'ไซมิส แอสเสท' เบรกเปิดโครงการใหม่ ปี68 หันลุย 'อินเวสเมนต์โปรแกรม-ขายโรงแรมลดหนี้'
Loading

'ไซมิส แอสเสท' เบรกเปิดโครงการใหม่ ปี68 หันลุย 'อินเวสเมนต์โปรแกรม-ขายโรงแรมลดหนี้'

วันที่ : 17 ธันวาคม 2567
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 ยังคงมีปัจจัยลบรุมเร้า ทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือน ยอดปฏิเสธสินเชื่อสูง สถาบันการเงินเข้มปล่อยสินเชื่อ การระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ ยากขึ้น "ไซมิส แอสเสท" แก้เกม พร้อมเพิ่ม สภาพคล่อง ด้วย อินเวสเมนต์ โปรแกรม และ ขายโรงแรมลดหนี้
    บุษกร ภู่แส กรุงเทพธุรกิจ

    ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2568 ไม่มีแผนเปิดโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมใหม่! เพราะตลาดยังไม่ฟื้นตัวดี ยังมีปัญหาขอสินเชื่อ ไม่ผ่านโดยเฉพาะกลุ่ม 3 ล้านบาท เป็นผลจาก ปัญหาหนี้ครัวเรือน ยอดปฏิเสธสินเชื่อสูง และความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ

    อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทยังมีโครงการเพียงพอที่จะรับรู้รายได้ ทั้ง "บ้าน" และ "คอนโดมิเนียม" มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท เพียงพอที่รองรับความต้องการของลูกค้า จึงไม่จำเป็นต้องเปิดโครงการใหม่เพิ่ม

    "หนี้ครัวเรือนสูงสวนทางรายได้ที่ ไม่เติบโต และความไม่แน่นอนต่างๆ ทำให้บริษัทต้องปรับแผนธุรกิจให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดย 3 ปีจากนี้ (2568-2570) บริษัทชะลอการลงทุนซื้อที่ดินพัฒนาโครงการใหม่ เน้นพัฒนาโครงการจากที่ดินที่มีอยู่"

    ขณะเดียวกัน ได้เปิดตัวโปรแกรมการลงทุน "Investment Program" เพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย เน้น ให้บริการแก่ลูกค้าที่ต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income เจาะลูกค้าคนไทยและต่างชาติ โดยสร้างความแตกต่างด้วยการนำ "Branded Residences" แบรนด์แคสเซีย (Cassia) ในเครือบันยันกรุ๊ป เข้ามาสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน โดยรับประกันผลตอบแทน 5 ปีแรก 5% ต่อปี และปีที่ 6-15 ได้รับผลตอบแทน ในรูปแบบแบ่งผลกำไร (Profit Sharing) ตามผลประกอบการ ของโครงการ คาด ผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ในระยะเวลา 15 ปี

    นำร่องโครงการ "Cassia Rama 9 Bangkok" ทำเลพระราม9 ภายใต้โครงการ "แลนด์มาร์ค แอทเอ็มอาร์ทีเอ สเตชั่น" มิกซ์ยูสขนาดใหญ่ บนที่ดินกว่า 13 ไร่ ทั้งหมด 3 อาคาร ได้แก่ Crowne Plaza Hotel, Cassia Rama 9 Bangkok และ Siamese Residence เป็นการแก้ Pain Point ของนักลงทุนต่างชาติและคนไทยในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์

    "ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัท รับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้มาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดโครงการแลนด์มาร์ค แอทเอ็มอาร์ทีเอ สเตชั่น แลนด์มาร์ก แห่งใหม่ใจกลางพระราม9"

    บริษัทยังมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบ เช่น Siamese Blossom พหลฯ-วิภาวดี (บ้านแฝดและทาวน์โฮม) และ Siamese Holm พหลฯ-วิภาวดี (บ้านเดี่ยวติดถนนใหญ่ ใกล้ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต) รวมถึงรายได้จากธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร เฮลท์&เวลเนส เป็นไปตามกลยุทธ์ปรับโมเดลธุรกิจสร้างสมดุลรายได้ เพื่อบริหารความเสี่ยง และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

    สำหรับ แนวโน้มผลการดำเนินงาน ไตรมาส 4 คาดเติบโตทำสถิติสูงสุด โดยประมาณการรายได้ 1,600 ล้านบาท ผลักดันให้ภาพรวมของรายได้ปี 2567 อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท จาก 9 เดือนแรก มีรายได้ 3,294.70 ล้านบาท"

    ในปี 2568 ยังมีแผน "ขายโรงแรม" เพื่อลดหนี้ และลดความเสี่ยง สร้าง ความมั่นคงทางการเงินมากกว่าการ ขยายธุรกิจท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจ ยังไม่ฟื้นตัว บริษัทเน้นให้ความสำคัญกับการลดหนี้เป็นหลัก เพื่อลดภาระต้น ทุนทางการเงิน ทำให้ฐานะการเงินแข็งแกร่งมากขึ้น ปัจจุบันมีโรงแรมในพอร์ต 6-7 แห่ง รวมมูลค่าเกือบ 20,000 ล้านบาท มีผู้สนใจเข้ามาเจรจาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งศึกษา การจัดตั้งกอง REIT คาดภายใน 3 ปีจากนี้บริษัทจะมีรายได้ 7,000 ล้านบาท

    ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 4,000-5,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปี 2568 ทั้งหมด ทั้งมีสินค้า พร้อมขายในพอร์ตมูลค่าเกือบ 20,000 ล้านบาท จาก 10 โครงการ เป็นแนวราบ 4 โครงการ และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ