อสังหาฯ ปรับกลยุทธ์ เจาะรายพื้นที่ดึงลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
Loading

อสังหาฯ ปรับกลยุทธ์ เจาะรายพื้นที่ดึงลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

วันที่ : 17 มกราคม 2560
อสังหาฯ ปรับกลยุทธ์ เจาะรายพื้นที่ดึงลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

กัญสุชญา สุวรรณคร

ปีนี้เป็นอีกปีที่ท้าทายผู้ประกอบการ อสังหาฯ ทั้งรายใหญ่ และรายเล็ก จากหลากปัจจัยลบที่กระทบกำลังซื้อผู้บริโภค โดยเฉพาะการเข้มงวดสินเชื่อของสถาบัน การเงิน ทำให้มียอดการปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้น จึงกลายเป็นวลีเด็ด "ขายได้ แต่โอนไม่ได้"

บิ๊กอสังหาฯ ท็อป 5 สะท้อนมุมองตลาดและแนวทางการดำเนินธุรกิจปี 2560 ซึ่งเป็นปีของการชิงไหวพริบ "ชิงจังหวะ" เพื่อชนะในเกม ภายใต้กำลังซื้อที่ยังอ่อนตัว

อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มองว่าตลาดปีนี้จะไม่แย่กว่าที่ผ่านมาซึ่งผ่านช่วงต่ำสุดมาแล้วในปี 2559 ส่วนตลาดจะเติบโตหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับภาพรวมของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเรื่องของ การส่งออก ราคาพืชผลการเกษตร และการท่องเที่ยว

เจาะเป็นรายพื้นที่

ดังนั้น แนวทางการทำพัฒนาโครงการต้อง "ซูมลึก" ไปแต่ละพื้นที่ เพราะแต่ละพื้นที่ มีดีมานด์ และซัพพลาย แตกต่างกันไป บางพื้นที่ ตลาดระดับราคา 5-7 ล้านบาท อาจขายไม่ดี แต่ตลาดระดับกลางยังขายได้ดีอยู่เพราะมีซัพพลายในบริเวณนั้นไม่มาก ดังนั้นการทำตลาดต้องเจาะเป็นรายพื้นที่

"ยกตัวอย่าง จีนเป็นเมืองใหญ่ เหมือนมี 10 ประเทศ อยู่ในประเทศเดียว ถ้าพูดว่ากวางโจว เศรษฐกิจไม่ดี ไม่ใช่เศรษฐกิจของประเทศจีนไม่ดีทั้งหมด อสังหาฯ เมืองไทยก็เช่นเดียวกัน ใครบอกไม่ดี ไม่จริง บางพื้นที่ยังเติบโตอยู่ ภาคตะวันออกก็โต หรือในทำเลสุขุมวิท เราก็ขายโครงการไปได้เรื่อยๆ คอนโดราคา ตร.ม.ละ 4 แสนบาท ก็ยังขายได้อยู่"

ชิงจังหวะโอกาส-กำลังซื้อ

ขณะที่มุมมองของ เศรษฐา ทวีสินกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เห็นว่าอสังหาฯปีนี้ เป็นอีกปีที่มีความท้าทาย การลงทุนต้องมีความระมัดระวัง ที่สำคัญต้องมีวินัยทางการเงิน โดยคาดว่าปีนี้ตลาดจะเติบโต 5% ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนโครงการรถไฟฟ้า และโครงการสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มีความชัดเจนในด้านการลงทุน แม้ว่าหลายโครงการจะต้องระยะเวลาจนกว่าจะเริ่มก่อสร้าง แต่ถือได้ว่ามีความคืบหน้า

ขณะที่การเปิดตัวโครงการต้องอาศัยจังหวะที่ดีในการช่วงชิงโอกาสและกำลังซื้อ เนื่องจากปัญหาหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับที่สูง ส่งผลต่อเรื่องสินเชื่อผู้ซื้อที่อยู่อาศัย ที่ยอดปฏิเสธสินเชื่อยังเพิ่มสูง โดยส่วนใหญ่ จะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับล่าง

"ปัจจุบันตลาดอสังหาฯ ไม่โตแบบก้าวกระโดด และไม่ได้เติบโตมากในช่วง 7-8 ปี ที่ผ่านมา เราต้องปรับตัว และกลับมา บริหารจัดการภายในองค์กร นำ โซลูชั่น ใหม่ๆ เข้ามาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยการนำฐานข้อมูลมาใช้มากขึ้น ให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด เพื่อพัฒนาองค์กรยืนหยัดในภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงสูง"

เพิ่มแบบโครงการรับไลฟ์สไตล์

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้ตลาดอสังหาฯ จะเห็นภาพการแข่งขันของรายใหญ่ชัดเจนมากขึ้น โจทย์ใหญ่ก็คือ ต้องทำการตลาดหนักขึ้น การทำตลาดแต่ละโครงการต้องต่างกัน เพราะการทำตลาดในแบบเดียวกันอาจจะให้ ผลไม่เหมือนกัน รวมถึงการเลือกทำเล การออกแบบ และการเปิดโครงการในเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากภาระหนี้ของ ผู้บริโภคยังคงเป็นปัจจัยส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อในปีนี้

"ต้องเดินหน้าพัฒนาศักยภาพตัวเราและองค์กรก่อน เพื่อพัฒนาโครงการ ให้เร็วขึ้น ดีขึ้นกว่าเดิม ผลลัพธ์ นำมาสู่การบริหารต้นทุนต่ำกว่า ตลาดได้ 20% เป็นแนวทางของศุภาลัยที่ทำมา โดยตลอด"

ไตรเตชะกล่าวว่า ปีนี้จำนวนและ มูลค่าการเปิดโครงการจะมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยมุ่งพัฒนาทั้งแบบบ้านและคอนโดให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อเจาะลึกถึงความต้องการแต่ละทำเลที่ ต่างกัน โดยจะเห็นรูปแบบของคอนโดจะแตกต่างกันไปแต่ละทำเล ขณะที่บ้านเดี่ยวก็เพิ่มแบบมากขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปมากขึ้น รวมถึงสังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย

นอกจากนี้ โครงการแนวราบยังมุ่งพัฒนาแบบมิกซ์ยูสมากขึ้น ผสมผสานทั้ง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ในราคาที่แตกต่างกันเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกกลุ่ม

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

 

 

 

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ