โชคชัย สีนิลแท้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ประกอบการในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ต่างต้องปรับตัวให้เป็นรายใหญ่ในตลาดเพื่อให้สามารถแข่งขันและเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายกว่ารายเล็ก เห็นได้จากส่วนแบ่งการตลาด ณ ปัจจุบันรายใหญ่มีสูงถึง 79% ขณะที่รายขนาดกลางและเล็กเหลือเพียง 21% บนเวทีงานสัมมนาสถานการณ์ตลาด ที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ ปริมณฑล ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้หยิบยกกลยุทธ์ของผู้ประกอบการรายใหญ่และรายกลางมาถ่ายทอด สะท้อนให้เห็นว่าการปรับตัวเร็ว บิ๊กดาต้า และบุคลากรเป็นสิ่งสำคัญ     

อธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ชี้ให้เห็นว่า กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทมหาชนนั้นไม่ได้ต่างจากบริษัททั่วไป แต่บริษัทมหาชนนั้นมีตัววัดค่อนข้างมาก ที่สำคัญต้องทำให้ดูดีตลอด ถอยหลังไม่ได้ ต้องเติบโตอย่างระมัดระวัง การวางแผนธุรกิจต้องคิดระยะยาว โดยเฉพาะการต้องทำให้บริษัทเป็นที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการแนวราบจะใช้เวลาค่อนข้างสั้นในการพัฒนาและรับรู้รายได้ ต่างจากคอนโดมิเนียมที่ต้องใช้เวลานาน 2-3 ปี ต้องเพิ่มโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง การซื้อที่ดินให้เหมาะสมกับเป้าหมายรายได้ ข้อมูลในการประกอบธุรกิจสำคัญที่สุด เทคโนโลยีเข้ามาเยอะไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีในการก่อสร้าง การประหยัดพลังงาน การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยีทางด้าน การเงินใหม่ๆ อย่าง คริปโทเคอเรนซี สิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดคือบุคลากร ที่ต้องดำเนินธุรกิจอย่างมี ธรรมาภิบาล

แม้ว่าธุรกิจอสังหาฯ จะดูเหมือนง่ายในการเข้ามาลงทุน แต่ก็มีจุดตายคือเรื่องกฎหมาย ต้องศึกษาให้เข้าใจ รวมไปถึงจุดอ่อนของตนเอง และสิ่งที่สำคัญต้องเอาแบรนด์บริษัทตนเองไปอยู่ในใจของลูกค้าให้ได้โดยไม่ใช่เป็นการโฆษณา

อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า การทำธุรกิจคอนโดมิเนียมเรื่องทำเลเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าหากมีราคาแพง แต่มองเห็นโอกาสในการทำตลาดก็ควรซื้อ ขณะที่การดำเนินงานจะต้องมีแผนงาน การควบคุมติดตามที่ใกล้ชิด การเงินที่ชัดเจนและโปร่งใส

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า การเป็นบริษัทอสังหาฯ ในตลาดหลักทรัพย์จะมีแรงกดดันจากหลายฝ่าย ผู้ถือหุ้นคาดหวังสิ่งที่เพิ่มขึ้นจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ให้ทัน เช่น การเปลี่ยนแปลงของดิจิทัล เน้นคอนซูเมอร์เอ็กซ์พีเรียนซ์ เมื่อก่อนมีป้ายบอกทางเพื่อเข้าโครงการเป็นสิ่งสำคัญ แต่เดี๋ยวนี้เป็นการจองคอนโดผ่านออนไลน์สำคัญกว่า

ด้าน อิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ผู้ประกอบการรายขนาดกลางและเล็กจะอยู่ได้นั้นต้องโฟกัสในตลาดที่เชี่ยวชาญอาศัยความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ และเชนต้องไม่ยาว จะเห็นได้ว่าบริษัทขนาดใหญ่ก็พยายามทำให้เล็กก็ยังเป็นปัญหาอยู่ดี เพราะบริษัยยิ่งใหญ่ เชนบริหารจะยาวและมีปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการ

อนงค์ลักษณ์ แพทยานันท์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เจ้าพระยามหานคร ย้ำว่า ผู้ประกอบการรายขนาดกลางต้องทำในสิ่งที่ตนถนัดที่สุด และต้องทบทวนอยู่เสมอว่าอะไรคือจุดอ่อน สิ่งที่สำคัญต้องอาศัยฐานข้อมูลเพื่อให้การดำเนินงานเป็นทิศทางที่ถูกต้อง