กาญจน์ผุด2ทำเล4พันยูนิต บ้านเพื่อคนไทย-กลางปี69
Loading

กาญจน์ผุด2ทำเล4พันยูนิต บ้านเพื่อคนไทย-กลางปี69

วันที่ : 2 กุมภาพันธ์ 2568
เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ได้รายงานว่าจะมีแผนพัฒนาพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ไม่ได้ใช้เพื่อการเดินรถ (Non Core Business) ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อดำเนินโครงการบ้านเพื่อคนไทย ระยะที่ 2 จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริเวณสถานีรถไฟกาญจนบุรี และป้ายหยุดรถสะพานแควใหญ่ โดยมีแนวทางการพัฒนาในรูปแบบคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และอาคารพาณิชย์ รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,000 ยูนิต ซึ่งคาดว่าการดำเนินการ เบื้องต้นในประมาณกลางปี 2569
   2 ทำเล 4พันยูนิตกลางปี69 เร่งแก้คุณสู้เราช่วยต่ำเป้า 1กพ. 'ทรัมป์' ขึ้นภาษี3ปท.

   'พิชัย' สั่งแบงก์รัฐ-ธปท.ต้อนลูกหนี้ เผยเข้าโครงการ'คุณสู้ เราช่วย'ต่ำเป้า เล็งซอฟต์โลน 5 หมื่นล้าน ปล่อยนอนแบงก์ คลังเผยแก้หนี้ นอกระบบ 5.23 หมื่นราย

   'พิชัย' สั่งแบงก์-ธปท.ต้อนลูกหนี้

   เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า ความคืบหน้าโครงการแก้หนี้ภาคประชาชน คุณสู้ เราช่วย ล่าสุด นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้สถาบันการเงินรัฐ และประสานธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เร่งหาทางดึงประชาชนเข้าโครงการแก้หนี้ภาคประชาชน คุณสู้ เราช่วย โดยด่วน เนื่องจากนับตั้งแต่เปิดโครงการมาเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567-28 มกราคม 2568 มีประชาชนเข้าร่วมโครงการแก้หนี้ 4.97 แสนล้านราย คิดเป็น 5.67 แสนบัญชี น้อยกว่าที่คาดไว้มาก จากเดิมได้ตั้งเป้าหมายช่วยแก้หนี้ 1.9 ล้านคน คิดเป็น 2.1 ล้านบัญชี และมี ยอดหนี้รวมประมาณ 8.9 แสนล้านบาท เพื่อให้ สามารถช่วยลดหนี้ครัวเรือนลงมากว่า 10%

    รายงานข่าวระบุว่า ผ่านมาเกินครึ่งทางแล้ว แต่เพิ่งมีลูกหนี้ผู้แสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการประมาณ 1 ใน 4 เท่านั้น ดังนั้น ในช่วง 1 เดือนสุดท้ายก่อนปิดโครงการ 28 กุมภาพันธ์นี้ จึงสั่งการให้แบงก์รัฐช่วยประชาสัมพันธ์ โครงการแก้หนี้ คุณสู้ เราช่วย โดยด่วน

    ลุยต่อช่วยลูกหนี้ค้างจ่ายเกิน1ปี

    รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบถามประชาชน บางส่วนไม่สนใจเข้าร่วมโครงการ เพราะถึงเข้าร่วมไปก็ไม่มีเงินผ่อนชำระหนี้อยู่ดี เพราะโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" มุ่งไปที่การลดภาระค่างวด แต่ไม่มีการแฮร์คัตเงินต้นให้ ดังนั้นหลังจากนี้จะต้องจับตามาตรการแก้หนี้ เฟสต่อไป สำหรับลูกหนี้ที่มีหนี้เสียเกิน 1 ปี ว่ารัฐจะมีมาตรการอะไรเพิ่มออกมา

    นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกหนี้ของการประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน หรือนอนแบงก์ โดยใช้กลไกที่รัฐบาลจะให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อลดภาระต้นทุนให้นอนแบงก์ และให้นอนแบงก์นำเงินดังกล่าว ไปใช้ช่วยเหลือลูกหนี้ โดยการช่วยเหลือจะใช้แนวทางเดียวกับ โครงการคุณสู้ เราช่วย คือ 1.กรณีลูกหนี้ที่มีปัญหาการผ่อนชำระ จะช่วยลดภาระการผ่อนชำระ และลดดอกเบี้ย และ 2.กรณีลูกหนี้ที่มีสถานะหนี้เสีย หรือ แอลพีแอล ที่มียอดหนี้ต่ำกว่า 5,000 บาท ให้ผ่อนชำระบางส่วน และปิดจบหนี้ได้เลย โดยทุกมาตรการนั้นนอนแบงก์รับภาระส่วนหนึ่ง และรัฐบาลช่วยรับภาระส่วนหนึ่ง

    คลังแก้หนี้นอกระบบ5.23หมื่นราย

    นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566- 30 มกราคม 2568 มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้วจำนวน 5.23 หมื่นราย ยอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 1,857.17 ล้านบาท

     นายพรชัยกล่าวว่า ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยังมีนโยบายส่งเสริมให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อยในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ไม่ถูกเอาเปรียบจากเจ้าหนี้นอกระบบที่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยปัจจุบัน ณ เดือนมกราคม 2568 มีนิติบุคคล (บริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด) ได้รับ ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้ว 1,149 รายใน 75 จังหวัด และ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2567 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชน รายย่อยสะสมทั้งสิ้น 4,840,118 บัญชี เป็นจำนวนเงินรวม 46,980.33 ล้านบาท โดยเป็นยอดสินเชื่อคงค้าง 388,997 บัญชีเป็นจำนวนเงินรวม 7,297.18 ล้านบาท

    'สุริยะ' ชี้รถยนต์ส่วนตัวลด5แสนคัน

    นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้านโยบายให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้าและรถโดยสารประจำทางสาธารณะ (รถเมล์) ฟรี รวมระยะเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 25-31 มกราคม 2568 เพื่อเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายว่า จากดำเนินการนโยบายให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้าและรถโดยสารประจำทางสาธารณะ (รถเมล์) ฟรี ครบ 7 วัน พบว่าประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น

    นายสุริยะกล่าวว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้รายงานข้อมูลจากการเก็บสถิติ จากปกติพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีปริมาณรถยนต์ประมาณ 10 ล้านคัน จำนวนนี้เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ประมาณ 5 ล้านคัน พบว่าภายหลัง จากดำเนินการมาตรการดังกล่าว เพื่อสนับสนุน ให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ การใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ลดลงประมาณ 10% หรือลดลง 5 แสนคัน ช่วยลดปัญหาการปล่อยก๊าซจากท่อไอเสียมากขึ้น

     ประเมินต่ออายุรถไฟฟ้าฟรี

    นายสุริยะกล่าวว่า สำหรับกรณีที่จะมีการขยายมาตรการรถไฟฟ้า รถเมล์ฟรีหรือไม่นั้น ในเรื่องนี้คงต้องมีการประเมินรอบด้าน ก่อนหลังครบ 7 วันของการทำมาตรการ ซึ่งความจริงรัฐบาลสามารถขอความร่วมมือจากภาคเอกชนได้ แต่ภาคเอกชนก็มีการลงทุน มีต้นทุน ค่าใช้จ่ายที่บริหารจัดการ เบื้องต้นทางรัฐบาลอาจจะไม่มีการต่อขยายมาตรการขึ้นรถไฟฟ้า และรถเมล์ฟรีออกไปอีก หลังจากสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 31 มกราคม 2568 เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จะเริ่มลดลง และตัวเลขผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นถ้าคิดแบบจำนวนเต็มรัฐบาลอาจจะต้องจ่ายต้องจ่ายเงินชดเชยเยอะกว่านี้ ดังนั้นจึงมองว่าการ ตีกรอบแค่ 7 วันที่ผ่านมาน่าจะเหมาะสมแล้ว แต่ก็ยังต้องมีการประเมินต่อไปว่าจะมีการ ปรับเปลี่ยนหรือไม่

    ใช้ขสมก.เพิ่มขึ้น43.75%

    นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ช่วงมาตรการให้ประชาชนโดยสารรถโดยสารสาธารณะองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฟรี 7 วัน ทาง ขสมก.เร่งรัดดำเนินมาตรการด้านการตรวจสอบและห้ามใช้ยานพาหนะที่ปล่อยควันดำเกินกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

    นายกิตติกานต์กล่าวว่า ช่วงระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-31 มกราคม 2568 มีรถโดยสารให้บริการทั้งสิ้น จำนวน 2,883 คัน แบ่งเป็น รถโดยสารธรรมดา จำนวน 1,519 คัน รถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 1,364 คัน ขณะที่ปริมาณผู้ใช้บริการเปรียบเทียบก่อนและหลังมาตรการ เพิ่มขึ้นสูงสุด 181,473 คน คิดเป็น 43.75%

    ยอดใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น38.66%

    นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวว่า กรมการขนส่งทางรางสรุปภาพรวมสะสม 6 วัน ระหว่างวันที่ 25-30 มกราคม 2568 ตามมาตรการรถไฟฟ้าฟรี มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ารวม 12,085,213 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากช่วงวันเดียวกันของสัปดาห์ที่ผ่านมา 3,369,746 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 38.66% (วันที่ 18-23 มกราคม 2568 รวม 6 วัน ก่อนมีมาตรการ มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ารวม 8,715,467 คน-เที่ยว) และวันที่ 31 มกราคม 2568 เป็นวันศุกร์สิ้นเดือน และเป็นวันสุดท้ายที่ขึ้นรถไฟฟ้าฟรีตามมาตรการดังกล่าว รวมทั้งเป็นวันแรกที่มีการจัดงานเกษตร ซึ่งเป็นไปตามที่คาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าสูงที่สุด

    บ้านเพื่อคนไทยจอง2.5แสนคน

    รายงานข่าวจากบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) แจ้งความคืบหน้าการเปิดให้ประชาชนสามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการบ้านเพื่อคนไทยว่า หลังจากวันที่ 31 มกราคม 2568 ทางบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท ขอยืนยันว่า หน่วยงานยังคงเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ต่อเนื่องได้อย่างไม่มีกำหนดปิดการลงทะเบียน รวมถึงยังคงเปิดให้ประชาชนชมบ้านเดี่ยว-ห้องชุดตัวอย่าง ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ประตูที่ 1 ได้ตามปกติ ที่แต่จะไม่มีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาและแนะนำระหว่างการชมโครงการตัวอย่าง

    ผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจาก ช่องทางเพจเฟซบุ๊ก บ้านเพื่อคนไทย พบว่า การเข้าชมบ้านเพื่อคนไทยผ่านช่องทางออนไลน์ของบ้านเพื่อคนไทย เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา เวลา 12.00 น. มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ยอดรวมทะลุ 72.2 ล้านครั้ง มีผู้ลงทะเบียนแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการบ้านเพื่อคนไทย จำนวน 251,991 คน และมีผู้ลงทะเบียนที่ผ่านขั้นตอนการยื่นขอพิจารณาให้ธนาคารตรวจสอบว่าจะสามารถกู้สินเชื่อผ่านหรือไม่ (pre-approve) โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จำนวน 131,464 คน โดยทั้ง 4 พื้นที่ 4,000 ยูนิต มีผู้ประสงค์เข้าร่วมโครงการ แยกตามพื้นที่ ดังนี้ อันดับ 1 ยังคงเป็นของพื้นที่ กม.11 วิภาวดี กรุงเทพมหานคร รวม 169,554 คน อันดับ 2 พื้นที่เชียงราก จังหวัดปทุมธานี 36,310 คน อันดับ 3 พื้นที่ธนบุรี กรุงเทพมหานคร 34,023 และอันดับ 4 พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 12,104 คน รวมทั้งหมด 251,991 คน

   ขยายบ้านเพื่อคนไทยกาญจนบุรี

   นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการนี้กระทรวงคมนาคมเอาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยมีบริษัทลูกของ รฟท.คือ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จะไปบริหารสินทรัพย์ของ รฟท. ซึ่งหน่วยงานนี้เป็นผู้ทำ มั่นใจว่าฝ่ายกฎหมายดูด้วยความรอบคอบแล้วว่าสามารถดำเนินโครงการนี้ได้ และก่อนหน้านี้ก็มีการปรึกษาหารือกันอยู่แล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร ยืนยันว่าโครงการบ้านเพื่อคนไทยไม่ซ้ำรอยโครงการบ้านเอื้ออาทรที่มีการทุจริตแน่นอน

   นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ได้รายงานว่าจะมีแผนพัฒนาพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ไม่ได้ใช้เพื่อการเดินรถ (Non Core Business) ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อดำเนินโครงการบ้านเพื่อคนไทย ระยะที่ 2 จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริเวณสถานีรถไฟกาญจนบุรี และป้ายหยุดรถสะพานแควใหญ่ โดยมีแนวทางการพัฒนาในรูปแบบคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และอาคารพาณิชย์ รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,000 ยูนิต ซึ่งคาดว่าการดำเนินการ เบื้องต้นในประมาณกลางปี 2569

   โฮมโปรเผยอีซี่อี-รีซีทคึก

   นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือโฮมโปร เปิดเผยว่า โฮมโปรได้ขานรับมาตรการอีซี่ อี-รีซีท ช้อปลดหย่อนภาษีของภาครัฐตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี และในปี 2568 นี้ ได้เดินหน้าสานต่อความสำเร็จด้วยการเปิดตัวแคมเปญ HomePro Easy E-Receipt เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเช่นเคย ส่งผลให้ยอดขายสินค้าและบริการเกี่ยวกับบ้านเติบโตต่อเนื่องตลอด 45 วันนี้ โดยมาตรการนี้มีส่วนสำคัญในการกระตุ้น กำลังซื้อของผู้บริโภค และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2568 ทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับประเทศ อีกทั้งช่วยส่งเสริม การใช้จ่าย เพิ่มโอกาสเติบโตทางธุรกิจให้กับร้านค้าและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

    "มาตรการอีซี่ อี-รีซีท ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายของผู้บริโภคมีความคึกคักมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันภาพรวมเศรษฐกิจยังทรงตัวหากเทียบกับครึ่งปีหลังปี 2567 แต่อาจมีการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการของอีซี่ อี-รีซีทภาครัฐ" นายวีรพันธ์กล่าว

    เครื่องใช้ไฟฟ้า-ซ่อมบ้านขายดี

    นายวีรพันธ์กล่าวว่า โดยกลุ่มเครื่องใช้ ไฟฟ้าภายในบ้าน และสินค้าสำหรับการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน เป็นหมวดหมู่ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากที่สุด โดยเฉพาะสินค้าเครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ ตู้เย็น สุขภัณฑ์ ปัมน้ำ รวมถึงสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงบ้าน จะมียอดขายที่เติบโตโดดเด่นสะท้อนถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัย และการปรับปรุงบ้านให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น

    "โฮมโปรเข้าใจถึงความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจ และมุ่งมั่นปรับกลยุทธ์เพื่อช่วย แบ่งเบาภาระค่าครองชีพของลูกค้า ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่น พิเศษ, ส่วนลด, สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกโฮมการ์ด และการแบ่งจ่ายร่วมกับพันธมิตรการเงินชั้นนำ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบาย ช้อปได้อย่างมั่นใจและลงตัว" นายวีรพันธ์กล่าว

    ทรัมป์เดินหน้าลุยขึ้นภาษี

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวว่า เขาจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% และเพิ่มอีก 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน โดยไม่มีอะไรที่ทั้งสามประเทศนี้จะทำได้สามารถทำได้เพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีดังกล่าวที่จะมีผลในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ แม้เขาจะเข้าใจดีว่าภาษีเหล่านี้อาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและอาจทำให้เกิดการหยุดชะงักในระยะสั้น แต่ก็ยืนยันว่าไม่มีอะไรที่ประเทศเหล่านี้จะทำให้การขึ้นภาษีถูกเลื่อนออกไปได้ และอ้างว่ามันจะนำมาซึ่งเงินจำนวนมากที่จะหลั่งไหลเข้ามายังสหรัฐ โดยทรัมป์บอกด้วยว่า เขากำลังพิจารณาภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจากยุโรป รวมทั้งเหล็ก อะลูมิเนียม และทองแดง รวมถึงยาและ เซมิคอนดักเตอร์อีกด้วย

   คาโรลีน เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า ประธานาธิบดีจะจัดเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก 25% แคนาดา 25% และจีน 10% สำหรับเฟนทานิลผิดกฎหมายที่พวกเขาจัดหาและอนุญาตให้จำหน่ายในประเทศของเรา ซึ่งได้คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปหลายสิบล้านคน โดยจะ มีการเปิดเผยรายละเอียดของภาษีในวันเสาร์นี้ตามเวลาในสหรัฐ ขณะที่ในช่วงดึกของวันที่ 31 มกราคม ทรัมป์เดินทางไปที่คฤหาสน์ของเขาในมาร์อาลาโก รัฐฟลอริดา ที่เขาจะทำงานที่นั่นตลอดช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยมีรายงานว่า นายโฮเวิร์ด ลุตนิก ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์ ที่ทรัมป์แต่งตั้งให้เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายนโยบายการค้าร่วมเดินทางไปด้วย

    ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าการเก็บภาษีในวงกว้างดังกล่าว และมาตรการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้นตามมาจะทำให้เกิดการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่ตลาดการเงินก็พลิกผันอย่างรวดเร็วจากความคืบหน้าของแผนภาษีของทรัมป์ที่ยังไม่ชัดเจน การซื้อขายเงินสกุลต่างๆ มีความผันผวนเป็นพิเศษ ดอลลาร์แคนาดาและเปโซเม็กซิโก อ่อนค่าลง ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังเพิ่มขึ้น และหุ้นปิดตลาดลดลง แต่ทรัมป์บอกว่าเขาไม่กังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาของตลาดการเงินต่อแผนการเก็บภาษีของเขา การขึ้นภาษีตอบโต้กลับซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างสหรัฐกับคู่ค้าทั้งสามรายซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี

    แคนาดา-เม็กซิโกตอบโต้

    นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวว่า แคนาดาจะดำเนินมาตรการตอบโต้ที่แข็งกร้าวทันที และรับว่าชาวแคนาดาอาจเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในอีกไม่กี่วัน หรือสัปดาห์ข้างหน้า แหล่งข่าวระบุว่า แคนาดามีเป้าหมายโดยละเอียดสำหรับการตอบโต้ภาษีศุลกากรในทันที และมีรายการ เป้าหมายสินค้าที่ครอบคลุมซึ่งอาจสูงถึง 150,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือกว่า 3.54 ล้านล้านบาท สำหรับการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ แต่จะมีการเปิดรับฟังความเห็นสาธารณชนก่อนที่จะดำเนินการ

    ด้านคลอเดีย เชนบอม ประธานาธิบดีเม็กซิโก กล่าวว่า เธอจะรอพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะสำหรับการตัดสินใจเรื่องภาษีศุลกากรของทรัมป์ และพร้อมที่จะดำเนินการในการเจรจาเรื่องชายแดนต่อไป ขณะที่จีนมีท่าทีระมัดระวังมากกว่าเกี่ยวกับแผนการตอบโต้ แต่ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้เช่นกัน โดยโฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า จีนคัดค้านอย่างหนักต่อภาษีใหม่ของทรัมป์ และย้ำว่าไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้าหรือสงครามภาษี ซึ่งไม่เป็นผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายหรือต่อโลก


 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาครัฐ อื่นๆ