รายงานพิเศษ: 4 หุ้นอสังหาฯ Q2/66 โดดเด่น
Loading

รายงานพิเศษ: 4 หุ้นอสังหาฯ Q2/66 โดดเด่น

วันที่ : 4 กรกฎาคม 2566
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) คาดยอดโอนและการเปิดโครงการใหม่ปี 2566 จะลดลง 10% จากปีก่อน
          หุ้นบมจ.ศุภาลัย (SPALI), บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP), บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) และบมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) ถูกยกให้เป็น 4 หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจลงทุน เนื่องจากกำไรไตรมาส 2 ปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น

          ขณะที่ SPALI และ LH ยังเป็นหุ้นที่ laggard มากที่สุดในกลุ่มฯ นี้ มีการเทรดกันที่ระดับ P/E ต่ำมาก โดย SPALI มีค่า P/E อยู่ที่ 4.89 เท่า P/BV 0.83 เท่า ราคาหุ้นปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 19-20 บาท ส่วน LH มีค่า P/E อยู่ที่ 13.05 เท่า P/BV 1.91 เท่า ราคาหุ้นปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 8-9 บาท

          แม้ไตรมาส 1 ปี 2566 ที่ผ่านมา SPALI จะมีกำไรสุทธิ 1,080.41 ล้านบาท ลดลง 97.41 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราการลดลง 8% โดยมีรายได้รวมที่ 5,641.42 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 269.18 ล้านบาท หรือมีรายได้เพิ่มขึ้น 5% เนื่องจากสามารถโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบได้เพิ่มขึ้นก็ตาม

          ผ่านไปแล้ว 5 เดือน ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย พบว่าจำนวนยูนิตของการเปิดโครงการใหม่และยอดจอง (presales) ยังคงซบเซา จำนวนยูนิตของการเปิดโครงการใหม่และยอดขายบ้าน (unit sold) ชะลอลง 19% และ 67% จากงวดเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ

          ขณะที่ ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม 2566 บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ยังเปิดโครงการใหม่ไม่มากนัก รวมทั้ง presales และอัตราการจองซื้อ (take-up rate) ยังอ่อนแอ ใน 5 เดือนแรกของปี 2566 จำนวนยูนิตการเปิดโครงการใหม่และยอด presales คิดเป็น 30% และ 6% ของประมาณการเต็มทั้งปี 2566 ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

          เมื่อต้นปี 2566 ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ประเมินอุปสงค์และอุปทานอสังหาริมทรัพย์รวมในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปีนี้จะเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2565 แต่ตัวเลขที่ออกมาต่ำกว่าคาด เนื่องจากผลเชิงลบจากมาตราการผ่อนคลายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan-to-value ratio : LTV) หมดอายุลงเมื่อสิ้นปี 2565 และความไม่มีเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจมหภาค รวมทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ

          ทางด้าน ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Information Center : REIC) คาดยอดโอนและการเปิดโครงการใหม่ปี 2566 จะลดลง 10% จากปีก่อน

          ขณะที่ ศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทย คาด presales ปี 2566 หดตัวที่ 2.8-3.4% จากปีที่ผ่านมา ส่วนยอดโอนลดลง 7.7-8.5% เห็นได้จาก Bloomberg consensus ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ลง ภายหลังจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ที่ออกมาอ่อนแอกว่าตลาดคาดการณ์

          อย่างไรก็ตาม บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่าทั้งการเปิดโครงการใหม่และ presales ในเดือนมิถุนายน 2566 จะดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบแบบเดือนต่อเดือน จากการเปิดโครงการใหม่ ๆ รวมจำนวนโครงการคอนโดมิเนียมใหญ่หลายโครงการ

          จึงคาดว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายไตรมาส 2 นี้ โดยประเมินจำนวนยูนิต presales รวมเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2566 ของโครงการแนวราบราคาสูงกว่า 3 ล้านบาท เห็นสัญญาณการฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน โดยอัตราการให้เช่า (take up rate) และหน่วยการขาย (unit sold) เพิ่มขึ้นเป็น 11% เทียบกับ 6% ในไตรมาส 1 ปี 2566 และ 619 ยูนิต เทียบกับ 577 ยูนิต ในไตรมาสก่อน สวนทางกับจำนวนยูนิต presales ของโครงการคอนโดมิเนียมที่อ่อนแอ

          แต่แนวโน้มดีขึ้นในเดือนมิถุนายน 2566 ช่วยหนุนจากการเปิดขายโครงการใหม่ ซึ่งโครงการที่เป็นไฮไลต์ (highlight) ของเดือนนี้ เช่น โครงการ Life พหลฯ-ลาดพร้าว คอนโดฯ มูลค่า 3.5 พันล้านบาท ของบมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) ที่เปิดช่วง 17-18 มิถุนายน 2566 ขายได้แล้วมากกว่า 50% ของโครงการ

          บล.เคจีไอฯ คาดกำไรปี 2566 ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การศึกษาอยู่จะทรงตัว หรืออาจลดลงเล็กน้อย ส่วนปี 2567 น่าจะเติบโต 7-8% จากปีนี้

          ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยปี 2566 ยังน่าสนใจที่ 6.6% โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลระหว่างกาลอยู่ที่ 2.3% คาดทั้งกำไรและ presales ในไตรมาส 2 ที่จะประกาศออกมาจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจากฐานต่ำ แต่ยังลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน

          4 บริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2 จะสดใสเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ได้แก่ SPALI, ORI จากการเปิดโครงการใหม่จำนวนมาก และยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ๆ เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2566

          ส่วนทั้ง LH และ AP จะเติบโตโดดเด่นจากฐานในไตรมาส 1 ต่ำ ปัจจุบันหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ซื้อขาย (trading) อยู่ที่ค่าเฉลี่ย P/E ระยะยาว ขณะที่ทั้ง SPALI และ LH ถือเป็นหุ้นที่ laggard มากที่สุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 

          และนี่คือ 4 หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่โบรกเกอร์ประเมินว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 เติบโตโดดเด่น

 
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ