700 ล้านบาท โดยขายเข้ากองทรัสต์ 6 แห่ง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 แห่ง ได้แก่ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี มิกซ์ยูส มูลค่า 4,800 ล้านบาท ประกอบด้วยพื้นที่สำนักงาน 12,700 ตร.ม. โรงแรม 512 ห้อง เปิดวันที่ 1 เมษายนนี้, แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ 2 มูลค่า 4,600 ล้านบาท จะเปิดไตรมาสแรกปี 2569 และแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา 3 มูลค่า 4,300 ล้านบาท จะเปิดไตรมาสแรกปี 2570 ทั้ง 3 แห่งเป็นโรงแรมลักชัวรี่ ขนาดประมาณ 500 ห้อง