MJD จ่อโอนคอนโดเสร็จใหม่ใน Q3 โครงการเมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว มูลค่า 3 พันล้าน
วันที่ : 23 เมษายน 2568
แชร์ :
MJD เดินหน้าพัฒนาโครงการตามแผน ไร้กังวลแผ่นดินไหว ชี้ทุกขั้นตอนการก่อสร้างได้มาตรฐาน จ่อโอนคอนโดฯ ใหม่สร้างเสร็จ “เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว” มูลค่า 3,000 ล้านบาท ในไตรมาส 3/68 ลั่นผ่อนคลายเกณฑ์ LTV เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินเชื่อง่ายขึ้น ส่วนการลดค่าโอน-ค่าจดจำนอง กระตุ้นซื้อขายอสังหาฯ เพิ่ม
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ขณะนี้บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการตามแผนการที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3/2568 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเสร็จพร้อมโอนใหม่ คือ โครงการ เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้ว 70% และบริษัทยังคงมั่นใจว่าด้วยความพร้อมของโครงการ รวมถึงมาตรการที่ใช้ดูแลความมั่นใจของลูกค้า จะช่วยให้ภาพรวมในปี 2568 ยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว อาจมีความกังวลในตลาดอยู่บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และอาจส่งผลให้การตัดสินใจของผู้บริโภคชะลอลงในระยะสั้น แต่ความต้องการในการมีที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลศักยภาพ และจากการที่บริษัทออกมาให้ข้อมูลและยืนยันถึงมาตรฐานความปลอดภัยอย่างชัดเจน เชื่อว่าความเชื่อมั่นจะกลับคืนมาในระยะเวลาไม่นาน และไม่มีผลกระทบต่อภาพรวมของยอดขายในระยะยาว
“ส่วนการพัฒนาโครงการ เรายังไม่มีข้อกังวลใด ๆ ที่ต้องกังวลเป็นพิเศษ เพราะด้วยมาตรฐานของการออกแบบก่อสร้างโครงการของ MJD ทุกโครงการ เราใช้บริษัทออกแบบก่อสร้างที่มีชื่อเสียงระดับสากลในการออกแบบ โดยมีทีมวิศวกรโครงสร้าง วิศวกรงานระบบ และสถาปนิกควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนของการก่อสร้าง และก่อสร้างถูกต้องตามกฏหมาย พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 อย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว” นางสาวเพชรลดา กล่าว
ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมของ MJD ที่เป็นไฮไลต์ในปี 2568 นี้ มีด้วยกัน 2 ทำเล คือ 1.โครงการ เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว ตั้งอยู่ใจกลางห้าแยกลาดพร้าว ใกล้จุด Interchange ระหว่างสถานี BTS และ MRT และ 2.โครงการ มาร์ควิส พญาไท ที่สุดของลักซ์ซูรี่คอนโดมิเนียม ติดถนนพญาไท ห่างจากสถานี BTS เพียง 150 เมตร และใกล้จุด Interchange Station กับ Airport Link พญาไท โดยทุกโครงการของ MJD จะเลือกพัฒนาบนทำเลที่เป็น Prime Location เป็นหลัก เน้นการเดินทางที่สะดวกตอบโจทย์การใช้ชีวิต
สำหรับการผ่อนคลายมาตรการ LTV เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยจริงและผู้ซื้อบ้านหลังที่สอง ซึ่งไม่เพียงช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ แต่ยังส่งสัญญาณบวกต่อทั้งผู้พัฒนาและเศรษฐกิจในภาพรวม มองว่าเป็นผลดีกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ส่วนการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.01% นั้น ถือเป็นเรื่องดีที่ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์ในส่วนนี้ ทำให้ผู้บริโภคมีการตัดสินใจซื้อที่ง่ายมากขึ้น อาจส่งผลไปถึงในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมามีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มากยิ่งขึ้นด้วย
ขณะที่ยอดขายรอโอน (Backlog) บริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในแง่ของการสื่อสารอย่างใกล้ชิด การให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และการสร้างความเชื่อมั่นผ่านมาตรการต่าง ๆ ทั้งในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการ และความพร้อมในการส่งมอบที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ บริษัทยังมีความยืดหยุ่นในการดูแลลูกค้าเป็นรายกรณี เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและสะดวกใจในการโอนกรรมสิทธิ์ภายในกรอบเวลาที่เหมาะสม โดยยังคงรักษาประสิทธิภาพของ Backlog และคุณภาพความสัมพันธ์กับลูกค้าไว้ในระดับสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว อาจมีความกังวลในตลาดอยู่บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และอาจส่งผลให้การตัดสินใจของผู้บริโภคชะลอลงในระยะสั้น แต่ความต้องการในการมีที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลศักยภาพ และจากการที่บริษัทออกมาให้ข้อมูลและยืนยันถึงมาตรฐานความปลอดภัยอย่างชัดเจน เชื่อว่าความเชื่อมั่นจะกลับคืนมาในระยะเวลาไม่นาน และไม่มีผลกระทบต่อภาพรวมของยอดขายในระยะยาว
“ส่วนการพัฒนาโครงการ เรายังไม่มีข้อกังวลใด ๆ ที่ต้องกังวลเป็นพิเศษ เพราะด้วยมาตรฐานของการออกแบบก่อสร้างโครงการของ MJD ทุกโครงการ เราใช้บริษัทออกแบบก่อสร้างที่มีชื่อเสียงระดับสากลในการออกแบบ โดยมีทีมวิศวกรโครงสร้าง วิศวกรงานระบบ และสถาปนิกควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนของการก่อสร้าง และก่อสร้างถูกต้องตามกฏหมาย พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 อย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว” นางสาวเพชรลดา กล่าว
ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมของ MJD ที่เป็นไฮไลต์ในปี 2568 นี้ มีด้วยกัน 2 ทำเล คือ 1.โครงการ เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว ตั้งอยู่ใจกลางห้าแยกลาดพร้าว ใกล้จุด Interchange ระหว่างสถานี BTS และ MRT และ 2.โครงการ มาร์ควิส พญาไท ที่สุดของลักซ์ซูรี่คอนโดมิเนียม ติดถนนพญาไท ห่างจากสถานี BTS เพียง 150 เมตร และใกล้จุด Interchange Station กับ Airport Link พญาไท โดยทุกโครงการของ MJD จะเลือกพัฒนาบนทำเลที่เป็น Prime Location เป็นหลัก เน้นการเดินทางที่สะดวกตอบโจทย์การใช้ชีวิต
สำหรับการผ่อนคลายมาตรการ LTV เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยจริงและผู้ซื้อบ้านหลังที่สอง ซึ่งไม่เพียงช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ แต่ยังส่งสัญญาณบวกต่อทั้งผู้พัฒนาและเศรษฐกิจในภาพรวม มองว่าเป็นผลดีกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ส่วนการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.01% นั้น ถือเป็นเรื่องดีที่ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์ในส่วนนี้ ทำให้ผู้บริโภคมีการตัดสินใจซื้อที่ง่ายมากขึ้น อาจส่งผลไปถึงในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมามีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มากยิ่งขึ้นด้วย
ขณะที่ยอดขายรอโอน (Backlog) บริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในแง่ของการสื่อสารอย่างใกล้ชิด การให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และการสร้างความเชื่อมั่นผ่านมาตรการต่าง ๆ ทั้งในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการ และความพร้อมในการส่งมอบที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ บริษัทยังมีความยืดหยุ่นในการดูแลลูกค้าเป็นรายกรณี เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและสะดวกใจในการโอนกรรมสิทธิ์ภายในกรอบเวลาที่เหมาะสม โดยยังคงรักษาประสิทธิภาพของ Backlog และคุณภาพความสัมพันธ์กับลูกค้าไว้ในระดับสูงสุด
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ