เปิดตัว3ศูนย์การค้า3มุมเมืองธ.ค.นี้

          ชูฮับ'เอ็นเตอร์เทนเมนต์'ของเอเชีย
        
          น.ส.ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2566 เดอะมอลล์มีรายได้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท และกำไร 6 พันล้านบาท โดยเดือนธันวาคมนี้ จะเปิด 3 ศูนย์การค้า ที่ลงทุนรวม 5 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในย่านการค้า 3 มุมเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบด้วย วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เปิด ดิ เอ็มสเฟียร์ ย่านถนนสุขุมวิท มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท แนวคิดศูนย์การค้าแห่งอนาคตที่ไม่เคยหลับใหล ระยะแรกมีร้านค้าเปิดถึงตี 3 และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ บนพื้นที่ 2 แสนตารางเมตร (ตร.ม.) ประกอบด้วย ศูนย์การค้า อาคารทาวเวอร์ ร้านค้า ร้านอาหาร ยูโอบีไลฟ์ อิเกีย อีเอ็มทาวเวอร์ และที่จอดรถ เดินเชื่อม สถานีรถไฟฟ้า มาเติมเต็มให้กับ เอ็มดิสทริค ที่ประกอบด้วย 3 ศูนย์การค้า ได้แก่ ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และดิ เอ็มสเฟียร์ พัฒนาย่านสุขุมวิทเป็นฮับเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของเอเชีย เหมือนปารีส และใช้งบ 1,000 ล้านบาท เปิดตัวยิ่งใหญ่ พร้อมกิจกรรมการตลาด ดึงชาวไทยและนักท่องเที่ยวเข้ามามากิน เที่ยว เปรี้ยว มัน คาดจะมียอดผู้เข้าศูนย์ประมาณ 1.2-1.5 แสนคนต่อวัน

          น.ส.ศุภลักษณ์กล่าวว่า พร้อมกันนี้ ใช้งบอีก 3 หมื่นล้านบาท ปรับเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ สาขาบางแคกับสาขาบางกะปิ เป็นการพลิกใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ มหัศจรรย์ มหาศาล ที่มหานครแห่งใหม่ เปิดบริการพร้อมกันวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ปลุกความคึกคักให้กรุงเทพฯ โซนตะวันออกและตะวันตก และใช้งบ 1,000 ล้านบาท จัดกิจกรรมการตลาดและเปิดอย่างเป็นทางการ โดยบางกะปิเป็นทำเลมีศักยภาพ มีรถไฟฟ้า 3 สาย คือ สายสีเหลือง สีส้ม และสีน้ำตาล ยังมีท่าเรือแสนแสบและทางเดินเชื่อมการเดินทาง รวมถึงร่วมกับโลตัส แม็คโคร และตะวันนาของคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งมีพื้นที่รวมกันร่วม 100 ไร่ ยกระดับบางกะปิให้เป็นมหานครแห่งใหม่

          น.ส.ศุภลักษณ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันเดอะมอลล์อยู่ระหว่าง ก่อสร้างแบงค็อกมอลล์ ย่านบางนาตราด เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศ เพราะเป็นการสร้างเมืองของเมือง ด้วยพื้นที่ 1 ล้าน ตร.ม. มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท คาดเปิดปี 2569 ซึ่งการพัฒนาโครงการของเดอะมอลล์ ถ้าไม่ใหญ่เราไม่ทำ เพราะถ้าเราจะออกรบในสนามก็คือ สนามฟอร์มูล่าวันและต้องเป็นระดับโลก