คุมสินเชื่ออสังหาใหม่วูบ20%
วันที่ : 19 ตุลาคม 2561
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผย ผลกระทบแบงก์ชาติคุมเข้มสินเชื่อบ้าน คาดปี 2562 อุปทานเปิดตัวใหม่ลดลง 20% ยอดโอนกรรมสิทธิ์วูบ 5%
อสังหาใหม่ลด
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผย ผลกระทบแบงก์ชาติคุมเข้มสินเชื่อบ้าน คาดปี 2562 อุปทานเปิดตัวใหม่ลดลง 20% ยอดโอนกรรมสิทธิ์วูบ 5%
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยผลกระทบแบงก์ชาติคุมสินเชื่อบ้าน ปี 2562 อุปทานเปิดตัวใหม่ลด 20% โอนกรรมสิทธิ์วูบ 5%
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประเมินตัวเลขผลกระทบจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมประกาศใช้เกณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยลดวงเงินสินเชื่อต่อหลักประกัน (LTV) และยึดเกณฑ์เดิมทุกมาตรการที่อยู่ระหว่างทำประชาพิจารณ์ที่จะประกาศใช้ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2562 จะส่งผลให้จำนวนอุปทานโครงการเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลลดลง 20% จากทั้งปีที่คาดว่าจะมียูนิตเปิดใหม่ประมาณ 1 แสนหน่วย จะเปิดตัวลดลง 2 หมื่นหน่วย
นอกจากนี้ ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2562 จะลดลง 5% เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยการโอนสัญญาหลังที่ 2 จะหายไปประมาณ 2 หมื่นหน่วยเช่นกัน จากทั้งปี 2561 คาดว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งปีประมาณ 3.4 แสนหน่วย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7 แสนล้านบาท แต่หาก ธปท.ปรับใช้กับการทำสัญญากับที่อยู่อาศัยหลังที่ 3 เชื่อว่าตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร กล่าวว่า จากการระดมความคิดเห็นของผู้ประกอบการอสังหาฯ มีความเป็นไปได้ว่า ธปท.จะมีการปรับสัญญาไปใช้คุมสินเชื่อสำหรับกู้ซื้อบ้านหลังที่ 3 เนื่องจากเป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไรอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน ทางสมาคมอาคารชุดไทยเตรียมยื่นหนังสือในวันที่ 19 ต.ค.นี้ เนื่องจากที่อยู่ประเภทอาคารชุดได้รับผลกระทบมากที่สุด เรื่องนำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับเกณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยกับทางผู้ว่าการ ธปท. โดยต้องการให้ ธปท.คุม LTV เดิมอย่างมีประสิทธิภาพเป็นเวลา 6 เดือนก่อน หากไม่ดีขึ้นให้ปรับขึ้นเป็นขั้นๆ ภายในระยะเวลา 1-2 ปี เพราะผู้ซื้อบางส่วนซื้อก่อนในยอดดาวน์ LTV เดิม เป็นต้น
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผย ผลกระทบแบงก์ชาติคุมเข้มสินเชื่อบ้าน คาดปี 2562 อุปทานเปิดตัวใหม่ลดลง 20% ยอดโอนกรรมสิทธิ์วูบ 5%
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยผลกระทบแบงก์ชาติคุมสินเชื่อบ้าน ปี 2562 อุปทานเปิดตัวใหม่ลด 20% โอนกรรมสิทธิ์วูบ 5%
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประเมินตัวเลขผลกระทบจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมประกาศใช้เกณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยลดวงเงินสินเชื่อต่อหลักประกัน (LTV) และยึดเกณฑ์เดิมทุกมาตรการที่อยู่ระหว่างทำประชาพิจารณ์ที่จะประกาศใช้ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2562 จะส่งผลให้จำนวนอุปทานโครงการเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลลดลง 20% จากทั้งปีที่คาดว่าจะมียูนิตเปิดใหม่ประมาณ 1 แสนหน่วย จะเปิดตัวลดลง 2 หมื่นหน่วย
นอกจากนี้ ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2562 จะลดลง 5% เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยการโอนสัญญาหลังที่ 2 จะหายไปประมาณ 2 หมื่นหน่วยเช่นกัน จากทั้งปี 2561 คาดว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งปีประมาณ 3.4 แสนหน่วย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7 แสนล้านบาท แต่หาก ธปท.ปรับใช้กับการทำสัญญากับที่อยู่อาศัยหลังที่ 3 เชื่อว่าตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร กล่าวว่า จากการระดมความคิดเห็นของผู้ประกอบการอสังหาฯ มีความเป็นไปได้ว่า ธปท.จะมีการปรับสัญญาไปใช้คุมสินเชื่อสำหรับกู้ซื้อบ้านหลังที่ 3 เนื่องจากเป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไรอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน ทางสมาคมอาคารชุดไทยเตรียมยื่นหนังสือในวันที่ 19 ต.ค.นี้ เนื่องจากที่อยู่ประเภทอาคารชุดได้รับผลกระทบมากที่สุด เรื่องนำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับเกณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยกับทางผู้ว่าการ ธปท. โดยต้องการให้ ธปท.คุม LTV เดิมอย่างมีประสิทธิภาพเป็นเวลา 6 เดือนก่อน หากไม่ดีขึ้นให้ปรับขึ้นเป็นขั้นๆ ภายในระยะเวลา 1-2 ปี เพราะผู้ซื้อบางส่วนซื้อก่อนในยอดดาวน์ LTV เดิม เป็นต้น
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ