ตลาดวัสดุก่อสร้างแข่งเดือด
CCP มั่นใจอุตสาหกรรมคอนกรีตปี 60 ฟ้นตัวดีเดินหน้าชิงเค้กงานภาครัฐตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 2,550 ล้านบาท ด้าน SMART ระบุ ตลาดวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาสดใสได้แรงหนุนจากเมกะโปรเจกต์รัฐรุกขยายตลาดในประเทศ-กลุ่ม CLMV ขณะที่ "DRT" ปลื้มออเดอร์สินค้าเพิ่มพร้อมลุยเจาะกลุ่มลูกค้าซ่อมแซมบ้านเก่า
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) (CCP) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างปีนี้มีทิศทางดีขึ้นจากการที่ภาครัฐมีแผนกระตุ้นเศรษฐ กิจและขับเคลื่อนโครงการเมกะโปรเจกต์ตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้หากการก่อสร้างเป็นไปตามแผนจะทำให้ภาคเอกชนมีการลงทุนตามซึ่งจะส่งผลทางบวกต่อทุกอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องโดยคาดว่าจะเห็นการลงทุนของภาคเอกชนทยอยมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้นั้นทางบริษัทจะมุ่งเน้นการเปิดตลาดใหม่จาก B to B เป็น B to C มากขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้าและกระจายความเสี่ยง รวมทั้งขยายช่องทาง การจำหน่าย พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆรองรับความต้องการกลุ่มลูกค้า ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ประ มาณ 2,550 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากงานภาครัฐ 80% และภาคเอกชน 20% อย่างไรก็ดีปัจจุบันบริษัทมี Backlog ประมาณ 2,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน โดยในปีนี้รับรู้รายได้ 60-65% โดยบริษัทจะทยอยหางานเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรักษา Backlog ไว้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
ด้านนายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (SMART)เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2560 ว่า บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประ เทศโดยในช่วงครึ่งปีแรกจะเร่งบุกตลาดโครงการภาครัฐที่มีการลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้สัด ส่วนรายได้งานภาครัฐอยู่ที่ 20% ภาคเอกชนอยู่ที่ 80% อีกทั้งจะมีการทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ "อิฐมวลเบาประเภทตกแต่ง" มากขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า สำหรับการขยายตลาดกลุ่มประเทศ CLMV นั้นบริษัทยังคงเดินหน้าเจรจาหาพันธมิตรเป็นตัวแทนจำหน่ายต่อเนื่องเช่น ประเทศพม่า โดยอยู่ระ หว่างการเจรจาคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้
"แนวโน้มภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาในประเทศปีนี้มองว่า จะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไปโดยเป็นผลจากการลงทุนภาคอสังหาฯโครงการใหม่รูปแบบต่างๆซึ่งปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมที่ 330 ล้านบาท คาดว่าจะเติบโตประมาณ 5% จากปีที่ผ่านมา และตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากยอดขายต่างประเทศในปีนี้อยู่ที่ 3-4%" นายรังสี กล่าว
นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า จากการเครือข่ายร้านตัวแทนจำ หน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างแบบดั้ง เดิมของตราเพชรที่กระจายตัวอยู่ในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศได้เริ่มทยอยสั่งสต๊อกสินค้าวัสดุก่อสร้างเข้าร้านเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาเป็นการสะท้อนการฟ้นตัวที่ชัดเจนซึ่งจะส่งผลดีต่อความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังประเมินว่าตลาดซ่อมแซมบ้านเก่าจะเติบโตได้ดีในปีนี้โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด
"บริษัทมั่นใจว่า ปีนี้จะมีความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ต่างเร่งโหมทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งช่วยกระตุ้นตลาดได้อีกทางหนึ่ง และบริษัทฯ ยังเตรียมความพร้อมทั้งสินค้าและบริการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้ให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5%" นายสาธิต กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้