A5 โตทุกไตรมาส รายได้กระฉูด2เท่า
Loading

A5 โตทุกไตรมาส รายได้กระฉูด2เท่า

วันที่ : 19 มิถุนายน 2566
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยว่า ตลาดของคนสร้างบ้านเองมีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งเหตุผลที่สร้างบ้านเอง เพราะบ้านที่มีอยู่ในตลาดไม่ตอบโจทย์ความต้องการ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นตลาดที่ใหญ่มาก
          “แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป” การันตีผลงานปีนี้โตทุกไตรมาส ดันรายได้รวมทั้งปี 1,600 ล้านบาท โตกระฉูด 2.4 เท่า จากปีก่อน ขณะที่ไตรมาส 2/66 บุ๊กต่อเนื่องรายได้โอนบ้านหรู “แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา” และเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรโครงการ ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์ พร้อมลุ้นหากปีนี้กำไรงามมีโอกาสพิจารณาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น

          นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการข่าวหุ้นเจาะตลาด ทาง Kaohoon TV Online และสถานีวิทยุกระจายเสียง ขส.ทบ. FM 102 MHz ว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมในปี 2566 ไว้ที่ 1,600 ล้านบาท เติบโต 2.4 เท่าตัว จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 664.43 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 1/2566 บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 338.62 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 86.80 ล้านบาท จากทั้งปีของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 97.79 ล้านบาท

          “กำไรจะมาจาก 2 ส่วน คือ 1.รายได้จากการขาย และ 2.การบริหารต้นทุน โดยหลัก ๆ มาจากค่าที่ดิน และค่าก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมา A5 ได้ที่ดินมาในราคาที่ดี ราคาต่ำกว่าตลาด ส่วนในเรื่องของต้นทุนการก่อสร้าง เราใช้พันธมิตรที่ทำงานร่วมกันมานาน และเป็นผู้รับเหมาที่มีคุณภาพดี การที่เราพัฒนาโครงการบ้านหรู เราไม่มีการควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้าง เพราะต้องการให้วัสดุมีคุณภาพดีอย่างเต็มที่ แต่กำไรที่เพิ่มขึ้นจะไปเพิ่มในส่วนของราคาบ้าน ซึ่งเราค่อนข้างทำราคาได้ดี ลูกค้าที่ซื้อบ้านจะเห็นถึงมูลค่าเพิ่มของบ้านของ A5 ด้วยฟังก์ชันและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ จึงตัดสินใจซื้อ ทำให้กำไรของบริษัทดี” นายศุภโชค กล่าว

          สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทวางเป้าหมายการรับรู้รายได้เติบโตขึ้นทุก ๆ ไตรมาส โดยตลาดที่ A5 จับนั้น จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่ดี มีการกู้ยืมสินเชื่อน้อย ซึ่งไตรมาส 2/2566 จะมีการรับรู้รายได้จากโครงการ แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา เป็นบ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ในระดับราคาขาย 60-150 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท เพิ่มมากขึ้น จากไตรมาส 1/2566 ที่มีการรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวแล้ว 305 ล้านบาท และเตรียมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Tonson One Residence (ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ปัจจุบันมียอดจองซื้อแล้วกว่า 87% ของมูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท

          ขณะที่ทิศทางการพัฒนาโครงการในอนาคต บริษัทจะยังคงเน้นพัฒนาโครงการประเภทแนวราบเป็นหลัก ซึ่งในอีก 1-2 ปีจากนี้ บริษัทมีแผนงานที่ชัดเจนจะมุ่งพัฒนาโครงการแนวราบ โดยมีโครงการที่จะเปิดใหม่ในช่วงที่เหลือของปี 2566-2567 แล้ว จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 8,400 ล้านบาท ซึ่งยังคงจับตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ต่อไป

          ทั้งนี้ จากการสำรวจของ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) พบว่าตลาดของคนสร้างบ้านเองมีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งเหตุผลที่สร้างบ้านเอง เพราะบ้านที่มีอยู่ในตลาดไม่ตอบโจทย์ความต้องการ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นตลาดที่ใหญ่มาก และด้วยเป้าหมายในปี 2566 ของ A5 ที่วางเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 1,600 ล้านบาท และในปี 2569 จะมีรายได้ 5,000 ล้านบาท ถือว่ายังมีส่วนแบ่งที่น้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดรวมดังกล่าว และด้วยแบบบ้านของ A5 ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งฟังก์ชันและดีไซน์ จึงเป็นโอกาสในการเติบโตของ A5

          นายศุภโชค กล่าวอีกว่า การที่ A5 เติบโตได้เร็ว และมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะ A5 เป็นบริษัทที่มีขนาดเล็ก อัตราเร่งในการเติบโตจึงทำได้เร็วกว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ อีกทั้งปัจจุบันบริษัทไม่ได้ปิดกั้นโอกาสในการขยายธุรกิจ ทั้งในรูปแบบของการร่วมทุนกับเจ้าของที่ดิน หรือในรูปแบบอื่น ๆ สำหรับความแตกต่างของการซื้อที่ดินในการพัฒนาโครงการเอง กับการที่มีพันธมิตรเป็นเจ้าของที่ดินจะขึ้นอยู่กับสัดส่วนของการร่วมทุนและการประเมินที่ดิน แต่จะทำให้บริษัทมีโครงการในพอร์ตได้มากขึ้น

          ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังยังคงทรงจากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากทิศทางของดอกเบี้ยที่เป็น Purchasing Power หลัก ทั้งของลูกค้าและของผู้ประกอบการ ก็ยังอยู่ในทิศทางที่ทรง ๆ โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและการก่อสร้าง จำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการ แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา, 2.โครงการ ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์, 3.โครงการ บ้านรชยา ประชาสันติ จังหวัดอุดรธานี และ 4.โครงการ บ้านรชยา เอกมันตรา จังหวัดอุดรธานี ซึ่งในปีนี้จะมีการรับรู้รายได้จาก 4 โครงการดังกล่าว

          ด้านแหล่งเงินทุนในการขยายกิจการ จะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นหลัก อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงิน รวมถึงการออกหุ้นกู้ และล่าสุดบริษัทได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) เพื่อเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีความพร้อมในการขยายโครงการเพิ่มขึ้นในอนาคต

          “ในส่วนผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น บริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผล 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี และสำรองตามกฎหมาย โดยคำนวณจากงบการเงินเฉพาะบริษัท (งบเดี่ยว) ซึ่งในปี 2565 บริษัทได้แจกฟรีวอร์แรนต์แทนการจ่ายเงินปันผล และหากในปี 2566 บริษัทมีกำไรที่เหมาะสม ก็มีโอกาสในการพิจารณาการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นด้วย” นายศุภโชค กล่าว
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ