THANA เชื่อมั่นตลาดอสังหาฯ นนทบุรี ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง กางแผนครึ่งปีหลังเปิดตัว 3 โครงการใหม่ 1,200 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์การตลาดเฉพาะกลุ่ม และคนทุกเจน ประเดิมไตรมาส 3 ส่ง "ธนาฮาบิแทต นครอินทร์-พระราม ๕" โครงการร่วมทุนลำดับที่ 4 ที่พัฒนาโดย อนาบูกิ ธนาสิริ (ประเทศไทย) เพียง 97 ยูนิต มูลค่า 800 ล้านบาท พร้อมโฟกัสธุรกิจเวลเนส homey wellness by Newton EM รองรับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงวัย และการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน แย้มปี 68 แผนชัดเจนเนรมิตที่ดิน 106 ไร่ กมลา ภูเก็ต ผุดบิ๊กโปรเจกต์ครบวงจร

         นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาสิริ กรุ๊ป (THANA) กล่าวถึงความเชื่อมั่นในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัย บนทำเล "นนทบุรี" เมืองศักยภาพชั้นดี ที่อยู่อาศัยหลากหลายในราคาจับต้องง่าย ว่าเป็นทำเลที่คุ้นเคย โดยเราพัฒนาโครงการบนทำเลนี้มาแล้วมากกว่า 25 โครงการ ทำให้มั่นใจทุกครั้งที่เปิดขาย พร้อมเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ ด้วยการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

         เริ่มไตรมาส 3 ด้วย "ธนาฮาบิแทต นครอินทร์-พระราม ๕" โครงการร่วมทุนลำดับที่ 4 ที่พัฒนาโดย อนาบูกิ ธนาสิริ (ประเทศไทย) มูลค่า 800 ล้านบาท ในราคาเริ่ม 6.59 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการขยายครอบครัว วัยทำงาน 30-50 ปี โดยที่นี่มีบ้านเพียง 97 หลัง ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 17 ไร่ ประกอบด้วยบ้านขนาดใหญ่ บนที่ดิน 50-60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 185-233 ตร.ม. จำนวน 29 หลัง และบ้านขนาดกลาง บนที่ดิน 35-40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 155-158 ตร.ม. จำนวน 68 หลัง

         จากนั้น บริษัทฯ ยังเตรียมแผนพัฒนาโครงการต่อเนื่องด้วย 2 โครงการใหม่ในทำเลใกล้เคียงกัน ภายใต้แบรนด์ "ธนาพาร์ค พรีเว่" โครงการ 2 และ 3 มูลค่า 400 ล้านบาท โดยเจาะกลุ่มลูกค้าสังคมส่วนตัวสูง และราคาสมเหตุ สมผล

         สำหรับโครงการที่เปิดใหม่นอกจากอยู่ในทำเลหลักนนทบุรีแล้ว ยังขยายตัวสู่ทำเลอื่นที่มีศักยภาพ โดยขยายไปโซนตะวันออก อย่างโซนบางนา และโซนวงแหวน-พระราม 9 ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง ตั้งแต่กลุ่มที่เพิ่งเริ่มสร้างครอบครัว ถึงกลุ่มที่มีความมั่นคงทางรายได้

         โดยผลงานยอดคาด 9 เดือนแรกของปีนี้ จะสามารถทำได้ถึง 900 ล้านบาท มั่นใจได้ตามเป้ายอดขายที่วางไว้ 1,400 ล้านบาท ขณะที่รับรู้รายได้ทั้งปีได้ตามเป้าที่ 1,200 ล้านบาท เนื่องจากในครึ่งปีหลัง เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง

         ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา อนาบูกิ ธนาสิริ (ประเทศไทย) ได้พัฒนาโครงการมาแล้ว 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท และมีแผนพัฒนาเพิ่มเติมอีก จำนวน 2 โครงการ มูลค่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง

         ปี 68 แผนชัดเจน เนรมิตที่ดินภูเก็ต 106 ไร่

         นายสุทธิรักษ์ กล่าวถึงการพัฒนาโครงการ อสังหาฯ ในตลาดต่างจังหวัดว่า ได้ขยายการลงทุนเปิดโครงการแนวราบในจังหวัดอุดรธานี ภายใต้ชื่อโครงการธนาสิริวิลเลจ อุดรธานี-แอร์พอร์ต หลังเห็นโอกาสของดีมานด์มีตลาดบ้านอุดรธานีกลับมาขยายตัวดีขึ้น นอกจากนี้ กำลังศึกษาที่จะเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ เช่น ในพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น

         สำหรับโอกาสในการลงทุนโครงการอสังหาฯ ในภูเก็ต นั้น นายสุทธิรักษ์ กล่าวว่า บริษัทมีที่ดินสะสมประมาณ 106 ไร่ ห่างจากหาดกมลา ภูเก็ต ประมาณ 2 กม. แปลงนี้ถือครองมานานถึง 30 ปี ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจร่วมพัฒนาโครงการ ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาให้มอนิเตอร์ดูอสังหาฯในภูเก็ตช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนนี้ก่อน ยังสามารถมีโอกาสเติบโตของตลาดได้หรือไม่ และสถานการณ์สงครามยังคงร้อนแรงหรือไม่ ถ้ามีจะเป็นโอกาสของเรา รวมทั้งรอนโยบายรัฐบาลจะผลักดันเรื่องขยายสิทธิการเช่าอสังหาฯมากกว่า 30 ปีหรือไม่ และโครงการสถาบันเทิงครบวงจร เหล่านี้ จะช่วยได้มากๆ จะทำให้อสังหาฯ ในภูเก็ตมีความร้อนแรงขึ้นมากอีก

         "การพัฒนาจะไม่เกี่ยวกับแบรนด์ธนาสิริ เพราะเป็นกลุ่มละตลาดเน้นลูกค้าต่างชาติทั้งหมด การจะร่วมทุนหรือไม่ ยังไม่แน่ใจ เพราะตอนนี้ เรามีแลนด์แบงก์อยู่แล้ว ทำให้ไม่ยากในการ พูดคุยพันธมิตรที่เราร่วมทุนปัจจุบัน แสดงความสนใจ จะเป็นกลุ่มแรกที่เราจะพูดคุยกันก่อน ซึ่งเราอาจพัฒนาทั้งโครงการวิลล่าหรูปล่อยเช่า คอนโดมิเนียม โรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงโครงการส่งเสริมสุขภาพ เราต้องทำทุกอย่างให้ครบวงจร เพื่อส่งเสริมและต่อยอดฐานลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างสมบูรณ์ แต่พันธมิตรจะต้องเข้ามาช่วยแต้มต่อ เพราะเป็นตลาดที่เราไม่เคยทำตลาดต่างชาติ เป็นทำเลที่เราไม่เชี่ยวชาญ แต่โจทย์ใหญ่ พันธมิตร ต้องช่วยพัฒนาให้ธนาสิริ แข็งแกร่ง ทั้งในด้านการเงิน หนี้สินต่อทุน ซึ่งราคาแปลงนี้ ราคาต้นทุนไม่เกิน 50 ล้านบาท เพราะเราถือครองมากว่า 30 ปี ปัจจุบันราคาประเมิน 600-800 ล้านบาท แต่มูลค่าตามราคาตลาดสูงถึงราว 1,200-1,600 ล้านบาท ที่ดินเราถือครอง 106 ไร่ ไม่มาก เมื่อเทียบกับนักลงทุนรายใหญ่รายอื่น"