ธอส.หาช่องจับพันธมิตรปลุกบ้านเก่า
ธอส.เตรียมผนึก กำลังแบงก์รัฐ บริษัทบริหารสินทรัพย์ ปลุกตลาดบ้านมือสอง คัดทรัพย์ดี 5 หมื่นล้าน ออกมาขายปลายปีนี้
นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในฐานะที่ ธอส.เป็นประธานสภาสถาบันการเงิน เฉพาะกิจ จะขอความร่วมมือธนาคารสมาชิก และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท หรือ SAM และบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ หรือ BAM รวมถึงกรมบังคับคดี ในการนำทรัพย์สินรอการขาย หรือเอ็นพีเอ ของทุกหน่วยงานนำมารวมกันออกจำหน่ายภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะมี เอ็นพีเอที่จะนำออกมาจำหน่ายไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ จะให้ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้รวบรวมข้อมูลและดำเนินการจำหน่าย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงการคลัง ที่ต้องการให้การทำฐานข้อมูลบ้าน มือสองเก็บรวบรวมไว้
สำหรับการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นเชื่อว่า มูลค่าหรือทรัพย์ที่เป็นบ้าน มือสองในตลาด มีขนาดเท่าๆ กับ บ้านใหม่ ที่ผ่านมาธุรกรรมการจำหน่ายบ้านมือสองทำโดยเอกชน หรือขายกันเองระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ดังนั้นการที่ภาครัฐได้เข้ามารวบรวมข้อมูลบ้านมือสองได้จะช่วยให้มีข้อมูลในการพิจารณาหรือออกมาตรการเพื่อช่วยผู้ที่ยังด้อยโอกาสได้ตรงเป้าหมายต่อไป
"ตอนนี้ให้ทุกหน่วยงานคัดทรัพย์เอ็นพีเอออกมาจำหน่าย เชื่อว่าตลาดบ้านมือสองเป็นตลาดใหญ่มาก ซึ่งภาครัฐควรเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ โดยในส่วนของ ธอส.จะให้สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมวงเงินที่ปล่อยกู้เพื่อเอาไปซ่อม ต่อเติม ตกแต่งบ้านได้ด้วย" นายสุรชัย กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการบ้านผู้มีรายได้น้อย จำนวน 1 ล้านยูนิต ซึ่งจะมีการทำโครงการนำร่องในปีนี้ก่อน 1 แสนยูนิต ซึ่งจะมีโครงการ ร่วมกับกรมธนารักษ์ ทำบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ที่จะสร้างบ้านเป็นชุมชนตัวอย่างซึ่งจะมีทั้งบ้านผู้มีรายได้น้อย ปานกลาง มีสถานที่ประกอบอาชีพ มีโรงเรียน โดยจะใช้พื้นที่ของกรมธนารักษ์ที่ จ.ขอนแก่น ในการทำโครงการนี้ ในส่วนของบ้านที่ต้องสร้างใหม่
ด้าน นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า การปล่อย สินเชื่อบ้านให้กับข้าราชการครูของธนาคารไม่มีปัญหาหนี้เสีย หรือมีปัญหาการผ่อนชำระแต่อย่างไร เนื่องจากครูที่กู้เงินซื้อบ้านจาก ธอส. เป็นครู ที่ต้องการมีบ้านที่อยู่อาศัยจริงๆ ไม่ใช่ครูที่ต้องการสร้างหนี้ไปใช้จ่ายอย่างอื่นจึงมีวินัยการผ่อนชำระหนี้สูง ปัจจุบันมีครูที่เป็นลูกหนี้ของธนาคารประมาณ 3-4 หมื่นราย วงเงินสินเชื่อประมาณ 2 หมื่นล้านบาท