อุ้มคนจนมีบ้านพักอาศัย ธอส.ปล่อยกู้หมื่นล้านเคาะดอกเบี้ยต่ำ
Loading

อุ้มคนจนมีบ้านพักอาศัย ธอส.ปล่อยกู้หมื่นล้านเคาะดอกเบี้ยต่ำ

วันที่ : 2 มิถุนายน 2560
อุ้มคนจนมีบ้านพักอาศัย ธอส.ปล่อยกู้หมื่นล้านเคาะดอกเบี้ยต่ำ

ธอส.ขานรับคลัง ปล่อยกู้คนจนซื้อบ้าน 1 หมื่นล้านบาท เคาะดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี เฉลี่ย 3.43% ต่อปีต่ำสุดในระบบ กู้เงิน 1 ล้านบาท ปีแรกผ่อนแค่เดือนละ 4,000 บาท จากเดิม 6,000 บาท ด้านศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แย้มบ้านสร้างเสร็จเหลือในสต๊อก 7.7 หมื่นหน่วย

 

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.เปิดโครงการสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพื่อผู้มีรายได้น้อย ภายใต้ชื่อ "For Home" วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยต่ำเฉลี่ย 3 ปี ที่ 3.43% ต่อปี โดยในช่วง 2 ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2.9% ต่อปี และปีที่ 3 คิดอัตราดอกเบี้ย 4.5% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือเอ็มอาร์อาร์ ซึ่งถือว่าต่ำสุดในตลาดขณะนี้ โดยกู้ได้รายละไม่เกิน 3 ล้านบาทในการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่หรือมือ 2 หรือรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านจากธนาคารอื่นมาที่ ธอส.ได้

 

นอกจากนี้ในโครงการดังกล่าว ธนาคารยังเพิ่มสัดส่วนความสามารถในการชำระต่อราย (Debt Service Ratio : ดีเอสอาร์) จากปัจจุบันอนุมัติ 1 ใน 3 ของรายได้ แต่ในโครงการนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 2 ของรายได้ โดยเบื้องต้นโครงการนี้หากผู้ขอกู้มีรายได้ 12,000 บาทต่อเดือน จะกู้ได้มากกว่า 1 ล้านบาท จากเดิมกู้ได้ไม่ถึง 1 ล้านบาท ซึ่งจะผ่อนชำระเพียงเดือนละ 4,000 บาท และสามารถกู้ร่วมได้ด้วย

 

"อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและการขยายดีเอสอาร์จะทำให้ผู้กู้สามารถกู้บ้านได้ง่ายขึ้นและมีภาระในการส่งเงินงวดลดลงซึ่งสูตรในการคำนวณของโครงการนี้ หากกู้เงิน 1 ล้านบาท จะมีภาระในการผ่อนส่งเงินงวดเดือนละ 4,000 บาท จากเดิมหากกู้เงิน 1 ล้านบาทเท่ากัน จะต้องผ่อนเงินงวดเดือนละ 5,800-6,000 โดยมีสาเหตุมาจากอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง และดีเอสอาร์ที่ให้มากขึ้น โดยผู้มีรายได้สุทธิเดือนละ 12,000 บาท ก็สามารถกู้เงินได้1 ล้านบาทแล้ว"

 

สำหรับการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในช่วง 5 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.) ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 50,000 ล้านบาท จากเป้าหมายปล่อยสินเชื่อตลอดทั้งปี 178,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ประมาณ 6% ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าเป้าหมายมาก แต่ธนาคารก็มีแผนที่จะกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อจากหลายๆโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน

          ส่วนยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ไตรมาสแรกอยู่ที่ 49,000 ล้านบาท หรือ 5.3% ของยอดสินเชื่อประมาณ 980,000 ล้านบาท โดยในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นประมาณ 354 ล้านบาท เนื่องจากมีการเลื่อนจ่ายหนี้ เพราะในช่วงต้นปีมีวันหยุดยาวปีใหม่ เดือน เม.ย.มีเทศกาลสงกรานต์และมีเรื่องค่าเทอมบุตร

 

ด้านนายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์ 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า จากการสำรวจในช่วงครึ่งหลังปี 2559 โครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ในระหว่างการขายในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จำนวน 1,107 โครงการทุกโครงการรวมประมาณ 203,829 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 891,251 ล้านบาท บ้านเหลือขายในตลาด 77,834 หน่วย มูลค่าประมาณ 331,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากครึ่งหลังปี 58 มีบ้านเหลือขายประมาณ 78,500 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 345,500 ล้านบาท

 

"พื้นที่สร้างคอนโดมิเนียมมากที่สุด ได้แก่ อำเภอเมืองนนทบุรี เขตบางซื่อ อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอธัญบุรี และเขตบางนา ส่วนเขตหรืออำเภอที่มีหน่วยห้องชุดเหลือขายมากที่สุด ได้แก่ อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอธัญบุรี เขตห้วยขวาง และเขตบางซื่อ"

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

 

 

 

ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ