นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า การลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ จากปกติ 2% เหลือ 0.01% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ อันเนื่องมาจากการจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวในคราวเดียวกัน จากปกติ 1% เหลือ 0.01% สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มูลค่าไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อสัญญานั้น เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มคนที่กำลังตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม

    ทั้งนี้บริษัทมองว่ามาตรการดังกล่าว จะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มคนที่กำลังตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม เนื่องจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายลงไปได้มาก เหลือเพียงหลักร้อยเท่านั้น เช่น ถ้าซื้อที่อยู่อาศัยราคา 3 ล้านบาท เดิมจะจ่ายค่าโอน 2% อยู่ที่ 60,000 บาท แต่สำหรับมาตรการใหม่ที่ออกมานั้นลดลงเหลือเพียง 0.01% จะเหลือเพียง 300 บาท  เช่นเดียวกับค่าจดจำนอง ซึ่งเดิมที่ต้องจ่าย 1% เป็นเงิน 30,000 บาท จะเหลือเพียง 300 บาทเท่ากัน

    นอกจากนี้ มาตรการลดค่าโอน และค่าจดจำนอง เหลือ 0.01 นั้น ประกาศใช้ควบคู่ไปกับการปลดล็อกเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ยิ่งช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้มากขึ้น เพราะจะเห็นว่ามีกลุ่มคนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองเป็นบ้านหลังที่ 2 เพราะความจำเป็นสำหรับการทำงาน แต่เดิมทีนั้น สัญญาบ้านหลังที่ 2 จะกู้ได้เพียง 90% แต่การคลายล็อกช่วยให้กู้ได้เต็มจำนวน 100% ซึ่งช่วยลดภาระกับการต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่

    สำหรับการที่ 2 มาตรการถูกประกาศใช้พร้อมกันนั้น จะช่วยลดภาระของผู้บริโภคลงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มกลับมาคึกคักขึ้นในช่วงไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไป ขณะที่ ORI มีโครงการคอนโดมิเนียมในระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท จำนวนกว่า 30 โครงการ ในหลากหลายทำเลและครอบคลุม

    “จากวิกฤตแผ่นดินไหวในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เชื่อว่าจะเป็นบททดสอบใหม่ ที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะต้องรับมือ และเรียกความมั่นใจจากลูกค้ากลับคืนมาโดยเร็วที่สุด เมื่อสามารถเรียกความมั่นใจกลับมาได้ การผ่อนคลายมาตรการ LTV มาตรการลดค่าโอนและค่าจดจำนองเหลือ 0.01% นั้น จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้ามาประกอบการตัดสินใจซื้อได้ดีขึ้น แม้อยู่ในช่วงวิกฤต” นายพีระพงศ์ กล่าว