'แสนสิริ' มั่นใจยอดขาย - รายได้เข้าเป้า แรงหนุนบ้านลักชัวรี่ - สต๊อกพร้อมอยู่
Loading

'แสนสิริ' มั่นใจยอดขาย - รายได้เข้าเป้า แรงหนุนบ้านลักชัวรี่ - สต๊อกพร้อมอยู่

วันที่ : 29 สิงหาคม 2567
แสนสิริ กล่าวว่า ยอมรับว่าปีนี้ตลาดอสังหาฯยังเหนื่อยกว่าทุกปี โดยรวมทั้งตลาดปีนี้น่าจะติดลบ เพราะกำลังซื้อยังไม่มี แบงก์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ แต่แสนสิริโชคดีที่ยังมีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย
         นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยยังเหนื่อย เพราะยังมีปัญหาเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจที่สะสมมากว่า 10 ปี ซึ่งรัฐบาลใหม่ต้องเร่งแก้ แต่ในครึ่งปีหลังคาดหวังจะดีขึ้นจากสัญญาณการส่งออกที่เริ่มเป็นบวก การท่องเที่ยวฟ้นตัว งบประมาณของภาครัฐเริ่มออกมาสู่ระบบ แต่ยังมีปัจจัยเฝ้าระวังคือภูมิรัฐศาสตร์และความขัดแย้งระหว่างประเทศ ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีปัจจัยเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นที่รัฐบาลออกมา รวมถึงแนวโน้มที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังพิจารณาผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ในเดือนกันยายนนี้ และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มจะปรับลดลงในช่วงปลายนี้เช่นกัน

         "ยอมรับว่าปีนี้ตลาดอสังหาฯยังเหนื่อยกว่าทุกปี โดยรวมทั้งตลาดปีนี้น่าจะติดลบ เพราะกำลังซื้อยังไม่มี แบงก์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ แต่แสนสิริโชคดีที่ยังมีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายที่ปี 2567 ตั้งเป้าเปิดตัว 46 โครงการ มูลค่า 61,000 ล้านบาท ยอดขาย 52,000 ล้านบาท และยอดโอนที่ 43,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธินิวไฮ จากครึ่งปีแรกที่มีกำไรแล้ว 2,700 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายหุ้นโรงแรม Standard International ที่เราถืออยู่ 71% ให้โรงแรม Hyatt ด้วยมูลค่า 355 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้บางส่วนจะนำมาชำระหนี้และลงทุนใหม่" นายอุทัยกล่าว

         นายอุทัยกล่าวว่า คีย์ซักเซสที่ทำให้แสนสิริประสบความสำเร็จในแง่ยอดขายและยอดโอน เกิดจากการสร้างรายได้ของโครงการพร้อมอยู่ ทำให้รับรู้รายได้เร็ว โดยปัจจุบันมีสต๊อกพร้อมอยู่ร่วม 12,000 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 4,000 ล้านบาท และแนวราบ 8,000 ล้านบาท นอกจากนี้มาจากการการปรับแผนพัฒนาบ้านราคาแพงมากขึ้น สิ่งสำคัญคือแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ทำให้ปัจจุบันบริษัทยังคงเดินหน้าตามแผน แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่ยังไม่นิ่ง คงต้องรอดูสถานการณ์ไตรมาส 3 อีกครั้ง เพราะตอนนี้ต้องประเมินสถานการณ์เป็นรายเดือน อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีสภาพคล่องอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินหน้าธุรกิจและหุ้นกู้ครบชำระครึ่งปีหลังอีก 5,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ได้ปรับลดวงเงินซื้อที่ดินเหลือ 2,000 ล้านบาท เนื่องจากมีแลนด์แบงก์ในมือเพียงพอสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ในปี 2568 แล้ว
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ