นายกำพล ปุญโสณี ประธานบริหาร บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 มีแนวโน้มที่สดใส โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม เนื่องจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสูง แต่การที่การเปิดโครงการของผู้ประกอบการในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาน้อย เนื่องจากเกิดปัจจัยลบหลายอย่าง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กำลังซื้อลูกค้าลดลง ส่งผลให้มีปริมาณคอนโดมิเนียมเหลือขายในปัจจุบันมีน้อย

    ส่วนทำเลอสังหาฯ ที่ได้รับความนิยมมีหลายแห่ง รวมถึงย่านเจริญนคร-จรัญสนิทวงศ์ 13 ที่มาแรง "หากพูดถึงทำเลที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ หลายคนอาจมองไปที่ย่าน สุขุมวิท หรือ สาทร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฝั่งธนบุรี โดยเฉพาะบริเวณ เจริญนคร และ จรัญฯ13 มาแรง เพราะเป็นทำเลที่น่าสนใจและกำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นทั้งจากการขยายของระบบขนส่งมวลชนและการลงทุนในโครงการพัฒนาเมือง รวมถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้นในพื้นที่ฝั่งนี้"

   ด้าน นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกระแส "บ้านเพื่อคนไทย" โครงการที่รัฐบาลตั้งเป้าช่วยผู้มีรายได้น้อยและกลางให้มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมว่า ข้อได้เปรียบสำคัญของโครงการนี้ คือ ระยะเวลาในการพัฒนาและการดำเนินการที่ยาวนานถึง 99 ปี ต่างจากภาคเอกชนที่มักจะจำกัดด้วยระยะเวลาเช่น 30 ปี ในการเช่า หรือการพัฒนาที่ต้องพิจารณาความสามารถในการเข้าถึงแหล่งทุนจากสถาบันการเงินที่มีข้อจำกัด

    และอีกมุมมองหนึ่งเกี่ยวกับโครงการนี้คือ ความสำคัญของการให้โอกาสภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา เพราะเชื่อว่าภาคเอกชนมีศักยภาพในการลงทุนและพัฒนาโครงการ ที่เหมาะสมกับตลาดบ้านในระดับนี้ โดยอาจใช้สิทธิประโยชน์จาก บีโอไอ (BOI) เพื่อสนับสนุนการลงทุน และยกระดับมาตรฐานของโครงการให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่ดีขึ้น

    นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่าบ้านเพื่อคนไทยเป็น เรื่องที่ดี โดยในเชิงการตลาดการแยกเซกเมนต์ ที่มีการกำหนดราคาต่ำกว่าในตอนนี้ยังคงมีความคล้ายคลึงกับตลาดอพาร์ตเมนต์ให้เช่า จึงไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาคธุรกิจอสังหาฯ ทั่วไป แต่การที่จะทำให้โครงการเหล่านี้ประสบผลสำเร็จได้อย่างแท้จริง จำเป็นต้องพิจารณาถึงการใช้ งบประมาณจากภาษีประชาชนอย่างระมัดระวังและมีประสิทธิภาพสูงสุด