อารียา ลุยตลาดทุกเซ็กเมนท์
‘อารียา’กางแผนจับตลาดทุกเซ็กเมนท์ ดันยอดขายตลาดบน 60% กลุ่มกลาง-ล่าง 40% เผยคอนโดลีสต์โฮลด์ที่เช่าเอยูเอเดิม เล็งเปิดตัวไตรมาสสุดท้าย
นายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี กรรมการบริหาร บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทวางแผนเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ระดับตลาดบนถึงระดับกลาง –ล่าง เพื่อเข้าถึงลูกค้าและทำตลาดได้ทุกเซ็กเมนท์ โดยมูลค่ายอดขายส่วนใหญ่จะมาโครงการระดับบนสัดส่วน 60% และระดับกลาง-ล่าง 40%
ปีนี้เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่รวม 11 โครงการ แบ่งเป็น แนวราบ 7 โครงการ และแนวสูง 4 โครงการ รวมมูลค่า 2.4 หมื่นล้านบาท โดยไตรมาสแรกเปิดตัวแล้ว 3 โครงการแนวราบ
“มองว่าตลาดอสังหาฯแนวราบปีนี้ก็ยังแข่งขันดุเดือด แต่เชื่อว่าถ้าโครงการมีความเป็นมืออาชีพ ทำให้ลูกค้ามั่นใจสินค้าและบริการ จะแข่งขันได้ไม่ยาก”
ส่วนโครงการแนวสูง 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม รูปแบบลีสต์โฮลด์ หรือสัญญาให้เช่า ย่านราชดำริ ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ A.U.A. ซึ่งบริษัทได้เช่ามาจากสำนักงานพระคลังข้างที่ ความคืบหน้าล่าสุดเตรียมเปิดตัวโครงการนี้ในช่วงไตรมาส 4นี้ จำนวน 300-400 ยูนิต คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้สนใจ เนื่องจากเป็นทำเลที่ไม่มีซัพพลายในลักษณะนี้อีกแล้ว
อีก 3 โครงการคอนโดที่เหลือ คือ โซนสุขุมวิท 53 รูปแบบอาคารสูง 8 ชั้น จำนวนกว่า 100 ยูนิต จะเริ่มเปิดขายช่วง 2 เดือนจากนี้ และปลายไตรมาส2 เตรียมเปิดตัวคอนโดทำเลบางนา ใกล้กับเมกาบางนา และไตรมาสสุดท้ายจะเปิดตัวคอนโดโซนไทรม้า นนทบุรี เจาะตลาดกลาง – ล่างเพิ่มเติม
ล่าสุดเปิดตัวโครงการแนวราบ บ้านเดี่ยวลักชัวรี คือ ดิ เอวา เรซิเดนซ์ (The AVA Residence) มูลค่า 2,500 ล้านบาท พื้นที่ 34 ไร่ ซอยสุขุมวิท 77 เชื่อมต่อ 2 เส้นทางหลัก คือ สุขุมวิท และถนนศรีนครินทร์ โดยเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์นลักชัวรี ราคาขายเริ่มต้นหลังละ 30-80 ล้านบาท ที่ผ่านมาได้เปิดพรีเซลและขายได้แล้ว 3-4 หลัง โดยตั้งเป้าหมายยอดขายโครงการนี้เดือนละ 100 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้เริ่มทยอยสร้างเฟสแรก จำนวน 10 ยูนิตก่อน จากที่คาดการณ์ไว้ทั้งโครงการนี้ว่าจะก่อสร้างให้ครบจำนวน 94 ยูนิต
สำหรับการทำตลาดโครงการนี้นอกจากการชูจุดขายด้านทำเลโครงการ คุณภาพวัสดุและมาตรฐานก่อสร้างระดับสากลแล้ว ยังนำเสนอบริการดูแลลูกบ้านในโครงการนี้เป็นเวลากว่า 5 ปี ซึ่งถือว่านานกว่าที่ข้อกฎหมายกำหนดให้ดูแลลูกบ้านตามโครงการบ้านจัดสรรทั่วไป เป็นระยะเวลา 1 ปี
ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนลดอัตรารีเจค หรือยอดปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าลงอย่างต่อเนื่องให้เหลือ 25-30% ด้วยแผนการดูและลูกค้าและตรวจสอบก่อนโอนอย่างละเอียดมากขึ้น หลังจากช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีก่อน สามารถลดอัตรารีเจคลงได้จาก 40% เหลือ 30%
ส่วนยอดขายรวมปีนี้คาดอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาทและมียอดโอนอยู่ที่ 6,500 ล้านบาท จากปีก่อนมียอดขายรวมราว 1.1 หมื่นล้านบาท และมียอดโอน 4,700 ล้านบาท
ปีนี้วางงบการตลาดราว 200 ล้านบาท จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายต่างๆ และวางกลยุทธ์การตลาดเน้นสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่จะเข้ามาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยกับ “อารียา” โดยพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่กลับเข้ามาเยี่ยมชมโครงการซ้ำ จะมีอัตราการตัดสินใจซื้อกับโครงการของบริษัทมากถึง 100% ส่วนลูกค้าที่เยี่ยมชมโครงการเป็นครั้งแรก จะมีอัตราการตัดสินใจซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 30% ยกเว้นในบางทำเล เช่น บางนา ที่มีอัตราตัดสินใจซื้อในครั้งแรกที่เยี่ยมชม เฉลี่ยอยู่ที่ 50%
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ