โชคชัย สีนิลแท้

อสังหาโตต่อเนื่อง

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ฟันธง ดอกเบี้ยขยับ 0.25% ไม่กระทบตลาดอสังหาฯ เชื่อทั้งปีโต ไม่ต่ำ 8-10% ได้แรงหนุนรัฐเร่งลงทุน  

ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัย 4 ที่ยังมีความต้องการอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ยิ่งส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประเมินตลาดที่อยู่อาศัยในครึ่งหลังปี 2561 ทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทานยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยอุปทานโครงการเปิดตัวใหม่กรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 22.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 และเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกปี 2561 ที่มีการชะลอตัวลง

คาดการณ์ว่าทั้งปี 2561 จะมีโครงการเปิดใหม่จำนวน 117,100 หน่วย เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับปี 2560 แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 49,600 หน่วย เพิ่มขึ้น 0.7% คอนโดมิเนียม 67,500 หน่วย เพิ่มขึ้น 3.9% จากปี 2560 สำหรับอุปทานจากที่อยู่อาศัยสร้าง เสร็จจดทะเบียนในช่วงครึ่งหลังปี 2561 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 และ เพิ่มขึ้น 16.2% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2561 โดยคาดว่าตลอดทั้งปี 2561 จะมีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 128,000 หน่วย เพิ่มขึ้น 11.7% เมื่อเทียบกับปี 2560 แบ่งเป็นที่ อยู่อาศัยแนวราบ 58,128 หน่วย เพิ่มขึ้น 13.4% และคอนโดมิเนียม 69,872 หน่วย เพิ่มขึ้น 10.3% เมื่อเทียบกับปี 2560

ด้านการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ครึ่งปีหลังจะมีจำนวน 86,482 หน่วย มูลค่า 202,887 หน่วย ซึ่งลดลง 8.3% และ 16.9% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 และลดลง -6% และ-21% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก 2561

ทั้งปี 2561 จะมีที่อยู่อาศัยโอน กรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวม 178,448 หน่วย เพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเทียบกับปี 2560 แบ่งเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 92,593 หน่วย เพิ่มขึ้น 11.2% คอนโดมิเนียม 85,855 หน่วย เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปี 2560 ขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2561 คาดว่าจะมีมูลค่า 459,669 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5% แบ่งเป็น มูลค่าที่อยู่อาศัยแนวราบ 250,430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% คอนโดมิเนียม 209,238 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5%

สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 มีจำนวนประมาณ 57 โครงการ มีหน่วยในผังรวม 15,907 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 61,354 ล้านบาท ลดลงทั้งจำนวนโครงการ จำนวนหน่วย และมูลค่าโครงการ โดยโครงการลดลง -32.9%

จำนวนหน่วยลดลง -44.9% และมูลค่าโครงการลดลง 43.9% เมื่อเทียบกับปี 2560 ในไตรมาส 2 โครงการเปิดใหม่ลดลง เพราะผู้ประกอบการชะลอการเปิดตัวหลังจากช่วงปีที่ผ่านมามีการเปิดโครงการใหม่จำนวนมากพอแล้ว จึงมาเน้นบุกตลาดในช่วงไตรมาส 3 คาดว่าจะมีโครงการใหม่อย่างมาก โดยในเดือน ก.ค. มีโครงการเปิดใหม่สูงถึง 1.4 หมื่นหน่วย

"ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ทั้งประเทศในปีนี้ เชื่อว่าจะเติบโตได้ 8-10% แม้ว่าจะมีปัจจัยจากดอกเบี้ยขาขึ้น จากการที่จะขยับดอกเบี้ยตามการปรับขึ้นตามธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด 2 ครั้ง ซึ่งหากขยับขึ้นตามจะเป็นการขัดขวางการขยายตัวเศรษฐกิจในประเทศ ประเมินว่าในครึ่งปีหลังหากจะมีการขยับดอกเบี้ยขึ้นจะขึ้นไม่เกิน 0.25% ซึ่งจะไม่กระทบ กำลังซื้ออสังหาฯ" วิชัย กล่าว

ขณะที่ด้านดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 3 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) ไตรมาส 2 ปี 2561 มีค่าดัชนีเท่ากับ 122.5 จุด เพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 116.8 จุด และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกปี 2561 จำนวน 1.2% โดยดัชนีราคาบ้านเดี่ยวมีค่าดัชนี เท่ากับ 120.9 จุด เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีค่าดัชนี เท่ากับ 115.1 จุด ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกปี 2561 ราว 1.3% ส่วนดัชนีราคา ทาวน์เฮาส์ มีค่าดัชนีเท่ากับ 124.2 จุด เพิ่มขึ้น 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 118.8 จุด และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกปี 2561 เฉลี่ย 1%