CHEWA เพิ่มรายได้-ค่าเช่าลุย "ลดหนี้" ทุ่ม500ล.ดีลซื้อที่ดิน4โครงการใหม่
วันที่ : 20 กุมภาพันธ์ 2568
CHEWA วางแผนเติบโตด้านรายได้และลดหนี้ต่อเนื่อง เพิ่มรายได้จากธุรกิจให้เช่าและนิติบุคคล ประมูลบ้านมือสอง ธุรกิจโรงงานสำเร็จรูป ลุยลดหนี้ลงอีก ทุ่ม 500 ล้าน ซื้อที่ดิน 4 โครงการคอนโดโลว์ไรส์ใหม่ รองรับแผนปี 69 มูลค่ารวม 2,395 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 จำนวน 2,000 ล้านบาท
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า ในปี 2568 ชีวาทัยเดินหน้าศึกษาเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมุ่งเน้นเซกเมนต์ที่บริษัทถนัดและได้รับผลตอบรับที่ดีมาตลอด ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมในช่วงราคา 2-4 ล้านบาท ผ่านแบรนด์หลัก Chewathai Hallmark โดยเตรียมงบ 503 ล้านบาท ซื้อที่ดิน 4 โครงการ มูลค่ารวม 2,395 ล้านบาท รองรับแผนในปี 2569 โดยเน้นทำเลที่มีความหนาแน่นของชุมชน มีกลุ่มผู้เช่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังมีการเจรจาเพื่อเข้าซื้อคอนโดฯ ระหว่างก่อสร้าง ที่ผ่านEIA แล้ว เพื่อการ รับรู้รายได้ที่เร็วขึ้นอีก 1-2 โครงการในปีนี้ เพื่อขับเคลื่อนให้ได้เป้าหมายที่ต้องการการรับรู้ รายได้ปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2,000 ล้านบาท วางเป้าขาย 2,500 ล้านบาท โดยบริษัทยังขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) โดยเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและเชื่อมโยงกับธุรกิจเดิมของบริษัท ได้แก่ ธุรกิจบ้านมือสอง ภายใต้แบรนด์ Chewa Renue วางเป้าเข้าประมูลทั้งปีประมาณ 35 หลัง เน้นบ้านเดี่ยวที่อยู่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร ราคา 3-5 ล้านบาท เพราะมีดีมานด์อยู่ และธุรกิจนิติบุคคล
ด้านกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ในปีนี้ มีการต่อยอดนโยบายด้านการขายที่ได้รับผลตอบรับที่ดี คือโปรโมชัน "อยากซื้อต้องได้ซื้อ" ที่มาในรูปแบบของการให้บริการ fnancial consultant เข้าดูแลลูกค้าที่มีปัญหาด้านการเงิน เพื่อให้สามารถกู้ผ่านและโอนได้ ทำให้มี backlog ส่วนหนึ่งที่อยู่กับเรานานมาก บางรายมากกว่า 6 เดือน และค่อยๆปรับปรุงวินัยทางการเงินจนสามารถกู้ได้สำเร็จ และจัดโปรโมชันใหญ่ของชีวาทัย "MEGA SALES" ลดราคา ลดกำไรลง ซึ่งเป็นโอกาสดี ของผู้ซื้ออสังหาฯในตอนนี้
"บริษัทมีแผนลดภาระหนี้หุ้นกู้รวม 470 ล้านบาท โดยปีนี้สามารถลดภาระหนี้ลงได้แล้ว 250 ล้านบาท จากการชำระคืนหุ้นกู้ ภายในปี 2568 จะเร่งลดหนี้ลงอย่างต่อเนื่องอีก 220 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567) มูลค่ารวม 949 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดฯ 792 ล้านบาท แนวราบ 157 ล้านบาท นอกจาก รายได้ด้านการขายอสังหาริมทรัพย์เดิมของชีวาทัยแล้ว ยังเร่งสร้างรายได้จากโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการหลักที่จะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ ได้แก่ โครงการคอนโดฯ "ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา" มูลค่าโครงการ 1,014 ล้านบาท
ธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ระยอง คาดว่า 4 โรงงานเฉลี่ย 2,000 ตร.ม.ต่อโรงงานที่ก่อสร้างเพิ่มเสร็จ จะมีผู้เช่าเต็มภายในระยะเวลา 2-3 เดือน จากนี้ สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมในปีที่ผ่านมา อยู่ในช่วงหดตัว ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน แม้มีมาตรการกระตุ้นของภาครัฐที่ลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองจากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 0.01 พร้อมขยายเพดานจากราคา 3 ล้านบาทเพิ่มเป็น 7 ล้านบาท
ปัจจัยด้านลบย้งมี เช่น อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้กระทบต่อความมั่นใจของลูกค้าในภาพรวมสำหรับชีวาทัย แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากกระแสของลูกค้าที่ชะลอตัว แต่จากสถิติที่ผ่านมาพบว่า จำนวนลูกค้าที่เข้าชมโครงการไม่ได้ลดลง แต่ลูกค้าใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจนานขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการเจรจาเพื่อเข้าซื้อคอนโดฯ ระหว่างก่อสร้าง ที่ผ่านEIA แล้ว เพื่อการ รับรู้รายได้ที่เร็วขึ้นอีก 1-2 โครงการในปีนี้ เพื่อขับเคลื่อนให้ได้เป้าหมายที่ต้องการการรับรู้ รายได้ปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2,000 ล้านบาท วางเป้าขาย 2,500 ล้านบาท โดยบริษัทยังขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) โดยเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและเชื่อมโยงกับธุรกิจเดิมของบริษัท ได้แก่ ธุรกิจบ้านมือสอง ภายใต้แบรนด์ Chewa Renue วางเป้าเข้าประมูลทั้งปีประมาณ 35 หลัง เน้นบ้านเดี่ยวที่อยู่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร ราคา 3-5 ล้านบาท เพราะมีดีมานด์อยู่ และธุรกิจนิติบุคคล
ด้านกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ในปีนี้ มีการต่อยอดนโยบายด้านการขายที่ได้รับผลตอบรับที่ดี คือโปรโมชัน "อยากซื้อต้องได้ซื้อ" ที่มาในรูปแบบของการให้บริการ fnancial consultant เข้าดูแลลูกค้าที่มีปัญหาด้านการเงิน เพื่อให้สามารถกู้ผ่านและโอนได้ ทำให้มี backlog ส่วนหนึ่งที่อยู่กับเรานานมาก บางรายมากกว่า 6 เดือน และค่อยๆปรับปรุงวินัยทางการเงินจนสามารถกู้ได้สำเร็จ และจัดโปรโมชันใหญ่ของชีวาทัย "MEGA SALES" ลดราคา ลดกำไรลง ซึ่งเป็นโอกาสดี ของผู้ซื้ออสังหาฯในตอนนี้
"บริษัทมีแผนลดภาระหนี้หุ้นกู้รวม 470 ล้านบาท โดยปีนี้สามารถลดภาระหนี้ลงได้แล้ว 250 ล้านบาท จากการชำระคืนหุ้นกู้ ภายในปี 2568 จะเร่งลดหนี้ลงอย่างต่อเนื่องอีก 220 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567) มูลค่ารวม 949 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดฯ 792 ล้านบาท แนวราบ 157 ล้านบาท นอกจาก รายได้ด้านการขายอสังหาริมทรัพย์เดิมของชีวาทัยแล้ว ยังเร่งสร้างรายได้จากโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการหลักที่จะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ ได้แก่ โครงการคอนโดฯ "ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา" มูลค่าโครงการ 1,014 ล้านบาท
ธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ระยอง คาดว่า 4 โรงงานเฉลี่ย 2,000 ตร.ม.ต่อโรงงานที่ก่อสร้างเพิ่มเสร็จ จะมีผู้เช่าเต็มภายในระยะเวลา 2-3 เดือน จากนี้ สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมในปีที่ผ่านมา อยู่ในช่วงหดตัว ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน แม้มีมาตรการกระตุ้นของภาครัฐที่ลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองจากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 0.01 พร้อมขยายเพดานจากราคา 3 ล้านบาทเพิ่มเป็น 7 ล้านบาท
ปัจจัยด้านลบย้งมี เช่น อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้กระทบต่อความมั่นใจของลูกค้าในภาพรวมสำหรับชีวาทัย แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากกระแสของลูกค้าที่ชะลอตัว แต่จากสถิติที่ผ่านมาพบว่า จำนวนลูกค้าที่เข้าชมโครงการไม่ได้ลดลง แต่ลูกค้าใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจนานขึ้น
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ