ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงาน ภาพรวมสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย เปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2560 พบว่า ตลาด ยังคงชะลอตัวลงในด้านจำนวนหน่วย แต่มีมูลค่าโครงการสูงขึ้น มีรายละเอียด ดังนี้

          วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ศูนย์ข้อมูล อสังหาริมทรัพย์สำรวจข้อมูลโครงการ ที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ ในกรุงเทพฯปริมณฑล ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2560 พบว่า มีจำนวน 85 โครงการ มีหน่วยในผังรวม24,103 หน่วย จำนวนหน่วยลดลง 3.0%เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 ซึ่งมีจำนวน 113 โครงการ 24,839 หน่วย แต่มีมูลค่าโครงการรวม 94,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันของปี 2559 ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม  77,430 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าโครงการ เปิดขายใหม่ในปี 2560 เปิดขายในระดับราคาต่อหน่วย "สูงกว่า" ในช่วงเดียวกันของปี 2559  จากรายงานยังพบว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เปิดขายจำนวน 50 โครงการ 18,754 หน่วย คิดเป็นส่วนแบ่ง ตลาด 77.8 % ของจำนวนหน่วยโครงการ ที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ทั้งหมด เพิ่มขึ้น 32.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 ซึ่งบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เปิดขายจำนวน 43 โครงการ 14,211 หน่วย

          โครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ แบ่งออกเป็น โครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุด (คอนโดมิเนียม)  โดยโครงการบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่จำนวน 54 โครงการ 10,601 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 38,750 ล้านบาท จำนวนหน่วย ลดลง 1.4% แต่มีมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้น 11.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ซึ่งมีโครงการเปิดขายจำนวน 74 โครงการ 10,757 หน่วย มูลค่าโครงการ 34,820 ล้านบาท และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีโครงการเปิดขายใหม่จำนวน 32 โครงการ 8,674 หน่วย คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 81.8%  ของจำนวนหน่วยโครงการบ้านจัดสรร เปิดขายใหม่ทั้งหมดในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 10.5%  เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559

          ส่วนโครงการอาคารชุดเปิดขายใหม่ในไตรมาส 1 ปี 2560 มีจำนวน 31 โครงการ 13,502 หน่วย มีมูลค่าโครงการอาคารชุดรวม 55,880 ล้านบาท จำนวนหน่วยลดลง 4.2% แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น 31.1% จากช่วงเดียวกันของ ปี 2559 ซึ่งมีจำนวน 39 โครงการ 14,082 หน่วย มูลค่า 42,610 ล้านบาท และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีโครงการเปิดขายใหม่จำนวน 18 โครงการ 10,080 หน่วย คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 74.7% ของจำนวนหน่วยโครงการอาคารชุดเปิดขายใหม่ทั้งหมด ในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 58.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559

          อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากการสำรวจราคาโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่าง การขาย หรือมีหน่วยเหลือขายตั้งแต่ 6 หน่วยขึ้นไป เพื่อจัดทำดัชนีราคาที่อยู่อาศัย 3 ประเภท ได้แก่ ดัชนีราคาห้องชุด ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว และดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ พบว่า ราคาที่อยู่อาศัยในไตรมาส 1 ปี 2560 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2559 (YoY) และไตรมาส 4 ปี 2559 (QoQ) ทุกประเภท ดัชนีราคาห้องชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ -ปริมณฑล 2 จังหวัด (นนทบุรี และสมุทรปราการ) ในไตรมาส 1 ปี 2560 มีค่าดัชนีเท่ากับ 124.9 จุด เพิ่มขึ้น 5.8% จากไตรมาส 1 ปี 2559 และเพิ่มขึ้น 0.7% จากไตรมาส 4 ปี 2559

          ดัชนีราคาบ้านแนวราบในพื้นที่กรุงเทพฯ -ปริมณฑล 3 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) ในไตรมาส 1 ปี 2560 มีค่าดัชนีเท่ากับ 116.7 จุด เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2559 และเพิ่มขึ้น  0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2559 เมื่อแยกพิจารณาแต่ละประเภท พบว่า

          ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว มีค่าดัชนีเท่ากับ 114.9 จุด เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1  ปี 2559 และเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2559 ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ มีค่าดัชนีเท่ากับ 118.6 จุด เพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2559 และเพิ่มขึ้น  0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2559

          'ที่ดินแพง-หายาก' ดันโครงการพรีเมียม

          อิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์ และที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า จากข้อมูลจำนวนหน่วยโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ ทั้งโครงการบ้าน จัดสรรและโครงการอาคารชุดที่เปิดตัว ลดลงในช่วงไตรมาสแรกปี 2560 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 มองว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากยังมี "สต็อกสินค้า" เหลืออยู่ในตลาด เช่น คอนโดที่เปิดขายมาตั้งแต่ปี 2558-2559 ทำให้ไตรมาสแรกปีนี้ไม่ได้เปิดตัวกันมาก เท่าปีก่อน

          นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยมาจากอาคารชุดที่มีสต็อกบางส่วนในปี 2559 ได้ถูกระบาย หรือโอนไปสูงกว่าปี 2558 จากปัจจัยมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาฯของภาครัฐ ผนวกกับ "ราคาที่ดิน" ปรับตัวสูง โดยเฉพาะราคาที่ดินรอบกลางและรอบนอกกรุงเทพฯ ทีทำให้ราคาเปิดขายที่อยู่อาศัย โครงการใหม่ๆ ทุกประเภทปรับเพิ่มขึ้นตาม "แนวโน้มยังมองว่าปัจจัยที่ดินเป็นตัวแปรสำคัญที่จะมีผลต่อราคาเปิดขายโครงการใหม่ที่สูงขึ้น และโครงการแนวสูง ก็ยังมีแนวโน้มมูลค่าโครงการและราคาเปิดขาย ปรับตัวสูงขึ้นกว่าโครงการแนวราบ"

          พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ภาพรวมมูลค่า โครงการในช่วงไตรมาสแรกที่เปิดใหม่ น้อยลง แต่มูลค่าโครงการโดยรวมสูงขึ้น มาจากหลายปัจจัย โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์พัฒนาโครงการใหม่และเปิดขายในราคาที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ตลาดไม่ได้มีกลไกห้ามขายราคาสูง ทำให้หลายโครงการที่เปิดตัวมาใหม่แม้จะอยู่ในทำเลเดียวกัน แต่เปิดตัวราคาที่สูงขึ้นแตกต่างกัน เช่น โครงการในโซนเพลินจิต ที่เปิดขายตั้งแต่ 3-5 แสนบาทต่อตร.ม.

          ขณะเดียวกัน เจ้าของที่ดินที่มีที่ดินในมือก็ไม่มีใครอยากขายที่ดินออกไป ในราคาต่ำ นักพัฒนาอสังหาฯก็อยาก ขายสินค้ามูลค่าโครงการที่สูงขึ้น ซึ่ง เมื่อลองพัฒนาโครงการที่มูลค่าสูงขึ้น เสนอราคาขายแบบนิวไฮออกมาทำตลาดมากขึ้น ปรากฏว่ามีความต้องการซื้อ (ดีมานด์) ซึ่งเป็นผลสะท้อนจากผู้ซื้อ ในตลาด จึงทำให้แนวโน้มตลาดขณะนี้อยู่ในช่วงดูดซับราคาใหม่มากขึ้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ