ครม.อนุมัติจัดตั้งบมจ.เคหะสุขประชาร่วมเอกชนทำบ้านเช่า1แสนหลังให้คนจน
วันที่ : 10 พฤศจิกายน 2564
แชร์ :
เพื่อจัดทำบ้านเช่า 100,000 หลัง ภายใน 4 ปี สำหรับกลุ่ม เปราะบาง
อนุมัติตั้งบมจ.เคหะสุขประชา
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการ การจัดตั้งบริษัทในเครือของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) "บริษัทเคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน)" (บมจ. เคหะสุขประชา) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ และเห็นชอบการปรับเพิ่มกรอบงบลงทุนประจำปีงบประมาณ 2565 หมวดลงทุนอื่นๆ โดยเห็นชอบให้ กคช. นำ รูปแบบแนวทาง PPP (Public Private Partnership) ตาม พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 62 มาใช้ในการดำเนินโครงการ
"บมจ.เคหะสุขประชา" จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภาคที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยดังนี้
1) พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคที่อยู่อาศัย ทำโครงการบ้านเช่าฯ จำนวน 100,000 หน่วย ภายใน 4 ปี (ปี 65-68) ครอบคลุม 4 กลุ่มเป้าหมาย 1. กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ บ้านแฝดชั้นเดียว/2 ชั้น ที่ดิน 16 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. ค่าเช่า 1,500 บาทต่อเดือน 2. กลุ่มผู้มีสถานะโสด บ้านแฝดชั้นเดียว/2ชั้น ที่ดิน 16 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. ค่าเช่า 2,000 บาทต่อเดือน, 3. กลุ่มครัวเรือนใหม่ บ้านแฝดชั้นเดียว/2ชั้น ที่ดิน 17.5 ตร.ว.พื้นที่ใช้สอย 40 ตร.ม. ค่าเช่า 2,500 บาทต่อ เดือน และ 4.กลุ่มครอบครัว บ้านแฝดชั้นเดียว/2ชั้น ที่ดิน 20 ตร.ว.พื้นที่ใช้สอย 50 ตร.ม. ค่าเช่า 3,500 บาท ต่อเดือน ประมาณการรายรับภายใน 4 ปี 60,000 ล้านบาท
2) รับซื้อทรัพย์สินมาบริหารการขาย โดยรับซื้ออาคารคงเหลือ จาก กคช. เช่นโครงการบ้านเอื้ออาทร 18,000 หน่วย ภายใน 2 ปี (ปีละ 9,000 หน่วย) (ปี 64-66) นำมาบริหารการขาย 4 ปี (ปี 65จำนวน 7,200 หน่วย ปี 66 จำนวน 6,000 หน่วย ปี 67 จำนวน 1,800 หน่วย ปี 68 จำนวน 3,000 หน่วย) ประมาณการมูลค่าการขายรวม 10,890 ล้านบาท
3) พัฒนาและบริหารชุมชน โครงการบ้านเช่าฯ และรับจ้างดูแลโครงการตามแผนแม่บทฯ รวมจำนวน 200,000 หน่วย โดยจะคิดค่าดำเนินการพัฒนาธุรกิจร้อยละ 5 ของรายได้ 40,000 บาทต่อครอบครัว ประมาณการรายรับ 2,400 ล้านบาทต่อปี
4) พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ในพื้นที่โครงการบ้านเช่า ประมาณ 330 โครงการ ประมาณการรายรับ 2,400 ล้านบาทต่อปี
5) บริหารทรัพย์สินรอการพัฒนา Sunk cost จำนวน 94 แปลง (4,571 ไร่) มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท ประมาณการรายได้พึงรับ 125 ล้านบาท/ปี
สำหรับเงินทุนจดทะเบียนและสัดส่วนการร่วมทุน จะประกอบไปด้วยเงินทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท โดยเงินลงทุนจาก กคช. 245 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 49) เงินลงทุนจากภาคเอกชน 255 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 51)
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการ การจัดตั้งบริษัทในเครือของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) "บริษัทเคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน)" (บมจ. เคหะสุขประชา) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ และเห็นชอบการปรับเพิ่มกรอบงบลงทุนประจำปีงบประมาณ 2565 หมวดลงทุนอื่นๆ โดยเห็นชอบให้ กคช. นำ รูปแบบแนวทาง PPP (Public Private Partnership) ตาม พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 62 มาใช้ในการดำเนินโครงการ
"บมจ.เคหะสุขประชา" จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภาคที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยดังนี้
1) พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคที่อยู่อาศัย ทำโครงการบ้านเช่าฯ จำนวน 100,000 หน่วย ภายใน 4 ปี (ปี 65-68) ครอบคลุม 4 กลุ่มเป้าหมาย 1. กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ บ้านแฝดชั้นเดียว/2 ชั้น ที่ดิน 16 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. ค่าเช่า 1,500 บาทต่อเดือน 2. กลุ่มผู้มีสถานะโสด บ้านแฝดชั้นเดียว/2ชั้น ที่ดิน 16 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. ค่าเช่า 2,000 บาทต่อเดือน, 3. กลุ่มครัวเรือนใหม่ บ้านแฝดชั้นเดียว/2ชั้น ที่ดิน 17.5 ตร.ว.พื้นที่ใช้สอย 40 ตร.ม. ค่าเช่า 2,500 บาทต่อ เดือน และ 4.กลุ่มครอบครัว บ้านแฝดชั้นเดียว/2ชั้น ที่ดิน 20 ตร.ว.พื้นที่ใช้สอย 50 ตร.ม. ค่าเช่า 3,500 บาท ต่อเดือน ประมาณการรายรับภายใน 4 ปี 60,000 ล้านบาท
2) รับซื้อทรัพย์สินมาบริหารการขาย โดยรับซื้ออาคารคงเหลือ จาก กคช. เช่นโครงการบ้านเอื้ออาทร 18,000 หน่วย ภายใน 2 ปี (ปีละ 9,000 หน่วย) (ปี 64-66) นำมาบริหารการขาย 4 ปี (ปี 65จำนวน 7,200 หน่วย ปี 66 จำนวน 6,000 หน่วย ปี 67 จำนวน 1,800 หน่วย ปี 68 จำนวน 3,000 หน่วย) ประมาณการมูลค่าการขายรวม 10,890 ล้านบาท
3) พัฒนาและบริหารชุมชน โครงการบ้านเช่าฯ และรับจ้างดูแลโครงการตามแผนแม่บทฯ รวมจำนวน 200,000 หน่วย โดยจะคิดค่าดำเนินการพัฒนาธุรกิจร้อยละ 5 ของรายได้ 40,000 บาทต่อครอบครัว ประมาณการรายรับ 2,400 ล้านบาทต่อปี
4) พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ในพื้นที่โครงการบ้านเช่า ประมาณ 330 โครงการ ประมาณการรายรับ 2,400 ล้านบาทต่อปี
5) บริหารทรัพย์สินรอการพัฒนา Sunk cost จำนวน 94 แปลง (4,571 ไร่) มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท ประมาณการรายได้พึงรับ 125 ล้านบาท/ปี
สำหรับเงินทุนจดทะเบียนและสัดส่วนการร่วมทุน จะประกอบไปด้วยเงินทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท โดยเงินลงทุนจาก กคช. 245 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 49) เงินลงทุนจากภาคเอกชน 255 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 51)
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาครัฐ อื่นๆ
