กำลังซื้อไทยอ่อนแอ หนุนเพิ่มสัดส่วนต่างชาติ ซื้อคอนโด
Loading

กำลังซื้อไทยอ่อนแอ หนุนเพิ่มสัดส่วนต่างชาติ ซื้อคอนโด

วันที่ : 3 กรกฎาคม 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ประเมินว่าการเพิ่มสัดส่วนถือครองห้องชุดต่างชาติเป็น 75% จะแก้ปัญหาในเรื่องกำลังซื้อได้ แต่อาจไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่มสัดส่วนให้ในทุกจังหวัดหรือทุกพื้นที่ เพราะต่างชาติสนใจซื้อห้องชุดในพื้นที่เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเท่านั้น
     มีการพูดถึงเป็นวงกว้างสำหรับการขยายระยะเวลาเช่าและการเพิ่มสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ว่าในที่สุดแล้วจะมีผลดีผลเสียมากน้อยแค่ไหน หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา มอบกระทรวงมหาดไทย ศึกษาความเป็นไปได้เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ให้เกิดการฟื้นตัว หลังจากกำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอ

     นายไซม่อน ลี ประธานกรรมการ บริษัท แองเจิลเรียลเอสเตท คอนซัลแทนซี่ จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดและขายโควต้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรณีรัฐบาลมีแนวคิดแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายให้เช่ายาว 99 ปีและให้ต่างชาติถือครองห้องชุดได้ 75% เป็นเรื่องดีที่จะทำให้การซื้ออสังหาฯในไทยของต่างชาติถูกกฎหมายมากขึ้น ทำให้ต่างชาติตัดสินใจง่ายขึ้น ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะปัจจุบันต่างชาติยังมีความต้องการซื้อหรือเช่าระยะยาวอสังหาฯในไทย ทั้งกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน รัสเซีย ไต้หวัน เมียนมา เพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 และเพื่อการลงทุน

     ส่วนระดับราคาที่ซื้อขึ้นอยู่กับทำเล เช่น กรุงเทพฯจะมากกว่า 20 ล้านบาท ภูเก็ตจะเป็นพลูวิลล่าที่ขายดีราคา 30-40 ล้านบาท พัทยาเป็นคอนโดวิวทะเลที่ต่างชาตินิยม เป็นต้น ทั้งนี้จากปัญหาการโอนเงิน ทำให้ในไตรมาส 2 กำลังซื้อต่างชาติแผ่วลง โดยเฉพาะชาวพม่าที่ลดลงมากกว่า 50%

     สอดคล้อง นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ประเมินว่าการเพิ่มสัดส่วนถือครองห้องชุดต่างชาติเป็น 75% จะแก้ปัญหาในเรื่องกำลังซื้อได้ แต่อาจไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่มสัดส่วนให้ในทุกจังหวัดหรือทุกพื้นที่ เพราะต่างชาติสนใจซื้อห้องชุดในพื้นที่เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเท่านั้น

    อย่างไรก็ตามตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยมีการชะลอตัวอย่างมากในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ทั้งจากกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอลง และการที่ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ยากขึ้น หากเพิ่มสัดส่วนต่างชาติเข้ามาจะเป็นผลดีเพราะเขาเหล่านั้นต้องการที่อยู่อาศัยในไทยและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสัดส่วนขึ้นทุกปี

     จากการสำรวจยอดโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ไตรมาส 1 ปี 2567 ทั่วประเทศ 3,938 หน่วย เพิ่มขึ้น4.3% มูลค่ารวม 18,013 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์รวม 173,007 ตารางเมตร ขยายตัว 2.6%

      สำหรับจังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวต่างชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ชลบุรี 1,521 หน่วยคิดเป็น 38.6% มูลค่า 4,165 ล้านบาท 2. กรุงเทพมหานคร 1,498 หน่วย คิดเป็น 38.0% มูลค่า 10,699 ล้านบาท3. เชียงใหม่ 249 หน่วย มูลค่า 574 ล้านบาท 4. ภูเก็ต 242 หน่วยมูลค่า 1,353 ล้านบาท และ 5. สมุทรปราการ 140 หน่วย มูลค่า 392 ล้านบาท แม้ชลบุรีมีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์เป็นอันดับ 1 แซงกรุงเทมหานนครในปี 2566 แต่กรุงเทพฯ ก็ยังคงเป็นจังหวัดที่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติสูงที่สุดมาโดยตลอด

      ด้านสัญชาติของผู้ซื้อ ชาวจีนยังครองอันดับ 1 ด้วยยอดซื้อ 1,596 หน่วย (43.8%) มูลค่า 7,570 ล้านบาท ตามมาด้วยชาวพม่า 392 หน่วย (10.0%) มูลค่า 2,207 ล้านบาท และชาวรัสเซีย 295 หน่วย (7.5%) มูลค่า 924 ล้านบาทโดยชาวเมียนมามียอดซื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 415.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ