นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยถึงภาพรวม สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติไตร มาส 1/2566 ว่า ทั้งในมิติของจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่ มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน แต่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 โดยตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ที่สูงขึ้นในไตรมาสนี้ เกิดจากประเทศต่างๆ มีการเปิดให้มีการเดินทางระหว่างกันได้ โดยเฉพาะประเทศจีน

          "การขายและโอนกรรม สิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติปรับตัวดีขึ้นทุกกลุ่ม เช่น ยุโรป สหรัฐฯ ออสเตรเลีย รัสเซีย และ เอเชีย แต่กลุ่มหลักยังคงเป็นชาวจีน และยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ซื้อห้องชุดที่สร้างเสร็จเหลือขายและห้องชุดมือสองเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สัดส่วนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติปรับเพิ่มขึ้นเป็น 15.9% และสัดส่วนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติก็เพิ่มขึ้นเป็น 24.3%" นายวิชัยกล่าว

          ทั้งนี้ หน่วยโอนกรรม สิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ 3,775 หน่วย ขยายตัว 79.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 ส่วนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ 17,128 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สูงต่อเนื่อง จากไตรมาส 3/2565 ขณะที่ พื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คน ต่างชาติทั่วประเทศ 168,664 ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 73.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

          ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมือสองให้คนต่างชาติมีการขยายตัว โดยด้านจำนวนหน่วยเป็น 59 : 41% ด้านมูลค่าเป็น 70 : 30% และด้านพื้นที่เป็น 53 : 47% ซึ่งคนต่างชาติอาจมีความต้องการห้องชุดมือสองในบางทำเล เช่น ทำเลพื้นที่ชั้นใน หรือพื้นที่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันมีอุปทานให้เลือกน้อยลง และราคาห้องชุดมือสองในทำเลเหล่านี้ต่ำกว่าโครงการเปิดใหม่

          นอกจากนี้ พบว่าห้องชุดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทมีการโอนมากที่สุดที่ 1,900 หน่วย มูลค่า 3,431 ล้านบาท มีสัดส่วนของหน่วยโอนสูงสุดถึง 50.3% ขณะที่ห้องชุดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นราคาที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่นิยมซื้อตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน ส่วนห้องชุดที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติน้อยสุดคือ ช่วงราคา 7.51-10.00 ล้านบาท