ทุบสถิติ10ปี ชิงกระแสเงินสด

   'ลด-แลก-แจก-แถม' เต็มพิกัด

    นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า เทรนด์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 4 ของปี 2567 ผู้ประกอบการคงจะมีการจัดโปรโมชั่นกันอย่างคึกคักเพื่อเร่งปิดยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ของปี 2567 นี้ และเป็นปีที่จัดโปรโมชั่นลดราคากันหนักที่สุดในรอบ 10 ปี เพื่อรักษากระแสเงินสด เนื่องจากผู้ประกอบการมี รายได้ลดลง 10-30% และกำไรลดลง 50-60% ประกอบกับต้องการเงินเพื่อไปชำระหุ้นกู้ที่ครบชำระในปีนี้ ทั้งนี้ หากมองอีกมุมหนึ่งจึงถือว่าปีนี้เป็นปีที่ดีของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้าน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ ผู้ประกอบการจะจัดโปรโมชั่นลดราคากันมาก สุดท้ายต้องไปวัดกันจะสามารถกู้ธนาคารผ่านหรือไม่ เพราะปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีปัญหาลูกค้ากู้ไม่ผ่านสูงมาก โดยเฉพาะกลุ่มต่ำ 3 ล้านบาท

    "การที่บอกว่าปีนี้ผู้ประกอบการอสังหาฯจัดลดโปรหนักที่สุด เพราะดูจากกำไรของบริษัทตลาดหลักทรัพย์ที่ลดลง แสดงให้เห็นว่ามีการลดราคามากขึ้น ซึ่งโปรโมชั่นที่จัดกันมีหลากหลาย เช่น ให้ส่วนลดเงินสด 1-2 แสนบาท จัดโปรแกรมช่วยผ่อน ให้อยู่ฟรี 1-2 ปีหรือมากกว่านั้น และให้เช่าก่อนซื้อ ซึ่งรูปแบบนี้เหมาะกับคอนโดมากกว่าแนวราบ โดยเฉพาะโครงการที่มียูนิตเหลือขายอยู่จำนวนมาก และในงานมหกรรมบ้านและคอนโดจะจัดขึ้นวันที่ 31 ตุลาคม-3 พฤศจิกายนนี้ คงจะเห็นการจัดโปรโมชั่นที่หลากหลาย แต่ก็ต้องไปลุ้นว่าจะกู้แบงก์ผ่านหรือไม่" นายอิสระกล่าว

    นายอิสระกล่าวว่า สำหรับตลาดในปี 2568 ปัจจัยลบเดิมยังคงค้าง ยังมีปัจจัยใหม่เพิ่มคือราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจากสงครามตะวันออกกลาง ทำให้ผู้ประกอบการ อสังหาฯยังต้องเผชิญกับต้นทุนก่อสร้างสูงขึ้น ขณะที่ราคาที่ดินไม่มีแนวโน้มลดลง แต่ที่ลดลงจะมีดอกเบี้ยที่คาดปลายปีนี้จะลดลง รวมถึงซัพพลายใหม่ที่ลดจากปี 2567 หลังผู้ประกอบการระมัดระวังเปิดตัวโครงการใหม่ ขณะเดียวกันจะเห็นการจัดโปรโมชั่นลดลงด้วย แต่ฝั่งดีมานด์ตัวชี้ขาดคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ต้องลุ้นมาตรการรัฐที่ออกมาจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ไหน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตลาดอสังหาฯปี 2568 น่าจะดีกว่าปีนี้

    นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า คาดการณ์ตลาดอสังหาฯปี 2567 จะทรงตัวเพราะยังมีปัญหารีเจ็กต์เรตกลุ่มต่ำ 5 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มระดับบนยังดี ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายมาตรการ LTV ให้ 1-2 ปี ดึงคนมีกำลังซื้อมาซื้ออสังหาฯ เป็นบ้านหลังที่สอง หรือซื้อลงทุนปล่อยเช่า รวมถึงให้ธนาคารพาณิชย์ผ่อนคลายเกณฑ์ปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มกู้ไม่ผ่านและปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำเหมือนธนาคารของรัฐ แม้ที่ผ่านมาจะมีมาตรการกระตุ้นจากรัฐ เช่น ลดค่าโอนและจดจำนอง แต่ยังสู้กับรีเจ็กต์ไม่ไหว

    นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า คาดการณ์ตลาดอสังหาฯปี 2567 จะติดลบ ถ้าหากยอดขายไตรมาส 4 ไม่กระเตื้องขึ้น เพราะยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยเดิม หนี้ครัวเรือน ดอกเบี้ยยังไม่ลดลง มาตรการ LTV ยังอยู่ กู้แบงก์ไม่ผ่านสูง ขณะที่ลูกค้าต่างชาติทั้งจีนและพม่ามีปัญหาโอนเงินออกนอกประเทศ แต่ถ้ามองข้ามช็อตไปปี 2568 หวังว่าจะดีขึ้น จากดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขาลง และหาก ธปท.ผ่อนปรนมาตรการ LTV ให้ซื้อบ้านหลังแรกและหลังที่ 2 รวมถึงรัฐออกมาตรการกระตุ้นเพิ่ม เช่น ฟื้นบ้านดีมีดาวน์ ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นต้น จะส่งผลดีต่อตลาดกลับมาเป็นบวก