'ภูเก็ต' ฮับไลฟ์สไตล์หรู อินฟราฯพร้อม - เศรษฐีแห่ลงทุน
วันที่ : 9 พฤศจิกายน 2567
C9 Hotelworks เผยว่า "ภูเก็ตได้สร้างชื่อในฐานะจุดหมายปลายทางที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) โดยผสมผสานความงามตามธรรมชาติเข้ากับสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก เพื่อดึงดูดนักลงทุนที่ร่ำรวยและนักท่องเที่ยว ผู้มีรสนิยมดีจากทั่วโลก"
เป็นที่รับรู้กันว่า "ภูเก็ต" คือเกาะสวรรค์ ที่โอบล้อมด้วยทะเลอันดามัน ได้พัฒนาจากจุดหมายปลายทางของรีสอร์ตริมชายหาดยอดนิยม กลายเป็นหนึ่งในตลาดที่อยู่อาศัยระดับหรู (Luxury) รวมถึงศูนย์รวมแบรนด์สินค้าหรูระดับแนวหน้า เวลเนสที่มีคุณภาพระดับนานาชาติ ฯลฯ
ซีไนน์ โฮเทลส์เวิร์คส์ (C9 Hotelworks) บริษัทที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว โรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ (สำนักงานตั้งอยู่ภูเก็ต) ได้ร่วมกับ Property Guru International (ประเทศไทย) เปิดตัว "The Phuket Luxury Report" พร้อมนำเสนอการเปลี่ยนแปลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาของจังหวัดภูเก็ต ในงาน "LivePhuket : A Global Luxury Lifestyle Destination" (จุดหมายปลายทางแห่งไลฟ์สไตล์หรูระดับโลก) เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา
จุดหมายปลายทางสุดหรู
"บิล บาร์เน็ตต์" กรรมการผู้จัดการ C9 Hotelworks ให้ข้อมูลว่า รายงานฉบับนี้ได้สำรวจปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดอสังหาริมทรัพย์และการต้อนรับที่หรูหราของภูเก็ต โดยวิเคราะห์ความน่าดึงดูดใจที่โดดเด่นของเกาะเมื่อเทียบกับจุดหมายปลายทางระดับไฮเอนด์อื่น ๆ ทั่วโลก เช่น ไมอามี ดูไบ และมาร์เบลลา
ทั้งในกลุ่มคอนโดมิเนียม วิลล่า เวลเนส และเรือยอชต์สุดหรู รวมถึงการร่วมมือกับบริษัทโรงแรมและไลฟ์สไตล์ ระดับโลกที่มีชื่อเสียงจะช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดใจของตลาดมากยิ่งขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมีมาตรฐานการบริการ
"ภูเก็ตได้สร้างชื่อในฐานะจุดหมายปลายทางที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) โดยผสมผสานความงามตามธรรมชาติเข้ากับสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก เพื่อดึงดูดนักลงทุนที่ร่ำรวยและนักท่องเที่ยว ผู้มีรสนิยมดีจากทั่วโลก"
กำลังซื้อสูง-น่าลงทุน
ขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มสินค้าหรูหราในภูเก็ตมีอำนาจซื้ออย่างมาก สะท้อนจากการใช้จ่ายที่เซ็นทรัลภูเก็ต ซึ่งลูกค้าที่ร่ำรวยใช้จ่ายต่อคนมากกว่าสาขาอื่น ๆ ของเซ็นทรัลทั่วประเทศถึง 45% หรือในส่วนของราคาอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูของภูเก็ตที่มีการแข่งขันสูง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 231,579 บาทต่อตารางเมตร
โครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ เช่น การขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ต การลงทุนระบบรถไฟฟ้ารางเบา ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึง และกระตุ้นอุปสงค์จากผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ
รวมถึงโรงแรมระดับอัลตราลักเซอรี่ ที่ได้รับรางวัล มีราคาห้องพักเฉลี่ยเกิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน ท่าจอดเรือระดับมาตรฐานสากลที่รองรับเรือยอชต์สุดหรู โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาลระดับแนวหน้าที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยโครงการพัฒนาไฮไลต์สำคัญคือ โครงการของ Banyan Group (บันยันกรุ๊ป) ผู้บุกเบิกผู้พัฒนา Laguna Phuket (ลากูน่า ภูเก็ต) ที่ปัจจุบันดึงดูดนักท่องเที่ยว ได้ 1 ล้านคนต่อปี ประกอบด้วยโรงแรมและรีสอร์ตระดับโลก 8 แห่ง สนามกอล์ฟที่ได้รับรางวัล คลินิกสุขภาพ BDMS โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ
บ้านพักส่วนตัว 3,000 หลัง และโครงการ Gardens of Eden (การ์เด้น ออฟ เอเดน) พื้นที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในบางเทา ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนรุ่นใหม่
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนของนักลงทุนจากทั่วโลก
ราคาแข่งขันในระดับโลกได้
โดยในภาคอสังหาริมทรัพย์พบว่า อุปทาน (Supply) ของที่อยู่อาศัยระดับหรูในภูเก็ตกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ที่มีอุปสงค์ (Demand) สูง เช่น กมลา และเชิงทะเล ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ระดับหรู เหล่านี้ยังอยู่ในระดับราคาที่แข่งขันได้ เมื่อเทียบกับจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ทั่วโลก ข้อได้เปรียบด้านราคาของเกาะนี้ เมื่อบวกกับความต้องการที่แข็งแกร่ง ทำให้ภูเก็ตนี้เป็นศูนย์กลางการลงทุนที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผู้ซื้อมีตั้งแต่คนหนุ่มสาวที่ร่ำรวยที่แสวงหาผลประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์และรายได้จากการเช่า ไปจนถึง นักลงทุนที่มีประสบการณ์ซึ่งมุ่งเน้นที่การสร้างมรดกผ่านอสังหาริมทรัพย์ที่มั่นคงและสร้างรายได้
"หลังโควิดอสังหาฯ ภูเก็ตเติบโตแบบทวีคูณในภาคที่อยู่อาศัยระดับหรูหลายล้านดอลลาร์ แนวโน้มนี้มีรากฐานมาจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต โดยเน้นที่พื้นที่ บริการระดับนานาชาติ และวิถีชีวิตที่หลากหลาย"
โรงแรมหรู-วิลล่าเพียบ
สำหรับในภาคธุรกิจโรงแรม พบว่าภูเก็ตเป็นที่ตั้งของรีสอร์ตหรูระดับตำนานหลายแห่ง ซึ่งล้วนตั้งอยู่ริมชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ซึ่งขึ้นชื่อในด้านความพิเศษเฉพาะตัวและข้อเสนอระดับโลก รีสอร์ต เช่น Amapuri, Trisara ที่มีชายหาดที่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ มีวิลล่าและห้องสวีทส่วนตัว และวิลล่า
ห้องพักและวิลล่าส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบให้มองเห็นวิวทะเลได้อย่างเต็มที่ และเข้าถึงชายหาดได้โดยตรง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมี่ยมมากมาย เช่น สปาที่ได้รับรางวัล ศูนย์ออกกำลังกายที่ทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬา สถานที่จัดประชุม ฯลฯ
พร้อมให้บริการด้วยความหรูหราพร้อมบริการพิเศษเฉพาะบุคคล เช่น การเช่าเรือยอชต์ส่วนตัว โปรแกรมเพื่อสุขภาพ ฯลฯ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของแขกให้สูงยิ่งขึ้น
ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ระดับโลก
ในด้านไลฟ์สไตล์นั้น ปัจจุบันภูเก็ตมี "บีชคลับ" หรูหราบนชายหาดชั้นนำ 6 แห่ง โดยมี Cafe Del Mar และ Catch Beach Club เป็นผู้นำ สถานที่พิเศษเหล่านี้มอบประสบการณ์ริมชายหาดที่มีชีวิตชีวา ผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารรสเลิศ การแสดงสดของ ดีเจ. และปฏิทินสังสรรค์ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมระดับไฮโปรไฟล์
"บีชคลับ" สุดหรูเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่สถานที่พักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางสังคมสำหรับชนชั้นสูงของภูเก็ต ช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงของเกาะแห่งนี้ในฐานะจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับความบันเทิงระดับไฮเอนด์
นอกจากนี้ รีสอร์ตสุดหรูของภูเก็ตยังได้มีโปรแกรมเพื่อสุขภาพที่ครอบคลุมมากขึ้นเรื่อย ๆ อาทิ โยคะ สปา การบำบัด ด้วยดีท็อกซ์ และบริการสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อดึงดูดแขกทั้งชาวไทย และต่างชาติที่ต้องการฟ้นฟูร่างกาย
รวมถึงมีลักเซอรี่รีเทลจำนวนมาก โดย "เซ็นทรัลฟลอเรสต้า" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ตที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการค้าปลีกสินค้าหรูหราของเกาะ โดยรวบรวมแบรนด์ดัง 15 แบรนด์ ทั้งแฟชั่น นาฬิกา และเครื่องประดับ เช่น Hermes, Louis Vuitton และ Gucci ฯลฯ
"แบรนด์เหล่านี้ถือเป็นสุดยอดของความหรูหรา และยังมีแผนขยายพื้นที่ร้านต่อเนื่องในปีนี้ และมีแผนนำแบรนด์หรูใหม่ ๆ เข้ามาเสริมอย่างต่อเนื่อง เพื่อย้ำภาพของภูเก็ตในฐานะจุดหมายปลายทางการช็อปปิ้งระดับไฮเอนด์"
โครงสร้างพื้นฐานพร้อม
สำหรับในส่วนของสนามบินซึ่งเป็นเกตเวย์รองรับนักท่องเที่ยวนั้น "บิล" บอกว่า สนามบินนานาชาติภูเก็ตมีเที่ยวบินตรงสู่ศูนย์กลางสำคัญระดับโลก เช่น ดูไบ โดฮา อาบูดาบี และเมืองสำคัญ ๆ ในเอเชีย ยุโรป และออสเตรเลีย
ปัจจุบันให้บริการ 56 เส้นทาง ครอบคลุม 21 ประเทศ และมีแผนขยายการเข้าถึงทั่วโลกต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังมีแผนสร้างอาคารผู้โดยสารเครื่องบิน เจ็ตส่วนตัว เพื่อรองรับความต้องการของผู้มีสินทรัพย์สูง และสอดรับกับตลาดการท่องเที่ยวที่หรูหราของภูเก็ต
รวมถึงมารีน่า หรือท่าจอดเรือ ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับชุมชนเรือยอชต์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตอกย้ำสถานะของภูเก็ตในฐานะเรือยอชต์ชั้นนำ
ไม่เพียงเท่านี้ โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructural) ของภูเก็ตก็กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยมูลค่าราว 6,000 ล้านบาท เช่น ขยายสนามบินนานาชาติเพื่อรองรับผู้โดยสาร 18 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2572
ลงทุนอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง และอุโมงค์อนุสาวรีย์วีรสตรี เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด และปรับปรุงการเชื่อมต่อทั่วทั้งเกาะ เช่น รถไฟฟ้ารางเบาที่ได้นำเสนอไปแล้ว คาดว่าจะยกระดับการเข้าถึงของภูเก็ตให้ดียิ่งขึ้น
โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนา และสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ "ภูเก็ต" ในฐานะจุดหมายปลายทางสุดหรู ชั้นนำของโลก
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ