โอนอสังหาฯปีนี้1.8แสนยูนิต ต่างชาติแห่ซื้อ รับเมืองท่องเที่ยวบูม
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (ศขอ.) เผยปี 60 โครง การเปิดขายใหม่กว่า 1 แสนยูนิตเพิ่ม 12% พร้อมโอน 1.8 แสนยูนิต มูลค่า 4.6 แสนล้านบาท ผลจากการพัฒนาโครงข่ายคมนาคม รถไฟฟ้าสายต่างๆ และแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ ภาคตะวันออก ด้าน "บมจ.แสนสิริ" ชี้บ้านเดี่ยวเชียงใหม่ บูม! เกินคาดลูกค้าต่างชาติ "จีน-ฮ่องกง-สิงคโปร์" แห่ซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง ล่าสุดกว้านซื้อบ้านเดี่ยว 2 โครงการ ที่อ.สันทราย และอ.สันผีเสื้อ รวมกว่า 15 หลัง ยอดขายรวม 100 ล้านบาท
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์ 2 และในฐานะรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (ศขอ.) เปิดเผยถึงผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2560 ว่าจากสถิติข้อมูล ในรอบปีที่ผ่านๆ มาและค่าตัวแปรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง คาดการณ์ว่าโครงการเปิดขายใหม่ในปีนี้จะมีจำนวนประมาณ 108,000 หน่วย เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2559 (ประมาณการที่จำนวน 97,200-119,000 หน่วย) และประมาณการที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จ
จดทะเบียนในปี 60 จะมีจำนวนประมาณ 124,000 หน่วย เพิ่มขึ้น 0.5% จากปี 59 (ประมาณการที่จำนวน 111,000-136,000 หน่วย)
ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 3% จากปี 2559 โดยมีจำนวนประมาณ 180,000 หน่วย มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ ประมาณ 466,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน หรือประมาณการที่จำนวน 420,000-513,000 ล้านบาท ในขณะที่คาดว่าจะมียอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปปล่อยใหม่ทั้งระบบ จำนวน 594,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อนหรือประมาณการที่จำนวน 570,000-617,000 ล้านบาท และประมาณการสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปคงค้างทั้งระบบ จำนวน 3,433,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 3%
ทั้งนี้ เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่มากระตุ้นตลาด โดยปัจจัยบวกนั้นเป็นผลต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่ง และรถไฟฟ้าสายสำคัญต่างๆ ที่คาดการณ์ว่าจะเปิดพื้นที่ใหม่ในปริมณฑล อีกทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคผ่านการส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษคลัสเตอร์ และแผนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก รวมถึงมาตรการส่งเสริมการพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งรัฐบาลมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม จะช่วยสร้างตลาดใหม่ทดแทนยอดขายที่ชะลอตัวลง ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยที่แท้จริงยังมีอยู่ในระบบ ต่างจากความต้องการซื้อเพื่อการลงทุนที่ลดลงอย่างชัดเจน ปัจจัยบวกดังกล่าวจะช่วยให้ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2560 เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำหรับปี 2559 ที่ผ่านมาตลาดลดลงทั้งความต้องการซื้อและขาย โครงการเปิดใหม่ลดลงอย่างชัดเจน มีจำนวน 403 โครงการ รวม 96,526 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 303,160 ล้านบาท โดยลดลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าโครงการ ขณะที่ในปี 2558 มีโครงการเปิดใหม่จำนวน 444 โครงการ รวม 104,856 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 394,410 ล้านบาท ดร.วิชัย กล่าว
ด้าน บมจ.แสนสิริ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในตลาด ชี้แนวราบเชียงใหม่บูม ลูกค้าต่างชาติ "จีน-ฮ่องกงสิงคโปร์" แห่ซื้อเป็นบ้านหลังที่สองล่าสุดลูกค้าต่างชาติกว้านซื้อบ้านเดี่ยวแสนสิริกว่า 15 หลัง โกยยอดต่างชาติรวมถึง 100 ล้านบาท
นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและ พัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อสังหาริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตลาดแนวราบได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสถานที่เที่ยวที่หลากหลาย จึงทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยสูงขึ้นทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย เป็นบ้านพักตากอากาศหลังที่สอง ล่าสุดแสนสิริได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก มีลูกค้าชาวต่างชาติซื้อบ้านเดี่ยว 2 โครงการของแสนสิริที่เชียงใหม่รวมกว่า 15 หลัง มียอดขายรวมถึง 100 ล้านบาท โดยโครงการ "เศรษฐสิริ สันทราย" มียอดขายแล้วสูงถึงกว่า 85% และโครงการ "บุราสิริ สันผีเสื้อ" ยอดขายทะลุ 50% ในเฟสแรก
นอกจากนี้ คาดว่าอนาคตอสังหาฯ เชียงใหม่จะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง จากโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่เริ่มต้นก่อสร้างและจะแล้วเสร็จในปี 2568 และโครงการพัฒนาสนามบินสันกำแพง ที่จะแล้วเสร็จในปี 2568 เช่นกันสนับสนุนให้อสังหาฯ เชียงใหม่คึกคักและมีราคาสูงขึ้นอีก นายเมธา กล่าวในที่สุด
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ