AWC พลิกโฉมที่ริมเจ้าพระยา
วันที่ : 11 มิถุนายน 2568
AWC เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวถือเป็น โปรเจ็กต์อสังหาฯ ระดับเรือธงที่จะเข้ามาเติมเต็มโครงข่ายพื้นที่วัฒนธรรม และเป็นจุดหมายปลายทางด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (The Integrated Wellness Destination) และเป็นศูนย์กลางด้านการบริการลักเซอรี่ครบวงจรระดับโลก
ทุ่ม 5 พันล.ผุด 'ริทซ์-คาร์ลตัน' ฮับสุขภาพ
AWC ได้ฤกษ์ลงเสาเอก The Ritz- Carlton Riverside Bangkok โรงแรมหรูมูลค่า 5 พันล้าน จุดหมายปลายทาง ด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ศูนย์กลางด้านการบริการลักเซอรี่ครบวงจรระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมจุดขายใหม่ Heritage Destination เชื่อมโยงประสบการณ์ประวัติศาสตร์ริมน้ำ ตั้งแต่เอเชียทีค ผ่านเลานจ์ของ Ritz-Carlton ไปฝั่งตรงข้ามชุมชนจีนโบราณในทรงวาด ไชน่าทาวน์ เวิ้งนาครเขษม ตั้งเป้าเป็นต้นแบบ Sustainable Tourism Destination ที่เติบโตไปพร้อมกับชุมชนโดยรอบ คาดเปิดให้บริการปี 2571
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ฤกษ์ลงเสาเอกโครงการ The Ritz-Carlton Riverside Bangkok โรงแรมหรูมูลค่า 5,000 ล้านบาทไปแล้วเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว (ล้ง 1919) พร้อมประกอบด้วยพิธี สักการะบูชาตามประเพณีเพื่อถวายแด่องค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว
พร้อมเปิดกลางปี'71
โดยโครงการดังกล่าวถือเป็น โปรเจ็กต์อสังหาฯ ระดับเรือธงที่จะเข้ามาเติมเต็มโครงข่ายพื้นที่วัฒนธรรม และเป็นจุดหมายปลายทางด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (The Integrated Wellness Destination) และเป็นศูนย์กลางด้านการบริการลักเซอรี่ครบวงจรระดับโลก ครอบคลุมทั้งห้องอาหารชั้นนำและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่เชื่อมโยงกับชุมชน สร้างคุณค่าใน ระยะยาว ผ่านจุดหมายปลายทางที่สะท้อนการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม พร้อม ส่งเสริมบทบาทของกรุงเทพฯ ในฐานะ จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก
"เราวางจุดยืนใหม่ในตลาดการท่องเที่ยวด้วยแนวคิด Riverfront Heritage Destination ที่ผสานประสบการณ์เชิงวัฒนธรรม วิถีชีวิต Wellness Retreat และการเดินทางทางน้ำในแบบร่วมสมัย และเชื่อมโยงเรื่องราว ที่ทรงคุณค่าของชุมชนริมเจ้าพระยากับอนาคตของการท่องเที่ยวคุณภาพ ด้วยพื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเดินทาง ทั่วโลก" นางวัลลภากล่าว และว่าโครงการนี้จะเป็น Destination สำหรับนักเดินทางคุณภาพจากทั่วโลก แบ่งเป็นการพัฒนาอาคารใหม่ อาคารอนุรักษ์ และโครงสร้างเชื่อมโยงฝั่งแม่น้ำ ซึ่งได้รับอนุมัติ EIA และอยู่ระหว่างเร่งก่อสร้างหลังลงเสาเอก โดยมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2571
"หนึ่งในจุดเด่นของโครงการคือ การผสมผสานความเก่าและใหม่อย่างลงตัว ตัวอาคารอนุรักษ์จะถูกรักษาไว้ทั้งรูปแบบตึกเก่า ทรงตัวยู ศาลเจ้าแม่ หม่าโจ้ว และจิตรกรรมดั้งเดิม ขณะที่อาคารใหม่ด้านหลังจะใช้แนวคิด Modern Inspired by Heritage เพื่อรักษาบริบทดั้งเดิมแต่ยังทันสมัย ออกแบบยังอิงตามหลักฮวงจุ้ย เช่น การจัดวางภูเขาไว้ด้านหลังเพื่อรองรับพลังจากศาลเจ้า และอาคารต่ำไว้ด้านหน้าริมน้ำ เพื่อคงทัศนียภาพของพื้นที่ประวัติศาสตร์" นางวัลลภากล่าว
ตอบโจทย์ Next-Gen Travelers
นางวัลลภากล่าวว่า นอกจาก The Ritz-Carlton Riverside จะเป็นเดสติเนชั่นสำหรับนักเดินทางคุณภาพจากทั่วโลกแล้ว ยังตั้งเป้าให้เป็นเดสติเนชั่นสำหรับนักเดินทางรุ่นใหม่ หรือ Next-Gen Travelers จากทั่วโลกที่ มองหาความหมายในการเดินทางมากกว่าแค่ความหรูหราด้วย เช่น การพักผ่อนเพื่อค้นหาตัวตน การสร้าง แรงบันดาลใจ หรือการใช้เวลากับครอบครัวอย่างมีคุณภาพ
"นักเดินทางคุณภาพในยุคนี้ไม่ได้เลือกที่พักเพราะแค่ดีไซน์สวย หรือทำเลดี แต่ต้องการแรงบันดาลใจและเรื่องราวที่ลึกซึ้ง" นางวัลลภากล่าว และว่า นอกจากนี้ ยังเตรียมพัฒนาห้องพักแบบ Presidential Rooftop Suite พร้อมพื้นที่รองรับกลุ่มแฟมิลี่ หรือกลุ่มนักเดินทางที่ต้องการอยู่ระยะยาวในกรุงเทพฯ ผสมผสานความเป็นส่วนตัวกับวิวเจ้าพระยา และบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร
เชื่อม 3 พื้นที่ประวัติศาสตร์
นางวัลลภากล่าวด้วยว่า โครงการนี้เป็นการรวมที่ดิน 3 แปลง ได้แก่ ล้ง 1919, พื้นที่พัฒนาใหม่ริมแม่น้ำ และพื้นที่ฝั่งทรงวาด โดยวางคอนเซ็ปต์ "River Journey Project" เชื่อมโยงประสบการณ์จากเอเชียทีค ผ่านเลานจ์ของ Ritz-Carlton ไปยังฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำที่เชื่อมต่อชุมชนจีนโบราณในทรงวาด ไชน่าทาวน์ และเวิ้งนาครเขษม
โดยพื้นที่ฝั่ง ล้ง 1919 จะเน้น "หยิน" ความสงบ การพักผ่อน และการเยียวยา ส่วนฝั่งทรงวาด จะนำเสนอ "หยาง" ความคึกคัก วัฒนธรรม และประสบการณ์เชิงท่องเที่ยว
โดยแขกผู้เข้าพักในโรงแรมสามารถเดินทางระหว่าง 3 พื้นที่ของโครงการด้วยเรือรับส่งพิเศษ นอกจากนี้ บริษัทยังแผนพัฒนาเส้นทางรถรางไฟฟ้า (Tram) เพื่อรองรับการเชื่อมต่อระหว่างแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ ด้วย
ต้นแบบ Sustainable Tourism
นางวัลลภากล่าวถึงภาพรวมการ ท่องเที่ยวด้วยว่า แม้จำนวนนักท่องเที่ยว จีนจะยังไม่กลับมาคึกคักเต็มที่ แต่บริษัทคงเห็นดีมานด์การเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาติอื่น และตลาดในประเทศ ซึ่งให้ความสนใจกับคอนเซ็ปต์เวลเนสและวัฒนธรรม
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเตรียมเดินหน้า ร่วมมือกับพันธมิตรในกลุ่ม MICE และ Tourism Network ระดับนานาชาติ เพื่อเสริมความเชื่อมั่นในประเทศไทย ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านวัฒนธรรม และเวลเนสอย่างยั่งยืนด้วย
โดยดำเนินงานภายใต้มาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นมาตรฐานการออกแบบและก่อสร้างอาคารสีเขียวระดับโลก โดยหวังให้ The Ritz-Carlton Riverside เป็นต้นแบบของ Sustainable Tourism Destination ที่เติบโตไปพร้อมกับชุมชนโดยรอบ
"เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์ ไม่ใช่แค่โครงการพัฒนาอสังหาฯ แต่คือพื้นที่ที่สร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่า ทั้งในด้านวัฒนธรรม สุขภาพ และ จิตวิญญาณ เป็นการต่อยอดเรื่องราวจากอดีตสู่อนาคต เพื่อสร้างอนาคตของการท่องเที่ยวไทยอย่างแท้จริง" นางวัลลภากล่าว
นางวัลลภากล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์ เป็นอาคารหลักสูง 20 ชั้น ประกอบด้วย ห้องพักระดับลักเซอรี่ ห้องอาหารรูฟท็อปพร้อมวิวแบบ พาโนรามา ห้องบอลรูมขนาดใหญ่ และห้องอาหารอีกหลากหลายแห่ง ส่วนอาคารเก่าแก่ 2 หลังจะได้รับการบูรณะเป็นห้องพักเพิ่มเติม พร้อมห้องอาหาร และศูนย์สุขภาพขนาดใหญ่ รวมห้องพัก ทั้งหมด 167 ห้อง
ส่วนอีกฟากฝั่งของแม่น้ำอาคาร Shophouse ฝั่งทรงวาด จะได้รับการพัฒนาเป็นห้องพักที่ได้รับการออกแบบเป็นบรรยากาศวัฒนธรรมไทย-จีน ริมฝั่งเจ้าพระยาอย่างแท้จริง ทำให้โครงการมีห้องพักรวมทั้งหมด 191 ห้อง โดยทั้ง 2 พื้นที่จะเชื่อมต่อถึงกันด้วยบริการเรือไฟฟ้า นอกจากนี้ โครงการยังได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดการพัฒนาอาคารสีเขียว (Green Building) และอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อขอรับการรับรองในอนาคต
AWC ได้ฤกษ์ลงเสาเอก The Ritz- Carlton Riverside Bangkok โรงแรมหรูมูลค่า 5 พันล้าน จุดหมายปลายทาง ด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ศูนย์กลางด้านการบริการลักเซอรี่ครบวงจรระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมจุดขายใหม่ Heritage Destination เชื่อมโยงประสบการณ์ประวัติศาสตร์ริมน้ำ ตั้งแต่เอเชียทีค ผ่านเลานจ์ของ Ritz-Carlton ไปฝั่งตรงข้ามชุมชนจีนโบราณในทรงวาด ไชน่าทาวน์ เวิ้งนาครเขษม ตั้งเป้าเป็นต้นแบบ Sustainable Tourism Destination ที่เติบโตไปพร้อมกับชุมชนโดยรอบ คาดเปิดให้บริการปี 2571
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ฤกษ์ลงเสาเอกโครงการ The Ritz-Carlton Riverside Bangkok โรงแรมหรูมูลค่า 5,000 ล้านบาทไปแล้วเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว (ล้ง 1919) พร้อมประกอบด้วยพิธี สักการะบูชาตามประเพณีเพื่อถวายแด่องค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว
พร้อมเปิดกลางปี'71
โดยโครงการดังกล่าวถือเป็น โปรเจ็กต์อสังหาฯ ระดับเรือธงที่จะเข้ามาเติมเต็มโครงข่ายพื้นที่วัฒนธรรม และเป็นจุดหมายปลายทางด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (The Integrated Wellness Destination) และเป็นศูนย์กลางด้านการบริการลักเซอรี่ครบวงจรระดับโลก ครอบคลุมทั้งห้องอาหารชั้นนำและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่เชื่อมโยงกับชุมชน สร้างคุณค่าใน ระยะยาว ผ่านจุดหมายปลายทางที่สะท้อนการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม พร้อม ส่งเสริมบทบาทของกรุงเทพฯ ในฐานะ จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก
"เราวางจุดยืนใหม่ในตลาดการท่องเที่ยวด้วยแนวคิด Riverfront Heritage Destination ที่ผสานประสบการณ์เชิงวัฒนธรรม วิถีชีวิต Wellness Retreat และการเดินทางทางน้ำในแบบร่วมสมัย และเชื่อมโยงเรื่องราว ที่ทรงคุณค่าของชุมชนริมเจ้าพระยากับอนาคตของการท่องเที่ยวคุณภาพ ด้วยพื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเดินทาง ทั่วโลก" นางวัลลภากล่าว และว่าโครงการนี้จะเป็น Destination สำหรับนักเดินทางคุณภาพจากทั่วโลก แบ่งเป็นการพัฒนาอาคารใหม่ อาคารอนุรักษ์ และโครงสร้างเชื่อมโยงฝั่งแม่น้ำ ซึ่งได้รับอนุมัติ EIA และอยู่ระหว่างเร่งก่อสร้างหลังลงเสาเอก โดยมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2571
"หนึ่งในจุดเด่นของโครงการคือ การผสมผสานความเก่าและใหม่อย่างลงตัว ตัวอาคารอนุรักษ์จะถูกรักษาไว้ทั้งรูปแบบตึกเก่า ทรงตัวยู ศาลเจ้าแม่ หม่าโจ้ว และจิตรกรรมดั้งเดิม ขณะที่อาคารใหม่ด้านหลังจะใช้แนวคิด Modern Inspired by Heritage เพื่อรักษาบริบทดั้งเดิมแต่ยังทันสมัย ออกแบบยังอิงตามหลักฮวงจุ้ย เช่น การจัดวางภูเขาไว้ด้านหลังเพื่อรองรับพลังจากศาลเจ้า และอาคารต่ำไว้ด้านหน้าริมน้ำ เพื่อคงทัศนียภาพของพื้นที่ประวัติศาสตร์" นางวัลลภากล่าว
ตอบโจทย์ Next-Gen Travelers
นางวัลลภากล่าวว่า นอกจาก The Ritz-Carlton Riverside จะเป็นเดสติเนชั่นสำหรับนักเดินทางคุณภาพจากทั่วโลกแล้ว ยังตั้งเป้าให้เป็นเดสติเนชั่นสำหรับนักเดินทางรุ่นใหม่ หรือ Next-Gen Travelers จากทั่วโลกที่ มองหาความหมายในการเดินทางมากกว่าแค่ความหรูหราด้วย เช่น การพักผ่อนเพื่อค้นหาตัวตน การสร้าง แรงบันดาลใจ หรือการใช้เวลากับครอบครัวอย่างมีคุณภาพ
"นักเดินทางคุณภาพในยุคนี้ไม่ได้เลือกที่พักเพราะแค่ดีไซน์สวย หรือทำเลดี แต่ต้องการแรงบันดาลใจและเรื่องราวที่ลึกซึ้ง" นางวัลลภากล่าว และว่า นอกจากนี้ ยังเตรียมพัฒนาห้องพักแบบ Presidential Rooftop Suite พร้อมพื้นที่รองรับกลุ่มแฟมิลี่ หรือกลุ่มนักเดินทางที่ต้องการอยู่ระยะยาวในกรุงเทพฯ ผสมผสานความเป็นส่วนตัวกับวิวเจ้าพระยา และบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร
เชื่อม 3 พื้นที่ประวัติศาสตร์
นางวัลลภากล่าวด้วยว่า โครงการนี้เป็นการรวมที่ดิน 3 แปลง ได้แก่ ล้ง 1919, พื้นที่พัฒนาใหม่ริมแม่น้ำ และพื้นที่ฝั่งทรงวาด โดยวางคอนเซ็ปต์ "River Journey Project" เชื่อมโยงประสบการณ์จากเอเชียทีค ผ่านเลานจ์ของ Ritz-Carlton ไปยังฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำที่เชื่อมต่อชุมชนจีนโบราณในทรงวาด ไชน่าทาวน์ และเวิ้งนาครเขษม
โดยพื้นที่ฝั่ง ล้ง 1919 จะเน้น "หยิน" ความสงบ การพักผ่อน และการเยียวยา ส่วนฝั่งทรงวาด จะนำเสนอ "หยาง" ความคึกคัก วัฒนธรรม และประสบการณ์เชิงท่องเที่ยว
โดยแขกผู้เข้าพักในโรงแรมสามารถเดินทางระหว่าง 3 พื้นที่ของโครงการด้วยเรือรับส่งพิเศษ นอกจากนี้ บริษัทยังแผนพัฒนาเส้นทางรถรางไฟฟ้า (Tram) เพื่อรองรับการเชื่อมต่อระหว่างแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ ด้วย
ต้นแบบ Sustainable Tourism
นางวัลลภากล่าวถึงภาพรวมการ ท่องเที่ยวด้วยว่า แม้จำนวนนักท่องเที่ยว จีนจะยังไม่กลับมาคึกคักเต็มที่ แต่บริษัทคงเห็นดีมานด์การเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาติอื่น และตลาดในประเทศ ซึ่งให้ความสนใจกับคอนเซ็ปต์เวลเนสและวัฒนธรรม
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเตรียมเดินหน้า ร่วมมือกับพันธมิตรในกลุ่ม MICE และ Tourism Network ระดับนานาชาติ เพื่อเสริมความเชื่อมั่นในประเทศไทย ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านวัฒนธรรม และเวลเนสอย่างยั่งยืนด้วย
โดยดำเนินงานภายใต้มาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นมาตรฐานการออกแบบและก่อสร้างอาคารสีเขียวระดับโลก โดยหวังให้ The Ritz-Carlton Riverside เป็นต้นแบบของ Sustainable Tourism Destination ที่เติบโตไปพร้อมกับชุมชนโดยรอบ
"เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์ ไม่ใช่แค่โครงการพัฒนาอสังหาฯ แต่คือพื้นที่ที่สร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่า ทั้งในด้านวัฒนธรรม สุขภาพ และ จิตวิญญาณ เป็นการต่อยอดเรื่องราวจากอดีตสู่อนาคต เพื่อสร้างอนาคตของการท่องเที่ยวไทยอย่างแท้จริง" นางวัลลภากล่าว
นางวัลลภากล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์ เป็นอาคารหลักสูง 20 ชั้น ประกอบด้วย ห้องพักระดับลักเซอรี่ ห้องอาหารรูฟท็อปพร้อมวิวแบบ พาโนรามา ห้องบอลรูมขนาดใหญ่ และห้องอาหารอีกหลากหลายแห่ง ส่วนอาคารเก่าแก่ 2 หลังจะได้รับการบูรณะเป็นห้องพักเพิ่มเติม พร้อมห้องอาหาร และศูนย์สุขภาพขนาดใหญ่ รวมห้องพัก ทั้งหมด 167 ห้อง
ส่วนอีกฟากฝั่งของแม่น้ำอาคาร Shophouse ฝั่งทรงวาด จะได้รับการพัฒนาเป็นห้องพักที่ได้รับการออกแบบเป็นบรรยากาศวัฒนธรรมไทย-จีน ริมฝั่งเจ้าพระยาอย่างแท้จริง ทำให้โครงการมีห้องพักรวมทั้งหมด 191 ห้อง โดยทั้ง 2 พื้นที่จะเชื่อมต่อถึงกันด้วยบริการเรือไฟฟ้า นอกจากนี้ โครงการยังได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดการพัฒนาอาคารสีเขียว (Green Building) และอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อขอรับการรับรองในอนาคต
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ