ซีบีอาร์อี ชี้อสังหาทรงตัวดันเอเจนซีโต
"ซีบีอาร์อี" ชี้เศรษฐกิจ-ตลาดอสังหาฯ ทรงตัว ดันดีเวลลอปเปอร์ใช้บริการเอเจนซี่ ช่วยขาย ตั้งเป้ารายได้โต 10-2% เผยได้ลูกค้ารายย่อยเพิ่มเหตุผู้ประกอบการกลุ่มนี้ต้องการเข้าตลาดลักซ์ชัวรีมากขึ้น
นางอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ซีบีอาร์อี ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯ ที่ทรงตัวในขณะนี้ส่งผลให้เอเจนซี่อสังหาฯ ได้รับผลดี เนื่องจากผู้พัฒนาโครงการจะมองหาตัวช่วย หรือเครื่องมือที่จะช่วยขายสินค้า ซึ่งการขายผ่านเอเจนซี่ก็เป็นอีกหนึ่ง ช่องทางในส่วนของบริษัทปีนี้มีจำนวนงาน เพิ่มขึ้น รวม 39-40 โครงการ แบ่งเป็น โครงการ เรสซิเดนท์ 28 โครงการ จากปีก่อน 20 โครงการ โครงการสำนักงาน ใกล้เคียงกับปีก่อน 11-12 โครงการ
ส่วนงานขาย สำหรับลูกค้ารายใหญ่ส่วนใหญ่ลูกค้าจะขายเอง โดยบริษัทจะช่วยงานจัดอีเวนท์ส่งเสริมการขา ซึ่งปีนี้มีลูกค้าใหม่ที่เป็นรายใหญ่ๆมาใช้บริการ เช่น โครงการ28 ชิดลม ของเอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น, ควอลิตี้เฮ้าส์, เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ และอยู่ระหว่างเจรจาเพิ่ม 2-3 ราย
นอกจากนี้ ยังมีลูกค้ารายย่อยหลายราย ที่ไม่เคยจับตลาดลักซ์ชัวรีมาก่อนก็จะมาใช้บริการกับบริษัทในปีนี้มากขึ้น เพราะต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในตลาดดังกล่าว ล่าสุดเตรียมเปิดขายโครงการรีสอร์ทโฮม วีรันดา ที่หัวหิน กลางเดือน เม.ย.ซึ่งเป็น ฤดูขายสินค้าของกลุ่มรีสอร์ท คาดว่าจะ ได้รับการตอบรับที่ดี เพราะโครงการอยู่ริมหาด ในทำเลเขาตะเกียบ ซึ่งเป็นโซนที่ไม่ค่อยมี ซัพพลายใหม่ๆ ออกมาทำตลาดมากนัก
สำหรับภาพรวมผลประกอบการปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 29 ปีในไทย ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 10-12% สูงกว่าปีก่อนที่เติบโต 5% โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากบริการงานซื้อขาย-ให้เช่า 60% งานบริหารอาคาร 25% และอื่นๆ เช่น งานวิจัยที่ปรึกษา 15% ทั้งนี้แนวทางของบริษัทยังคงมุ่งเน้นจับตลาดลักชัวรี ทั้งแนวสูงและแนวราบ รวมถึงให้บริการทั้งด้านข้อมูล คำแนะนำกับลูกค้า และส่งเสริมความรู้ด้านงานขายและการตลาดให้แก่พนักงาน ส่งข้อมูลให้ลูกค้าทางอีเมลอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม ควบคู่กับการขยายฐานลูกค้า รายใหม่ โดยปัจจุบันมีลูกค้าในฐานข้อมูลไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นราย
นางอลิวัสสา กล่าวถึงสถานการณ์ สินค้าล้นตลาด นอกจากทำเลรถไฟฟ้า สายสีม่วงแล้ว ยังมีทำเลสายสีเขียว ตอนปลาย ที่เริ่มมีผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการมากขึ้น แต่ยังไม่น่ากังวลเท่ากับโซนสีม่วง เพราะเป็นโซนที่อาจมีดีมานด์และซัพพลายสมดุลกัน อย่างไรก็ตามต้องรอดูการเชื่อมต่อการเดินทางต่างๆ เช่น รถไฟฟ้า และรถประจำทาง
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ