PROUD ผุด3โครงการหมื่นล.เจาะทำเลหัวเมืองท่องเที่ยว
วันที่ : 9 มกราคม 2568
PROUD เผยแผน ปี 2568 เปิดตัว 3 โครงการใหม่กลางปี ทั้งแนวราบและสูง มูลค่าร่วมหมื่นล้านบาท ที่ชานเมืองกทม. และ 2 จังหวัด ท่องเที่ยว เจาะลูกค้ากำลังซื้อสูง เปิดยอดขายรอโอนในมือกว่า 1 หมื่นล้านบาท เร่งรับรู้ หนุนโตก้าวกระโดดจากปี 2567 ที่คาดทำได้ 2.5 พันล้านบาท ขณะที่แผน ปี 2569 มุ่งเร่งความสามารถทำกำไร
นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD ผู้ประกอบการ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวสูง เปิดเผยว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทยังคงเน้นสร้าง ความแตกต่าง และเป็นผู้นำด้านทำเล มุ่งเน้นพัฒนาเชิงคุณภาพ สร้างประสบการณ์ ที่เหนือกว่าเพื่อลูกค้าผู้อยู่อาศัย เช่น ความร่วมมือกับพันธมิตรให้บริการด้านสุขภาพ เพื่อสร้างผลประกอบการให้มีกำไรมั่นคงและยั่งยืนมากกว่าการเน้นเฉพาะยอดขาย
เพิ่มโครงการ
ปัจจุบันบริษัทมี 6 โครงการที่อยู่อาศัยของมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท และกลางปีนี้บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่ม 3 โครงการ มูลค่ารวมโดยประมาณอีก 1 หมื่นล้านบาท ได้แก่ บ้านจัดสรรประเภทบ้านเดี่ยวทำเลชานเมืองของกรุงเทพมหานคร มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท, คอนโดมิเนียมแห่งใหม่ หัวหิน มูลค่าโครงการ 3 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม ที่ภูเก็ต มูลค่า 2.3-3 พันล้านบาท
โดยเชื่อว่า ยอดขายจะอยู่ในระดับน่าพอใจเพราะนอกเหนือจากคุณภาพที่จูงใจกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองจริงแล้ว ทำเลในหลายโครงการที่อยู่เมืองท่องเที่ยวยังได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทยด้วย ดังนั้นการที่เศรษฐกิจประเทศยังอาจไม่ได้ขยายตัวแรง การปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงินเข้มงวด และภาคครัวเรือนมีหนี้สูง จึงไม่กระทบกับแผนการเติบโตของบริษัท
ยอดขายดี
สอดคล้องกับโครงการที่อยู่ระหว่างการขายยังมีการตอบรับดี ข้อมูล ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2567 ได้แก่ เวหา หัวหิน มียอดจองแล้ว 65%, รมย์ คอนแวนต์ มียอดจอง 62%, วี อารีย์ มียอดจอง 33% และ นิว ดิสทริค อาร์ 9 มียอดจองสูงถึง 97% การตอบรับที่ดีในโครงการต่างๆ สืบเนื่องจากสามารถตอบโจทย์ ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มองหาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ทำให้บริษัทมั่นใจจะสามารถรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้บริษัทมียอดขายรอโอนรับรู้ (Backlog) มูลค่าประมาณ 10,899 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ ตั้งแต่ปี 2567- 2569 ซึ่งสำหรับเฉพาะปีนี้ การรับรู้ส่วนใหญ่มาจากโครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 ราว 6.8 พันล้านบาท และ เวหา หัวหิน 2.5 พันล้านบาท
ส่วน วี อารีย์ ที่มีมูลค่าโครงการ 491 ล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้ไปแล้วในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะรับรู้รายได้ต่อตลอด ทั้งปี 2568 และ รมย์ คอนแวนต์ มูลค่า โครงการ 4.15 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 2569
เป้าเติบโต
จากการรับรู้รายได้ต่อเนื่องบริษัทจึงประเมินรายได้ปี 2568 จะเท่ากับ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากปี 2567 ที่คาดทำได้ 2.5 พันล้านบาท โดย 9 เดือนแรกของปี 2567 ทำได้แล้ว 2 พันล้านบาท พร้อมกับตั้งงบลงทุน 3 พันล้านบาท สำหรับจัดหาที่ดินพัฒนาโครงการเพิ่มเติม
ขณะที่ในปี 2569 ยอมรับว่ามีโอกาส ที่ฐานรายได้จะไม่เติบโตสูงเทียบเท่าปีนี้ แต่ บริษัทจะเพิ่มความสามารถทำกำไรให้สูง ขึ้นทดแทนภายใต้การดำเนินงานโดยคำนึงถึง ความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล
บริษัทได้มีการวางแผนยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนเพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance ESG) ตามกลยุทธ์ และเป้าหมายที่ชัดเจนภายใต้กรอบนโยบาย ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) และยังได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจอีกมากมายเป้าหมายสู่การเป็น หนึ่งในหุ้นของกองทุนด้านความยั่งยืน (ThaiESG)
เพิ่มโครงการ
ปัจจุบันบริษัทมี 6 โครงการที่อยู่อาศัยของมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท และกลางปีนี้บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่ม 3 โครงการ มูลค่ารวมโดยประมาณอีก 1 หมื่นล้านบาท ได้แก่ บ้านจัดสรรประเภทบ้านเดี่ยวทำเลชานเมืองของกรุงเทพมหานคร มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท, คอนโดมิเนียมแห่งใหม่ หัวหิน มูลค่าโครงการ 3 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม ที่ภูเก็ต มูลค่า 2.3-3 พันล้านบาท
โดยเชื่อว่า ยอดขายจะอยู่ในระดับน่าพอใจเพราะนอกเหนือจากคุณภาพที่จูงใจกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองจริงแล้ว ทำเลในหลายโครงการที่อยู่เมืองท่องเที่ยวยังได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทยด้วย ดังนั้นการที่เศรษฐกิจประเทศยังอาจไม่ได้ขยายตัวแรง การปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงินเข้มงวด และภาคครัวเรือนมีหนี้สูง จึงไม่กระทบกับแผนการเติบโตของบริษัท
ยอดขายดี
สอดคล้องกับโครงการที่อยู่ระหว่างการขายยังมีการตอบรับดี ข้อมูล ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2567 ได้แก่ เวหา หัวหิน มียอดจองแล้ว 65%, รมย์ คอนแวนต์ มียอดจอง 62%, วี อารีย์ มียอดจอง 33% และ นิว ดิสทริค อาร์ 9 มียอดจองสูงถึง 97% การตอบรับที่ดีในโครงการต่างๆ สืบเนื่องจากสามารถตอบโจทย์ ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มองหาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ทำให้บริษัทมั่นใจจะสามารถรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้บริษัทมียอดขายรอโอนรับรู้ (Backlog) มูลค่าประมาณ 10,899 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ ตั้งแต่ปี 2567- 2569 ซึ่งสำหรับเฉพาะปีนี้ การรับรู้ส่วนใหญ่มาจากโครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 ราว 6.8 พันล้านบาท และ เวหา หัวหิน 2.5 พันล้านบาท
ส่วน วี อารีย์ ที่มีมูลค่าโครงการ 491 ล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้ไปแล้วในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะรับรู้รายได้ต่อตลอด ทั้งปี 2568 และ รมย์ คอนแวนต์ มูลค่า โครงการ 4.15 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 2569
เป้าเติบโต
จากการรับรู้รายได้ต่อเนื่องบริษัทจึงประเมินรายได้ปี 2568 จะเท่ากับ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากปี 2567 ที่คาดทำได้ 2.5 พันล้านบาท โดย 9 เดือนแรกของปี 2567 ทำได้แล้ว 2 พันล้านบาท พร้อมกับตั้งงบลงทุน 3 พันล้านบาท สำหรับจัดหาที่ดินพัฒนาโครงการเพิ่มเติม
ขณะที่ในปี 2569 ยอมรับว่ามีโอกาส ที่ฐานรายได้จะไม่เติบโตสูงเทียบเท่าปีนี้ แต่ บริษัทจะเพิ่มความสามารถทำกำไรให้สูง ขึ้นทดแทนภายใต้การดำเนินงานโดยคำนึงถึง ความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล
บริษัทได้มีการวางแผนยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนเพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance ESG) ตามกลยุทธ์ และเป้าหมายที่ชัดเจนภายใต้กรอบนโยบาย ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) และยังได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจอีกมากมายเป้าหมายสู่การเป็น หนึ่งในหุ้นของกองทุนด้านความยั่งยืน (ThaiESG)
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ