2568 ปีเก็บเกี่ยวรายได้ MQDC ยอดขายสร้างเสร็จพร้อมโอน 24,000 ล้านบาท
วันที่ : 12 มกราคม 2568
MQDC เปิดเผยว่า "ในภาพรวม MQDC มียอดขายสะสม รอส่งมอบหรือ Backlog ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการโอนให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน จะเร่งผลักดันยอดขายโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการใกล้แล้วเสร็จ พร้อมสร้างรายได้ในปีนี้อย่างต่อเนื่อง"
เทรนด์ธุรกิจที่อยู่อาศัยปี 2568 ภาพใหญ่อาจมีมุมมองไม่น่าตื่นเต้น มากนัก เพราะมีปัจจัยกดดันนานัปการรออยู่
อย่างไรก็ตาม ภาพสะท้อนของแผนธุรกิจค่าย MQDC เหมือนหนังคนละม้วน เพราะอาจกล่าวได้ว่าปี 2568 มีแนวโน้มเป็นปีที่ดีที่สุดอีกปีหนึ่งของบริษัท จากการมีแบ็กล็อก (Backlog) หรือยอดขายอยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งตามแผนลงทุนจะทยอยสร้างเสร็จพร้อมส่งมอบโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ จำนวนรวมกันมากถึง 24,000 ล้านบาท
เปิดพอร์ตสร้างรายได้ปีนี้
โดย "สุทธา เรืองชัยไพบูลย์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC เปิดเผยว่า ความคืบหน้าสถานะการลงทุน ณ ต้นปี 2568 MQDC มีโครงการอยู่ระหว่างดำเนินงานใกล้แล้วเสร็จ พร้อมสร้างรายได้ ดังนี้
ประเดิมด้วยโครงการมิกซ์ยูส "คลาวด์ อีเลฟเว่น-Cloud 11" ก่อสร้างบนที่ดินรวม 27 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS "ปุณณวิถี-อุดมสุข"ดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ Working Space ที่เหมาะกับธุรกิจเน้นความคิดสร้างสรรค์ ออกแบบเป็น Creator Village พรั่งพร้อม ด้วยสำนักงานระดับเกรด A+ พื้นที่ Creative Retail ศูนย์การค้า ศูนย์การ เรียนรู้มุ่งบ่มเพาะนักสร้างสรรค์ อีเวนต์ ฮอลล์ โรงแรม 5 ดาว Sangsan Bangkok (สร้างสรรค์ แบงค็อก) ในเครือ Marriott International และโรงแรมแนวอัจฉริยะ YOTEL Bangkok (โยเทล แบงค็อก)
อัพเดตสถานะโครงการ Cloud 11 รายงานสดจากไซต์ก่อสร้างมีความ คืบหน้าเกิน 70% เป็นไปตามแผนที่วางไว้ จึงคาดว่าโครงการนี้พร้อมเปิดให้บริการตามกำหนดภายในไตรมาส 4/68 ในขณะเดียวกันก็มีผลตอบรับจากผู้เช่า-ผู้ประกอบการแล้วมากกว่า 50%
ถัดมาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ลักเซอรี่แบรนด์ดัง "มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท-Mulberry Grove Sukhumvit" ในวันเปิดตัวโครงการ สร้างกระแสฮือฮาเป็นอย่างมาก ล่าสุดมีกำหนดเริ่มโอนกรรมสิทธิ์และพร้อมให้ลูกค้าเข้าอยู่ได้ภายในไตรมาส 2/68 มีจุดเน้นการอยู่อาศัยของครอบครัว หลากหลายช่วงวัย โดยสถานะล่าสุดมียอดขายแล้ว 60% เหตุผลที่มีผลตอบรับ ที่ดีมากเป็นเพราะตั้งอยู่บนไพรมโลเกชั่น ถนนสุขุมวิท แวดล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล ใกล้สถานีรถไฟฟ้า เอกมัย และจุดขึ้นลงทางด่วน
อัพเดตเดอะฟอเรสเทียส์ 400 ไร่
นอกจากนี้ MQDC ยังมีโครงการอาณาจักรป่ากลางเมือง "เดอะ ฟอเรสเทียส์-The Forestias" ปักหมุดโครงการขนาด 400 ไร่ ริมถนนบางนา-ตราด กม.7 ทำเลเชื่อมการเดินทางแบบไร้รอยต่อไปยังพื้นที่เศรษฐกิจโซน EEC มูลค่าโครงการ 1.25 แสนล้านบาท สถานะปัจจุบันของฟอเรสเทียส์ ประกอบไปด้วยแบรนด์ที่อยู่อาศัยที่พร้อมโอนพร้อมเข้าอยู่ ได้แก่ โครงการ "ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์-The Aspen Tree The Forestias" ชูจุดขายโดนใจในด้านการดูแลกลุ่มวัยอิสระหรือวัย 50+ โดยคอนเซ็ปต์นำเสนอโปรแกรมดูแลผู้อยู่อาศัยตลอดชีวิต หรือ Lifetime Care
เสน่ห์โครงการดิ แอสเพน ทรี มีเรื่อง Health & Brain Center ศูนย์การแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางสมองและการดูแล ผู้สูงวัย เป็นความร่วมมือกับองค์กรระดับโลก Baycrest ผู้เชี่ยวชาญการดูแลผู้สูงวัยจากประเทศแคนาดา แน่นอน ว่าวันนี้พร้อมแล้วในการให้บริการด้วยแพ็กเกจต่าง ๆ ที่ออกแบบอย่างใส่ใจรายละเอียด เพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยในโครงการและบุคคลภายนอกที่สนใจการดูแลสุขภาพแนวป้องกัน
เดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC ยังมี โครงการระดับลักเซอรี่กับซูเปอร์ ลักเซอรี่แบรนด์ "มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า-Mulberry Grove The Forestias Villas" ตามแผนคาดว่าจะเริ่มโอนและพร้อมเข้าอยู่ได้ภายในช่วงกลางปี 2568 และแบรนด์ "มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียมMulberry Grove The Forestias Condominiums" ปัจจุบันการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เริ่มทยอยส่งมอบกรรมสิทธิ์และพร้อมเข้าอยู่ได้ตั้งแต่ต้นปี 2568 นี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ สตอรี่ปีนี้ภายในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังมีโครงการที่อยู่อาศัยสไตล์รีสอร์ตแห่งแรกของแบรนด์ดัง "ซิกส์เซนส์-Six Senses" ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อวดโฉมภายใต้โครงการ "ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์-Six Senses Residences The Forestias" จำนวนจำกัด 27 ยูนิต ซึ่งเป็นโมเดลการลงทุนโครงการระดับ ซูเปอร์ลักเซอรี่ที่จะมีจำนวนไม่มาก ตามแผนการก่อสร้างคาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมโอนปลายปี 2568 นี้ โดยโซน คลับเฮาส์เร่งก่อสร้างเพื่อเปิดให้เข้าเยี่ยมชมและใช้บริการได้ภายในไตรมาส 2/68
โดยที่อยู่อาศัยเซ็กเมนต์ลักเซอรี่และซูเปอร์ลักเซอรี่ภายในเดอะ ฟอเรสเทียส์มั่นใจว่าจะเป็นแม็กเนตและสามารถสร้างยอดขายให้ MQDC อย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งซีรีส์แบรนด์หรูติดตลาดคนไทย "วิสซ์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์-Whizdom The Forestias" คอนโดมิเนียมที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองกับธรรมชาติ ยังคงผลักดันยอดโอนอย่างต่อเนื่องใน ปีนี้ ได้แก่ 1.วิสซ์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์ มายโทเปีย-Whizdom The Forestias Mytopia 2.วิสซ์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์ เดสทิเนีย-Whizdom The Forestias Destinia และ 3.วิสซ์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์ เพทโทเปีย-Whizdom The Forestias Petopia
30 ปี MQDC ส่งต่อความยั่งยืน
"ในภาพรวม MQDC มียอดขายสะสม รอส่งมอบหรือ Backlog ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการโอนให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน จะเร่งผลักดันยอดขายโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการใกล้แล้วเสร็จ พร้อมสร้างรายได้ในปีนี้อย่างต่อเนื่อง"
ขณะเดียวกัน MQDC มีแผนลงทุนธุรกิจในอนาคต โดยให้ความสำคัญกับการเตรียมทรัพยากรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแลนด์แบงก์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการพัฒนาโครงการ การเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร และสั่งสมประสบการณ์ความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ เพื่อให้บริษัทพร้อมจับโอกาสที่อาจเกิดขึ้น จากสภาวะเศรษฐกิจที่พลิกฟ้น โดยเฉพาะเทรนด์การเคลื่อนย้ายฐานการลงทุนเข้ามาในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นเทรนด์ที่สร้างโอกาสที่ดีให้กับประเทศไทย
หนึ่งในไฮไลต์ที่เป็นจุดแข็งแกร่งของ MQDC ก็คือ มุ่งมั่นและเดินหน้าในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) ที่ได้ดำเนินมาตลอด 30 ปี เพื่อสร้างมาตรฐานการอยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับทุกสรรพสิ่ง
รวมถึงได้มีการพัฒนา MQDC Standard ด้วยการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ว่าจะเป็น RISC by MQDC (Research & Innovation for Sustainability Center) และศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา FutureTales Lab by MQDC เพื่อมอง ไปข้างหน้าถึงทิศทางการอยู่อาศัยในอีก 40 ปีข้างหน้า สำหรับนำมาปรับใช้กับโครงการ และยังมองถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ เรื่องความยั่งยืนที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
อย่างไรก็ตาม ภาพสะท้อนของแผนธุรกิจค่าย MQDC เหมือนหนังคนละม้วน เพราะอาจกล่าวได้ว่าปี 2568 มีแนวโน้มเป็นปีที่ดีที่สุดอีกปีหนึ่งของบริษัท จากการมีแบ็กล็อก (Backlog) หรือยอดขายอยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งตามแผนลงทุนจะทยอยสร้างเสร็จพร้อมส่งมอบโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ จำนวนรวมกันมากถึง 24,000 ล้านบาท
เปิดพอร์ตสร้างรายได้ปีนี้
โดย "สุทธา เรืองชัยไพบูลย์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC เปิดเผยว่า ความคืบหน้าสถานะการลงทุน ณ ต้นปี 2568 MQDC มีโครงการอยู่ระหว่างดำเนินงานใกล้แล้วเสร็จ พร้อมสร้างรายได้ ดังนี้
ประเดิมด้วยโครงการมิกซ์ยูส "คลาวด์ อีเลฟเว่น-Cloud 11" ก่อสร้างบนที่ดินรวม 27 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS "ปุณณวิถี-อุดมสุข"ดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ Working Space ที่เหมาะกับธุรกิจเน้นความคิดสร้างสรรค์ ออกแบบเป็น Creator Village พรั่งพร้อม ด้วยสำนักงานระดับเกรด A+ พื้นที่ Creative Retail ศูนย์การค้า ศูนย์การ เรียนรู้มุ่งบ่มเพาะนักสร้างสรรค์ อีเวนต์ ฮอลล์ โรงแรม 5 ดาว Sangsan Bangkok (สร้างสรรค์ แบงค็อก) ในเครือ Marriott International และโรงแรมแนวอัจฉริยะ YOTEL Bangkok (โยเทล แบงค็อก)
อัพเดตสถานะโครงการ Cloud 11 รายงานสดจากไซต์ก่อสร้างมีความ คืบหน้าเกิน 70% เป็นไปตามแผนที่วางไว้ จึงคาดว่าโครงการนี้พร้อมเปิดให้บริการตามกำหนดภายในไตรมาส 4/68 ในขณะเดียวกันก็มีผลตอบรับจากผู้เช่า-ผู้ประกอบการแล้วมากกว่า 50%
ถัดมาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ลักเซอรี่แบรนด์ดัง "มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท-Mulberry Grove Sukhumvit" ในวันเปิดตัวโครงการ สร้างกระแสฮือฮาเป็นอย่างมาก ล่าสุดมีกำหนดเริ่มโอนกรรมสิทธิ์และพร้อมให้ลูกค้าเข้าอยู่ได้ภายในไตรมาส 2/68 มีจุดเน้นการอยู่อาศัยของครอบครัว หลากหลายช่วงวัย โดยสถานะล่าสุดมียอดขายแล้ว 60% เหตุผลที่มีผลตอบรับ ที่ดีมากเป็นเพราะตั้งอยู่บนไพรมโลเกชั่น ถนนสุขุมวิท แวดล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล ใกล้สถานีรถไฟฟ้า เอกมัย และจุดขึ้นลงทางด่วน
อัพเดตเดอะฟอเรสเทียส์ 400 ไร่
นอกจากนี้ MQDC ยังมีโครงการอาณาจักรป่ากลางเมือง "เดอะ ฟอเรสเทียส์-The Forestias" ปักหมุดโครงการขนาด 400 ไร่ ริมถนนบางนา-ตราด กม.7 ทำเลเชื่อมการเดินทางแบบไร้รอยต่อไปยังพื้นที่เศรษฐกิจโซน EEC มูลค่าโครงการ 1.25 แสนล้านบาท สถานะปัจจุบันของฟอเรสเทียส์ ประกอบไปด้วยแบรนด์ที่อยู่อาศัยที่พร้อมโอนพร้อมเข้าอยู่ ได้แก่ โครงการ "ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์-The Aspen Tree The Forestias" ชูจุดขายโดนใจในด้านการดูแลกลุ่มวัยอิสระหรือวัย 50+ โดยคอนเซ็ปต์นำเสนอโปรแกรมดูแลผู้อยู่อาศัยตลอดชีวิต หรือ Lifetime Care
เสน่ห์โครงการดิ แอสเพน ทรี มีเรื่อง Health & Brain Center ศูนย์การแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางสมองและการดูแล ผู้สูงวัย เป็นความร่วมมือกับองค์กรระดับโลก Baycrest ผู้เชี่ยวชาญการดูแลผู้สูงวัยจากประเทศแคนาดา แน่นอน ว่าวันนี้พร้อมแล้วในการให้บริการด้วยแพ็กเกจต่าง ๆ ที่ออกแบบอย่างใส่ใจรายละเอียด เพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยในโครงการและบุคคลภายนอกที่สนใจการดูแลสุขภาพแนวป้องกัน
เดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC ยังมี โครงการระดับลักเซอรี่กับซูเปอร์ ลักเซอรี่แบรนด์ "มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า-Mulberry Grove The Forestias Villas" ตามแผนคาดว่าจะเริ่มโอนและพร้อมเข้าอยู่ได้ภายในช่วงกลางปี 2568 และแบรนด์ "มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียมMulberry Grove The Forestias Condominiums" ปัจจุบันการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เริ่มทยอยส่งมอบกรรมสิทธิ์และพร้อมเข้าอยู่ได้ตั้งแต่ต้นปี 2568 นี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ สตอรี่ปีนี้ภายในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังมีโครงการที่อยู่อาศัยสไตล์รีสอร์ตแห่งแรกของแบรนด์ดัง "ซิกส์เซนส์-Six Senses" ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อวดโฉมภายใต้โครงการ "ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์-Six Senses Residences The Forestias" จำนวนจำกัด 27 ยูนิต ซึ่งเป็นโมเดลการลงทุนโครงการระดับ ซูเปอร์ลักเซอรี่ที่จะมีจำนวนไม่มาก ตามแผนการก่อสร้างคาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมโอนปลายปี 2568 นี้ โดยโซน คลับเฮาส์เร่งก่อสร้างเพื่อเปิดให้เข้าเยี่ยมชมและใช้บริการได้ภายในไตรมาส 2/68
โดยที่อยู่อาศัยเซ็กเมนต์ลักเซอรี่และซูเปอร์ลักเซอรี่ภายในเดอะ ฟอเรสเทียส์มั่นใจว่าจะเป็นแม็กเนตและสามารถสร้างยอดขายให้ MQDC อย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งซีรีส์แบรนด์หรูติดตลาดคนไทย "วิสซ์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์-Whizdom The Forestias" คอนโดมิเนียมที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองกับธรรมชาติ ยังคงผลักดันยอดโอนอย่างต่อเนื่องใน ปีนี้ ได้แก่ 1.วิสซ์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์ มายโทเปีย-Whizdom The Forestias Mytopia 2.วิสซ์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์ เดสทิเนีย-Whizdom The Forestias Destinia และ 3.วิสซ์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์ เพทโทเปีย-Whizdom The Forestias Petopia
30 ปี MQDC ส่งต่อความยั่งยืน
"ในภาพรวม MQDC มียอดขายสะสม รอส่งมอบหรือ Backlog ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการโอนให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน จะเร่งผลักดันยอดขายโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการใกล้แล้วเสร็จ พร้อมสร้างรายได้ในปีนี้อย่างต่อเนื่อง"
ขณะเดียวกัน MQDC มีแผนลงทุนธุรกิจในอนาคต โดยให้ความสำคัญกับการเตรียมทรัพยากรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแลนด์แบงก์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการพัฒนาโครงการ การเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร และสั่งสมประสบการณ์ความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ เพื่อให้บริษัทพร้อมจับโอกาสที่อาจเกิดขึ้น จากสภาวะเศรษฐกิจที่พลิกฟ้น โดยเฉพาะเทรนด์การเคลื่อนย้ายฐานการลงทุนเข้ามาในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นเทรนด์ที่สร้างโอกาสที่ดีให้กับประเทศไทย
หนึ่งในไฮไลต์ที่เป็นจุดแข็งแกร่งของ MQDC ก็คือ มุ่งมั่นและเดินหน้าในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) ที่ได้ดำเนินมาตลอด 30 ปี เพื่อสร้างมาตรฐานการอยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับทุกสรรพสิ่ง
รวมถึงได้มีการพัฒนา MQDC Standard ด้วยการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ว่าจะเป็น RISC by MQDC (Research & Innovation for Sustainability Center) และศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา FutureTales Lab by MQDC เพื่อมอง ไปข้างหน้าถึงทิศทางการอยู่อาศัยในอีก 40 ปีข้างหน้า สำหรับนำมาปรับใช้กับโครงการ และยังมองถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ เรื่องความยั่งยืนที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ