ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯธอส.ชี้Q4ปี61 ดัชนีความเชื่อมั่นลดลงอยู่ที่50.4
วันที่ : 11 มกราคม 2562
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส. เผยดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาส 4/61 ลดลงอยู่ที่ 50.4 จุด เหตุกังวลการเมือง-เศรษฐกิจ-อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น-มาตรการควบคุมสินเชื่อ คาดอีก 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจมีโอกาสขยายตัวภายหลังการเลือกตั้ง
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส. เผยดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาส 4/61 ลดลงอยู่ที่ 50.4 จุด เหตุกังวลการเมือง-เศรษฐกิจ-อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น-มาตรการควบคุมสินเชื่อ คาดอีก 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจมีโอกาสขยายตัวภายหลังการเลือกตั้ง
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ได้ทำการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 5 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม) โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย มีค่ากลางของดัชนีเท่ากับ 50 จุด
ดังนั้น หากค่าดัชนีสูงกว่าค่ากลาง หมายถึงผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นและมีมุมมองเชิงบวกต่อสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกัน หากค่าดัชนีต่ำกว่าค่ากลาง จะหมายถึงผู้ประกอบการไม่มีความเชื่อมั่นและมีมุมมองเชิงลบต่อสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยการคำนวณค่าดัชนีจะให้น้ำหนักบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (Listed Companies) ในสัดส่วน 60% ต่อบริษัทที่ไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (Non-listed Companies) ในสัดส่วน 40%
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) ในภาพรวมของไตรมาส 4/2561 มีค่าเท่ากับ 50.4 จุด ค่าดัชนีลดลงจากไตรมาสก่อนที่อยู่ในระดับ 51.7 จุด เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลด้านเสถียรภาพทางการเมือง ภาวะเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการปรับตัวลดลง มีค่าใกล้กับค่ากลางที่ระดับ 50 จุด
โดยจำแนกดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันในแต่ละด้าน พบว่า ด้านผลประกอบการ ด้านยอดขาย ด้านการลงทุน และต้นทุนประกอบการมีค่าความเชื่อมั่นลดลง ส่วนการจ้างงาน และการขึ้นโครงการใหม่ หรือการเพิ่มยูนิตขาย มีค่าความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ หากพิจารณาค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน จำแนกตามกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 55.7 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อน ที่มีค่าดัชนีอยู่ที่ 56.1 จุด แต่ค่าดัชนียังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด ส่วนผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 42.3 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 45.2 จุด โดยมีค่าดัชนีต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด สะท้อนว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีความกังวล และขาดความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดหวังว่าภาวะเศรษฐกิจจะมีโอกาสขยายตัวภายหลังการเลือกตั้ง และเมื่อจำแนกดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าในแต่ละด้าน พบว่าความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในการเปิดโครงการใหม่ และด้านการลงทุน
นอกจากนี้ หากพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 65.4 จุด ส่วนผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 53.2 จุด ซึ่งค่าดัชนีดังกล่าวยังสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการทั้งสองกลุ่ม ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ได้ทำการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 5 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม) โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย มีค่ากลางของดัชนีเท่ากับ 50 จุด
ดังนั้น หากค่าดัชนีสูงกว่าค่ากลาง หมายถึงผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นและมีมุมมองเชิงบวกต่อสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกัน หากค่าดัชนีต่ำกว่าค่ากลาง จะหมายถึงผู้ประกอบการไม่มีความเชื่อมั่นและมีมุมมองเชิงลบต่อสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยการคำนวณค่าดัชนีจะให้น้ำหนักบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (Listed Companies) ในสัดส่วน 60% ต่อบริษัทที่ไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (Non-listed Companies) ในสัดส่วน 40%
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) ในภาพรวมของไตรมาส 4/2561 มีค่าเท่ากับ 50.4 จุด ค่าดัชนีลดลงจากไตรมาสก่อนที่อยู่ในระดับ 51.7 จุด เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลด้านเสถียรภาพทางการเมือง ภาวะเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการปรับตัวลดลง มีค่าใกล้กับค่ากลางที่ระดับ 50 จุด
โดยจำแนกดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันในแต่ละด้าน พบว่า ด้านผลประกอบการ ด้านยอดขาย ด้านการลงทุน และต้นทุนประกอบการมีค่าความเชื่อมั่นลดลง ส่วนการจ้างงาน และการขึ้นโครงการใหม่ หรือการเพิ่มยูนิตขาย มีค่าความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ หากพิจารณาค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน จำแนกตามกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 55.7 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อน ที่มีค่าดัชนีอยู่ที่ 56.1 จุด แต่ค่าดัชนียังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด ส่วนผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 42.3 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 45.2 จุด โดยมีค่าดัชนีต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด สะท้อนว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีความกังวล และขาดความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดหวังว่าภาวะเศรษฐกิจจะมีโอกาสขยายตัวภายหลังการเลือกตั้ง และเมื่อจำแนกดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าในแต่ละด้าน พบว่าความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในการเปิดโครงการใหม่ และด้านการลงทุน
นอกจากนี้ หากพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 65.4 จุด ส่วนผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 53.2 จุด ซึ่งค่าดัชนีดังกล่าวยังสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการทั้งสองกลุ่ม ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ