55 โรงแรมใหม่จ่อเปิด สวนทางทัวริสต์หด

          ท่องเที่ยวภูเก็ตวิกฤติสุดในรอบ 15 ปี ธุรกิจโรงแรมบักโกรก เจอปัจจัยเสี่ยงจากห้องพักที่เพิ่มขึ้น สวนทางนักท่องเที่ยวลด เผยมีโรงแรมใหม่ 55 แห่ง อยู่ระหว่างก่อสร้างพร้อมทยอยเปิดช่วง 5 ปีนี้ ชี้กว่า 50% เป็นบ้านพักหรือคอนโดฯ ปล่อยเช่าในลักษณะโฮเต็ลเรสิเดนซ์

          ภาพรวมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตในปีนี้ จัดว่าวิกฤติสุดในรอบ 15 ปี นับจากเกิดเหตุ สึนามิ เมื่อปี 2547 เพราะสึนามิ กระทบแค่ช่วงสั้นๆ แต่ครั้งนี้มีหลายปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบอย่างยาวนาน นับจากเกิดเหตุเรือล่มที่จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ตามมาด้วยเศรษฐกิจโลกชะลอตัว บาทแข็งค่า สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ทำให้การท่องเที่ยวในภูเก็ตถดถอยลง ประมาณการเบื้องต้น 6 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตอยู่ที่ 5.2 ล้านคน ลดลง 2.08% ส่วนคนไทยอยู่ที่ 8.71 แสนคน เพิ่มขึ้น 1.95% สร้างรายได้ราว 2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.08%

          ทั้งอีกปัจจัยสำคัญคือจำนวนโรงแรมใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้ในขณะนี้ธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตกำลังเผชิญกับมรสุมลูกใหญ่ จากการเพิ่มขึ้นของซัพพลาย กับดีมานด์ของนักท่องเที่ยวที่ไม่สมดุลกัน เฉพาะโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว 9.39 หมื่นห้อง เพิ่มขึ้น 1.95% ปัจจุบันมีอัตราเข้าเฉลี่ยอยู่ที่  76.50% ลดลง 3.25% ยังไม่นับโรงแรมใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกกว่า 55 แห่งที่กำลังจะทยอยเปิดตามมาในช่วง 5 ปีนี้

          นายบิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คฯ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภูเก็ต หนึ่งในจุดหมายปลายทางการพักผ่อนตากอากาศชั้นแนวหน้าของเอเชีย มีแนวโน้มกำลังเผชิญกับปัญหาหนักหน่วงจากจำนวนโรงแรมที่พักที่เพิ่มขึ้นสูงมาก สวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวลดลง ซึ่งจากงานวิจัยชิ้นใหม่ในหัวข้อ แนวโน้มตลาดโรงแรมในภูเก็ต ฉบับปรับ ปรุงข้อมูลใหม่ล่าสุดกลางปีนี้ ซึ่งบริษัทที่ปรึกษา ซีไนน์ โฮเทลเวิร์ค (C9 Hotelworks) ได้จัดทำขึ้น พบว่าจำนวนห้องพักใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดในปี 2562-2566 ในภูเก็ตจะมีสูงถึง 15,348 ห้อง เพิ่มขึ้น 18%

          ไฮไลต์ธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างมากในภูเก็ต คือบ้านพักหรือคอนโดฯ เพื่อการพักอาศัย ที่มีแบรนด์โรงแรมเข้ามาเป็นผู้บริหารจัดการ ในลักษณะโฮเต็ลเรสิเดนซ์ แบบโปรแกรมบังคับเช่า หรือแบบเลือกการปล่อยเช่าเป็นโรงแรม แลกกับผลตอบแทนในการลงทุนมีการเติบโตมาก ทั้งนี้กว่า 50% ของจำนวนห้องพักที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดนั้น มีจำนวน 8,337 ห้องกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียมที่บริหารจัดการโดยเครือโรงแรมจากต่างประเทศ แม้ว่านักท่องเที่ยวจีนจะลดลง แต่บริษัทจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ก็เข้ามามีบทบาทในภูเก็ตมากขึ้น

          ผลประกอบการของโรงแรมในขณะนี้ จะเห็นว่าโรงแรมมีรายได้จากการขายห้องพัก RevPAR ลดลง 12% ค่าที่พักมีการปรับลดลงมาก มีผลให้ราคาห้องเฉลี่ยตลอดทั้งปีไม่ค่อยได้ปรับขึ้นมากนัก อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวของภูเก็ต และการพัฒนาสนามบินภูเก็ตแห่งใหม่ของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.ที่พังงา จะทำให้แนวโน้มการท่องเที่ยวของภูเก็ตในระยะยาวจะยังคงเป็นบวก แต่ในระยะสั้นต้องยอมรับว่าจำนวนห้องพักที่เพิ่มขึ้นในสถานการณ์ที่นักท่องเที่ยวที่ลดลง เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่สุดที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ประ กอบการโรงแรม และในระยะกลางเป็นไปได้ว่าธุรกิจการโรงแรมของภูเก็ต กำลังเข้าสู่ช่วงวัฏจักรเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นในบาหลีปี 2557-2561 ที่มีจำนวนห้องพักใหม่ๆ มาแข่งขันในตลาดมากขึ้น

          นายภูมิภัทร นาวานุเคราะห์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ กล่าวว่า ไม่เพียงการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวที่กระทบยาวนานกว่าช่วงที่เกิดสึนามิเท่านั้น อีกปัจจัยสำคัญ คือจำนวนโรงแรมในภูเก็ตที่เพิ่ม 10-15% ทั้งของคนไทยและต่างชาติ

          เมื่อตลาดเปลี่ยน กรุ๊ปทัวร์เติบโตต่ำ ดังนั้นเมื่อเรามีเค้กก้อนเดิม แต่ตัวแชร์เพิ่มขึ้น ตอนนี้ทุกคนกระทบหมด เพราะมีการหั่นราคาขาย 5 ดาวก็ขาย 4 ดาว เพื่อต้องการตลาด ภาพรวมก็กระทบมาก สิ่งที่ทุกคนกลัว คือ วิตกว่าไฮซีซันนี้จะกลับมาไหม เพราะสมัยก่อนไฮซีซันของภูเก็ตจะเริ่มตั้งแต่ก่อนพฤศจิกายน แต่ตอนนี้แนวโน้มอยู่แค่ 2 สัปดาห์ช่วงเดือนธันวาคม ทำให้อัตราการเข้าพักในภาพรวมของประเทศจะน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา รัฐบาลมองว่าเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ เร่งแก้ปัญหา เพราะท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักและเกี่ยวข้องกับธุรกิจเกี่ยวเนื่องมากมาย