10 อันดับต่างชาติโอนคอนโด เมียนมา-ไต้หวันมาแรง!จีน-รัสเซียชะลอ
วันที่ : 1 มีนาคม 2568
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิด 10 อันดับต่างชาติที่โอนคอนโดสูงสุดในปี 2567 "เมียนมา-ไต้หวัน" มาแรง! จีน-รัสเซีย'ชะลอ' สะท้อนภูมิรัฐศาสตร์ที่มีผลต่อการตัดสินใจ
ผลสำรวจศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ในปี 2567 การซื้อคอนโดโดยชาวต่างชาติ"ชะลอตัว"ลงเล็กน้อย หากเทียบกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมาซึ่งเคยร้อนแรงจนทำให้ตลาดคึกคัก ด้วยยอดการโอนกรรมสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2565 และ 2566 แต่ในปี2567จำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดอยู่ที่ 14,573 หน่วย เพิ่มขึ้น 0.9% เท่านั้น โดยมูลค่ารวมลดลง 6.8% เหลือเพียง 68,182 ล้านบาท และราคาคอนโดเฉลี่ยที่ต่างชาติซื้ออยู่ที่ 4.7 ล้านบาทต่อยูนิต ลดลงจากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 5.1 ล้านบาท
จีนไม่มาแรงเท่าปีก่อน… พม่ากับไต้หวันมาแรงสุด
แม้ว่าตลาดคอนโดของไทยจะยังคงได้รับความสนใจจากต่างชาติ แต่ก็เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจากการชะลอตัวของการซื้อจากชาวจีนและรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดซื้อจากจีนที่ลดลงถึง 14.3% เหลือ 5,670 ยูนิต มูลค่าลดลง 22.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวในภาคเศรษฐกิจจีน รวมถึงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนจากชาวจีน
แต่ในทางกลับกัน ชาวพม่าและไต้หวันกลับกลายเป็นนักลงทุนกลุ่มใหม่ที่น่าสนใจ ด้วยการเติบโตที่โดดเด่น โดยชาวพม่ามีการซื้อคอนโดเพิ่มขึ้นถึง 146.1% หรือเพิ่มขึ้น 1,388 ยูนิต มูลค่าการซื้อเพิ่มขึ้น 89.8% เป็น 7,036 ล้านบาท สอดคล้องกับการย้ายฐานการลงทุนจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาค ขณะที่ชาวไต้หวันที่ได้รับสิทธิฟรีวีซ่าก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมียอดซื้อเพิ่มขึ้น 57.1% หรือ 836 ยูนิต มูลค่า 4,299 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.8%
การปรับตัวนี้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการลงทุนจากกลุ่มชาติที่เคยเป็นผู้เล่นหลักในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย เช่น จีนและรัสเซีย ไปสู่กลุ่มใหม่จากพม่าและไต้หวัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสใหม่ของตลาดคอนโดไทย
อินเดีย นักลงทุนหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง
สิ่งที่น่าสนใจในปีนี้คือการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของการซื้อจากชาวอินเดีย ซึ่งเป็นชาติที่ไม่เคยปรากฏใน 10 อันดับแรกมาก่อน แต่ในปีนี้พวกเขาขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 10 ด้วยการซื้อเพิ่มขึ้น 0.4% จำนวน 260 ยูนิต มูลค่า 1,527 ล้านบาท แม้ว่าจะมีการลดลงจากปีที่ผ่านมา แต่พฤติกรรมการซื้อของชาวอินเดียก็มีความโดดเด่น โดยส่วนใหญ่จะมองหาคอนโดขนาดใหญ่กว่า 70 ตารางเมตร และราคาสูงเฉลี่ย 5.9 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งต่างจากชาวชาติอื่นๆ ที่มักจะเลือกซื้อคอนโดขนาดเล็กกว่า
ทิศทางในปี 2568 ยังไม่นิ่ง
สำหรับทิศทางในปี 2568 คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติจะยังคงทรงตัว หรือเติบโตเล็กน้อยที่ 1% โดยที่ชาติที่ยังคงมีกำลังซื้อสูงสุด ได้แก่ จีน พม่า รัสเซีย และไต้หวัน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์'ภูมิรัฐศาสตร์'ยังคงมีผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีนและรัสเซีย
ขณะที่ชาติอื่นๆ เช่น อินเดีย ออสเตรเลีย และฝรั่งเศสก็มีการปรับตัวและเข้ามา สะท้อนให้เห็นว่า คอนโดเมืองไทยยังคงได้รับความสนใจจากต่างชาติ แม้ว่าปี 2567 จะเห็นการชะลอตัวจากจีนและรัสเซีย แต่การเติบโตจากพม่า ไต้หวัน และอินเดีย เพิ่มขึ้น
จีนไม่มาแรงเท่าปีก่อน… พม่ากับไต้หวันมาแรงสุด
แม้ว่าตลาดคอนโดของไทยจะยังคงได้รับความสนใจจากต่างชาติ แต่ก็เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจากการชะลอตัวของการซื้อจากชาวจีนและรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดซื้อจากจีนที่ลดลงถึง 14.3% เหลือ 5,670 ยูนิต มูลค่าลดลง 22.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวในภาคเศรษฐกิจจีน รวมถึงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนจากชาวจีน
แต่ในทางกลับกัน ชาวพม่าและไต้หวันกลับกลายเป็นนักลงทุนกลุ่มใหม่ที่น่าสนใจ ด้วยการเติบโตที่โดดเด่น โดยชาวพม่ามีการซื้อคอนโดเพิ่มขึ้นถึง 146.1% หรือเพิ่มขึ้น 1,388 ยูนิต มูลค่าการซื้อเพิ่มขึ้น 89.8% เป็น 7,036 ล้านบาท สอดคล้องกับการย้ายฐานการลงทุนจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาค ขณะที่ชาวไต้หวันที่ได้รับสิทธิฟรีวีซ่าก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมียอดซื้อเพิ่มขึ้น 57.1% หรือ 836 ยูนิต มูลค่า 4,299 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.8%
การปรับตัวนี้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการลงทุนจากกลุ่มชาติที่เคยเป็นผู้เล่นหลักในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย เช่น จีนและรัสเซีย ไปสู่กลุ่มใหม่จากพม่าและไต้หวัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสใหม่ของตลาดคอนโดไทย
อินเดีย นักลงทุนหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง
สิ่งที่น่าสนใจในปีนี้คือการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของการซื้อจากชาวอินเดีย ซึ่งเป็นชาติที่ไม่เคยปรากฏใน 10 อันดับแรกมาก่อน แต่ในปีนี้พวกเขาขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 10 ด้วยการซื้อเพิ่มขึ้น 0.4% จำนวน 260 ยูนิต มูลค่า 1,527 ล้านบาท แม้ว่าจะมีการลดลงจากปีที่ผ่านมา แต่พฤติกรรมการซื้อของชาวอินเดียก็มีความโดดเด่น โดยส่วนใหญ่จะมองหาคอนโดขนาดใหญ่กว่า 70 ตารางเมตร และราคาสูงเฉลี่ย 5.9 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งต่างจากชาวชาติอื่นๆ ที่มักจะเลือกซื้อคอนโดขนาดเล็กกว่า
ทิศทางในปี 2568 ยังไม่นิ่ง
สำหรับทิศทางในปี 2568 คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติจะยังคงทรงตัว หรือเติบโตเล็กน้อยที่ 1% โดยที่ชาติที่ยังคงมีกำลังซื้อสูงสุด ได้แก่ จีน พม่า รัสเซีย และไต้หวัน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์'ภูมิรัฐศาสตร์'ยังคงมีผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีนและรัสเซีย
ขณะที่ชาติอื่นๆ เช่น อินเดีย ออสเตรเลีย และฝรั่งเศสก็มีการปรับตัวและเข้ามา สะท้อนให้เห็นว่า คอนโดเมืองไทยยังคงได้รับความสนใจจากต่างชาติ แม้ว่าปี 2567 จะเห็นการชะลอตัวจากจีนและรัสเซีย แต่การเติบโตจากพม่า ไต้หวัน และอินเดีย เพิ่มขึ้น
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ