นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติไตรมาส 1 ปี 66 ว่า ยอดการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของคนต่างชาติ มีจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่กลับมาเติบโตอย่างชัดเจน แม้จะยังต่ำกว่าช่วงที่ก่อนเกิดโควิดบ้าง โดยสาเหตุมาจากการที่ไทยเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 65 และการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว

          สำหรับยอดการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศในไตรมาส 1 ทั่วประเทศ มีจำนวน 3,775 หน่วย ขยายตัว 79.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 65 ส่วนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศมี 17,128 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.6% ซึ่งสูงต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ปี 65 ขณะที่พื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 168,664 ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 73.8% เช่นกัน

          ส่วนสัญชาติของผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ ชาวจีนก็ยังคงเป็นสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากสุด โดยมียอดโอน 1,747 หน่วย มูลค่า 8,191 ล้านบาท รองลงมา รัสเซีย 387 หน่วย มูลค่า 1,364 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 156 หน่วย มูลค่า 653 ล้านบาท สหราชอาณาจักร 146 หน่วย  มูลค่า 703 ล้านบาท  และเยอรมัน 131 หน่วย มูลค่า 611 ล้านบาท นอกจากนี้ มีสถิติน่าสนใจโดยพบเมียนมา เป็นสัญชาติที่มีมูลค่าการโอนต่อหน่วยสูงสุด 6.5 ล้านบาท และอินเดีย เป็นสัญชาติที่โอนห้องชุดขนาดใหญ่ที่สุดเฉลี่ย 77.7 ตารางเมตร ขณะที่ชาวจีนมีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากที่สุดเฉลี่ย 4.7 ล้านบาท

          สำหรับจังหวัดที่มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก อันดับหนึ่งเป็นกรุงเทพฯ มีมูลค่า 9,976 ล้านบาท รองลงมาชลบุรี มีมูลค่า 4,557 ล้านบาท เชียงใหม่ มูลค่า 966 ล้านบาท ภูเก็ต มูลค่า 655 ล้านบาท และประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 646 ล้านบาท มีรายละเอียด ที่น่าสนใจพบว่า ในชลบุรีมีจำนวนหน่วยโอนคอนโดฯ มากกว่ากรุงเทพฯเป็นครั้งแรก และเมื่อพิจารณาย้อนหลังไปถึงปี 61 พบว่า กรุงเทพฯ และชลบุรี ยังคงเป็นจังหวัดที่มีจำนวนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติในสัดส่วนที่มากที่สุดเช่นเดียวกัน