ASWจ่อโอนอีก2โครงการ ชูผลดำเนินงานQ2/68โต
Loading

ASW จ่อโอนอีก2โครงการ ชูผลดำเนินงานQ2/68โต

วันที่ : 23 เมษายน 2568
ASW รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นอสังหา- ดอกเบี้ยขาลง จ่อโอนเพิ่มอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 3 พันล้านบาท ในไตรมาส 2 หนุนผลดำเนินงานโตแกร่ง มั่นใจยอดขาย ปีนี้ตามเป้า 1.95 หมื่นล้านบาท รายได้ โต 20% จากปีก่อน
    นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ยังคงมีปัจจัยหนุนถึง 3 ปัจจัย ประกอบด้วย 1.การผ่อนคลายเกณฑ์อัตราส่วนการให้สินเชื่อโดยเทียบกับมูลค่าหลักประกัน (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 -30 มิถุนายน 2569, 2.ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศที่ยังอยู่ใน "ขาลง" โดยตลาดคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ต่อปี มาอยู่ที่ 1.75% ต่อปีภายในปี 2568 นี้ และ 3.การปรับลดภาษีการโอนกรรมสิทธิ์ และการจดจำนองลงเหลือ 0.01%

    "ผู้ประกอบการที่มีความพร้อมทั้งสินทรัพย์ที่พร้อมขาย - โอนกรรมสิทธิ์ รวมถึงมีโครงการที่พัฒนาใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องจะได้รับประโยชน์จากมาตรการภาษีภาครัฐ, การผ่อนคลายมาตรการ LTV และแนวโน้มดอกเบี้ยซึ่งเมื่อเดือนก.พ. 2568 ที่ผ่านมาปรับลดลง 0.25% และหากลดลงอีก 0.25% ในวันที่ 30 เมษายน 2568 นี้ จะทำให้เห็นความแตกต่างถึง 0.5% ภายใน 6 เดือน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีผู้มีกำลังซื้อจะพิจารณาซื้อ - โอนกรรมสิทธิ์โครงการ"

    จ่อโอนเพิ่ม 2 โครงการ
    
    ทั้งนี้บริษัทยังคงกลยุทธ์การพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมครอบคลุมหลายทำเลทั้งกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล รวมถึงทุกจังหวัดที่มีศักยภาพ ทั้งยังมีสินค้าหลายระดับราคาที่สามารถตอบสนองทุกกลุ่มลูกค้า (Segment) โดย ณ ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Ready to Move) ทุกระดับราคา มูลค่ารวม 8,500 ล้านบาท

    รวมถึงจะมีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ เตรียมทยอยโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้ในไตรมาส 2/2568 เพิ่มอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการแอทโมซ พาลาซิโอ ลาดพร้าว-วังหิน (Atmoz Palacio Ladprao-Wanghin) มูลค่า 1,750 ล้านบาท และโครงการแอทโมซ แคนวาส ระยอง (Atmoz Canvas Rayong) มูลค่า 1,250 ล้านบาท และยังเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ตามแผนงาน อาทิ แคมปัสคอนโดที่มีดีมานด์ชัดเจนจากนักศึกษา ผู้ปกครอง และนักลงทุน โครงการในภูเก็ตที่ยังคงได้รับความนิยมจากคนไทยและต่างชาติ

    โดยเบื้องต้นบริษัทคาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2568 มีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง ทั้งยังมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องตลอด 2 ไตรมาสที่เหลือของปี เนื่องจากพอร์ตโครงการของบริษัทราว 90% เป็นโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมแบบ Low-Rise หรือคอนโดมิเนียมที่มีความสูงไม่เกิน 9 ชั้น ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา

    ยอดขายปีนี้ 1.95 หมื่นล.

    พร้อมกันนี้ ยังมี บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ที่คาดว่าจะเข้ามาเสริมให้ยอดขายโดยรวมของบริษัทเป็นไปตามเป้ายอดขายทั้งปี 2568 ที่ 19,500 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 10,500 ล้านบาท เติบโต 20% จากปี 2567 ในสัดส่วนราว 30-40%

    "ภูเก็ตยังเป็นทำเลศักยภาพสำหรับทั้งคนไทย และต่างชาติ ซึ่งก็จะเข้ามาช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมาย ส่วนในกรุงเทพฯ บริษัทตั้งเป้าเติบโตอย่างระมัดระวัง (Conservative) และคาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตได้ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไป"

    ทั้งนี้ บริษัทยังขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) โดยเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจเนอเรชันผ่านบริษัทย่อยในเครือ เริ่มจากธุรกิจ Health & Wellness ผ่าน WHB ให้บริการ Rocket Fitness ฟิตเนสทางเลือกใหม่ในราคาและทำเลเข้าถึงง่าย และ Vitala คลินิกกายภาพบำบัดและฟื้นฟูร่างกาย และมีแผนขยายสาขาต่อเนื่องในธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ ผ่าน ZAAP World ในการจัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่างๆ โดยในปีที่ผ่านมาได้จัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ไปแล้วกว่า 40 งาน อาทิ SangSom MOONLAB งานอาร์ตแลนด์มาร์กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี, SkyTrain Music Fest เทศกาลดนตรีบนรถไฟฟ้าครั้งแรกในเอเชีย เป็นต้น ธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ และรีเทล ผ่าน Treasure M โดยพัฒนา Mingle Mall แหล่งไลฟ์สไตล์ที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์กีฬาในร่ม ซึ่งล่าสุดเปิด "Mingle Naiyang" จ.ภูเก็ต

 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ