'เพอร์เฟค' กางแผนปี'68 เร่งระบายสต๊อก-ผุด 4 โครงการใหม่
วันที่ : 11 กุมภาพันธ์ 2568
PF เผยว่า ในปี 2568 นี้ จะมีการเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 4,900 ล้านบาท ซึ่งโครงการทั้งหมดจะเป็นโครงการแนวราบที่เลื่อนเปิดตัวมาจากปี 2567 ที่ผ่านมา โดยเป็นบ้านเดี่ยว 3 โครงการ และทาวน์เฮ้าส์ 1 โครงการ
นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผย ถึงแผนการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตของผลประกอบการให้กับบริษัท ว่า บริษัทพร้อมเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่ได้วางเอาไว้ โดยในปี 2568 นี้ จะมีการเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 4,900 ล้านบาท ซึ่งโครงการทั้งหมดจะเป็นโครงการแนวราบที่เลื่อนเปิดตัวมาจากปี 2567 ที่ผ่านมา โดยเป็นบ้านเดี่ยว 3 โครงการ และทาวน์เฮ้าส์ 1 โครงการ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมบริษัท ยังมีสินค้าคงเหลือขายเพียงพอ จึงจะเน้นระบายสต๊อกที่มีอยู่เดิมมากกว่าการเปิดตัวโครงการใหม่
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่ดำเนินการ อยู่ทั้งหมด 51 โครงการ รวมโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจด้วย โดยในปี 2568 นี้ จะเน้นการเพิ่มยอดขายจากกลุ่ม โครงการลักซ์ชัวรี่ ทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ และ เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสินค้าที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัทต่อเนื่อง และในปี 2567 ที่ผ่านมา สัดส่วน 40% ของยอดขายรวมของบริษัท มาจากกลุ่มสินค้าบ้านระดับบน ขณะเดียวกันจะเน้นทำการตลาดคอนโดมิเนียมกับกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ซึ่งบริษัทมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในทำเลรถไฟฟ้า ทั้งสุขุมวิท วุฒากาศ และพัฒนาการ ในปี 2568 นี้ ได้วาง เป้าหมายจากการเจาะตลาดต่างชาติไว้ที่ 1,000 ล้านบาท
สำหรับแนวทางการบริหารจัดการด้านการเงินของบริษัทปี 2568 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างทางการเงิน ทั้งการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างรายได้และกำไรให้เติบโต ควบคู่กับการบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งนี้การระดมทุนผ่านหุ้นกู้ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินที่นำมาใช้ในการดำเนินงาน
โดยล่าสุดบริษัทได้เตรียมชำระคืน หุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 2/2565 ที่ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 2,100 ล้านบาท ไว้เรียบร้อยแล้ว บริษัทยังเตรียมเงินทุนเพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระคืนรอบถัดไป ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2568 รวม 3,130 ล้านบาท ทั้งจากการขายที่ดิน 2 แปลง ได้แก่ ที่ดิน 3.5 ไร่ ทำเลรัชดาภิเษก 17 และที่ดิน 80 ไร่ ทำเลรามคำแหง มูลค่ารวมประมาณ 1,800 ล้านบาท และบริษัทยังเดินหน้าแผนขายการลงทุน ซึ่งจะมีการขายที่ดินในทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาของบริษัทร่วมทุน และได้รับคืน Shareholder Loan อีกประมาณ 300 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะจากโครงการ "อยู่รวยคอนโด" ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากแคมเปญสนับสนุนบ้านเพื่อคนไทย มียอดขายเข้ามาแล้ว 200 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสแรกประมาณ 400 ล้านบาท บริษัทยังได้รับวงเงินสนับสนุนจากสถาบันการเงิน และมีแผนเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่เพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดเป็นการเตรียมจัดสรรเงินทุน ทั้งสำหรับชำระคืนหุ้นกู้ที่ถึงกำหนด และเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการพัฒนาโครงการ
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่ดำเนินการ อยู่ทั้งหมด 51 โครงการ รวมโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจด้วย โดยในปี 2568 นี้ จะเน้นการเพิ่มยอดขายจากกลุ่ม โครงการลักซ์ชัวรี่ ทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ และ เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสินค้าที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัทต่อเนื่อง และในปี 2567 ที่ผ่านมา สัดส่วน 40% ของยอดขายรวมของบริษัท มาจากกลุ่มสินค้าบ้านระดับบน ขณะเดียวกันจะเน้นทำการตลาดคอนโดมิเนียมกับกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ซึ่งบริษัทมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในทำเลรถไฟฟ้า ทั้งสุขุมวิท วุฒากาศ และพัฒนาการ ในปี 2568 นี้ ได้วาง เป้าหมายจากการเจาะตลาดต่างชาติไว้ที่ 1,000 ล้านบาท
สำหรับแนวทางการบริหารจัดการด้านการเงินของบริษัทปี 2568 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างทางการเงิน ทั้งการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างรายได้และกำไรให้เติบโต ควบคู่กับการบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งนี้การระดมทุนผ่านหุ้นกู้ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินที่นำมาใช้ในการดำเนินงาน
โดยล่าสุดบริษัทได้เตรียมชำระคืน หุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 2/2565 ที่ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 2,100 ล้านบาท ไว้เรียบร้อยแล้ว บริษัทยังเตรียมเงินทุนเพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระคืนรอบถัดไป ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2568 รวม 3,130 ล้านบาท ทั้งจากการขายที่ดิน 2 แปลง ได้แก่ ที่ดิน 3.5 ไร่ ทำเลรัชดาภิเษก 17 และที่ดิน 80 ไร่ ทำเลรามคำแหง มูลค่ารวมประมาณ 1,800 ล้านบาท และบริษัทยังเดินหน้าแผนขายการลงทุน ซึ่งจะมีการขายที่ดินในทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาของบริษัทร่วมทุน และได้รับคืน Shareholder Loan อีกประมาณ 300 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะจากโครงการ "อยู่รวยคอนโด" ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากแคมเปญสนับสนุนบ้านเพื่อคนไทย มียอดขายเข้ามาแล้ว 200 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสแรกประมาณ 400 ล้านบาท บริษัทยังได้รับวงเงินสนับสนุนจากสถาบันการเงิน และมีแผนเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่เพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดเป็นการเตรียมจัดสรรเงินทุน ทั้งสำหรับชำระคืนหุ้นกู้ที่ถึงกำหนด และเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการพัฒนาโครงการ
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ