แจกเงินเฟสสาม15ล้านคน

   นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจได้พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4-5 มาตรการ ผลักดันให้การขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ถึง 3.5% โดยในรายละเอียดของมาตรการนั้นจำเป็นต้องพิจารณาในคณะอนุกรรมการชุดนี้อีกครั้ง เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

   "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาดังกล่าว เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ในกลุ่มคนทั่วไป เป็นการโอนแจกผ่านดิจิทัลวอลเล็ต วงเงิน 150,000 ล้านบาท หรือ 15 ล้านคน ที่ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้ แต่สามารถใช้จ่ายได้ตามร้านค้าที่มีการลงทะเบียนไว้กับกระทรวงการคลัง และจะต้องใช้จ่ายในรอบแรก อยู่ภายในเขตอำเภอตามบัตรประชาชนของแต่ละคนเท่านั้น"

   ทั้งนี้ยืนยันว่าจะแจกในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยจะมีการปรับเงื่อนไขลดลงเล็กน้อย เพื่อให้กลไกหมุนของเงินให้ประชาชนได้เข้าถึง เปลี่ยนเป็นเงินสดเดินหน้าธุรกิจ เดินหน้าอาชีพ และภาคครัวเรือน รวมทั้งให้เงินดิจิทัลถูกกระจายไปทั่วประเทศ จากแจกเงินดิจิทัลในรอบแรกเห็นว่ามีคนบางส่วน 5% นำเงิน 10,000 บาท ไปใช้หนี้และไปออมเงิน ทำให้ไม่ถูกกระจายลงไปสู่เศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันได้หารือกับธนาคารทั้งแบงก์และนอนแบงก์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีหนังสือตอบรับเข้าร่วมเชื่อมต่อระบบแอปทางรัฐแบบโอเพนลูป

   นอกจากนี้คณะอนุกรรมการฯ ยังได้พิจารณาถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่น เช่น มาตรการอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการออกสินเชื่อจากสถาบันการเงินของรัฐเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงมาตรการลดรายจ่ายให้กับประชาชน ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาลถือเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ต้องมีการดำเนินการที่เป็นโครงการระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว แต่ในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้

    "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังมีอีกหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นการเร่งรัดการลงทุน เร่งรัดบ้านเพื่อคนไทย กระตุ้นการท่องเที่ยว หากเพิ่ม 500,000 คน จะเพิ่ม จีดีพีอีก 0.11% และถ้าหากดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 จะเพิ่มจีดีพี 0.37% รัฐบาลตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีในปี 68 หากขับเคลื่อนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ จีดีพีจะขยายตัวได้ถึง 3.5% จากเดิมที่กระทรวงการคลังคาดไว้ว่า 3%"

     อย่างไรก็ตามสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือสศค. ย้ำว่า มีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ถึง 3.5% ด้วยการบริหาร 5 ปัจจัย คือ เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน จากเป้าหมายที่ 75% เป็น 80% การเร่งการใช้จ่ายในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท โครงการบ้านเพื่อคนไทย การกระตุ้นการท่องเที่ยว และเร่งรัดโครงการลงทุนของเอกชน