ธุรกิจรับสร้างบ้าน 2 แสนล้านเดือด
วันที่ : 6 มีนาคม 2568
กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ เปิดเผยว่า ตลาดรับสร้างบ้านในปี 2568 ยังชะลอตัวตามเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว สถานการณ์ทางการเมือง การปรับขึ้นราคาวัสดุก่อสร้าง และกำลังซื้อลดลงจากรีเจ็กต์เรตสูง 30-50% ในกลุ่มระดับล่าง
รับเหมาจัดสรร-ผู้ผลิตวัสดุแห่ชิงเค้ก 'อีสาน' ทำเลเรดโซน-เขาใหญ่-อีอีซีบูม
พิษเศรษฐกิจ รีเจ็กต์เรตพุ่ง ชิงตลาดรับสร้างบ้าน 2 แสนล้าน อีสานแข่งเดือด เขาใหญ่ อีอีซี ดีมานด์พุ่ง เจ้าของสวน เถ้าแก่ทุ่มสร้าง 'บิวท์ ทู บิวด์' เฟ้นคุณภาพปรับเป้าเหลือ 1 พันล้าน เผยเอฟเฟ็กต์อสังหาฯซึม ผู้รับเหมาย่อย ซัพพลายเออร์วัสดุแห่ของานคึก
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ตลาดรับสร้างบ้านในปี 2568 ยังชะลอตัวตามเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว สถานการณ์ทางการเมือง การปรับขึ้นราคาวัสดุก่อสร้าง และกำลังซื้อลดลงจากรีเจ็กต์เรตสูง 30-50% ในกลุ่มระดับล่าง สำหรับบริษัทปีนี้ตั้งเป้าจำนวน 180-200 หลัง รายได้ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 มีจำนวน180 หลัง และรายได้ 900 ล้านบาท ซึ่งต่ำจากเป้า 25% โดยปีนี้จะเน้นบ้านราคา 5-10 ล้านบาท และ 10 ล้านบาทขึ้นไป เพราะตลาดยังขยายตัว รวมถึงออกแบบบ้านใหม่ 120 แบบ เช่น สไตล์กรีน ตลอดจนทำกิจกรรมการตลาด ออกบูธงานรับสร้างบ้าน Focus 2025 วันที่ 12-16 มีนาคม 2568 นี้
"ปีนี้ตั้งเป้าไม่กระโดดเพราะได้บทเรียนปี 2566 มีลูกค้า 250 หลัง รายได้ 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้ามาก ทำให้ส่งมอบงานลูกล่าช้าถึง 40% จึงลดเป้าให้เรารับได้ คือ 180-200 หลัง เพื่อรักษาคุณภาพ เพราะตลาดรับสร้างทั่วประเทศมูลค่า 2 แสนล้านบาทต่อปี กว่า 90% อยู่ในมือรายย่อย เพราะเปิดง่าย ล่าสุดมีผู้รับเหมาบ้านจัดสรรมารับงานสร้างบ้านจากเราร่วม 10 ทีม หลังตลาดอสังหาฯชะลอตัว อย่างไรก็ดีปีนี้หวังว่าตลาดจะไม่แย่กว่าปีที่แล้ว ดูจากไตรมาสแรกมีเซ็นสัญญาแล้ว 100 ล้านบาท" นายสุธีกล่าว
นายวรวุฒิ กาญจนกูล ประธานบริหารบริษัท ดับบลิวเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า เริ่มมีผู้รับเหมารายย่อยบ้านจัดสรรและซัพพลายเออร์วัสดุก่อสร้าง เข้ามาขอรับงานจากบริษัทสร้างบ้านมากขึ้น หลังตลาดอสังหาฯชะลอตัว ทำให้บริษัทรายกลาง และรายเล็ก ไม่ลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ ขณะที่ปัจจุบันตลาดรับสร้างบ้านเองก็แย่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯที่ชะลอตัวต้องขยายตลาดสู่ต่างจังหวัดกันมาก ตอนนี้ที่เป็นเรดโซน การแข่งขันสูง คือ ภาคอีสาน เพราะเป็นตลาดใหญ่ มีบริษัทท้องถิ่นอยู่มาก ส่วนตลาด บลูโอเชี่ยน คือ ภาคตะวันออกและอีอีซี ยังมีดีมานด์จากลูกค้าที่เป็นเจ้าของสวนผลไม้หรือ นักธุรกิจท้องถิ่นนิยมสร้างบ้านราคา 5-10 ล้านบาทขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีเขาใหญ่ที่นิยมสร้างบ้านหลังที่ 2 ราคา 70-80 ล้านบาท ทั้งนี้ปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ 300 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2567 เน้นสร้างบ้านขนาดใหญ่ขึ้นราคา 40-50 ล้านบาท
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พฤกษาจะดันบริษัทลูกทำธุรกิจรับสร้างจากเดิมรับงานก่อสร้างของพฤกษาเป็นหลักโดยจะเข้าไปรับงานลูกค้ารายย่อยระดับราคา 10-30 ล้านบาท ทั้งใช้แบบจากที่อื่นและแบบบ้านพฤกษา ชูจุดแข็งสร้างเสร็จ 3 เดือน
พิษเศรษฐกิจ รีเจ็กต์เรตพุ่ง ชิงตลาดรับสร้างบ้าน 2 แสนล้าน อีสานแข่งเดือด เขาใหญ่ อีอีซี ดีมานด์พุ่ง เจ้าของสวน เถ้าแก่ทุ่มสร้าง 'บิวท์ ทู บิวด์' เฟ้นคุณภาพปรับเป้าเหลือ 1 พันล้าน เผยเอฟเฟ็กต์อสังหาฯซึม ผู้รับเหมาย่อย ซัพพลายเออร์วัสดุแห่ของานคึก
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ตลาดรับสร้างบ้านในปี 2568 ยังชะลอตัวตามเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว สถานการณ์ทางการเมือง การปรับขึ้นราคาวัสดุก่อสร้าง และกำลังซื้อลดลงจากรีเจ็กต์เรตสูง 30-50% ในกลุ่มระดับล่าง สำหรับบริษัทปีนี้ตั้งเป้าจำนวน 180-200 หลัง รายได้ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 มีจำนวน180 หลัง และรายได้ 900 ล้านบาท ซึ่งต่ำจากเป้า 25% โดยปีนี้จะเน้นบ้านราคา 5-10 ล้านบาท และ 10 ล้านบาทขึ้นไป เพราะตลาดยังขยายตัว รวมถึงออกแบบบ้านใหม่ 120 แบบ เช่น สไตล์กรีน ตลอดจนทำกิจกรรมการตลาด ออกบูธงานรับสร้างบ้าน Focus 2025 วันที่ 12-16 มีนาคม 2568 นี้
"ปีนี้ตั้งเป้าไม่กระโดดเพราะได้บทเรียนปี 2566 มีลูกค้า 250 หลัง รายได้ 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้ามาก ทำให้ส่งมอบงานลูกล่าช้าถึง 40% จึงลดเป้าให้เรารับได้ คือ 180-200 หลัง เพื่อรักษาคุณภาพ เพราะตลาดรับสร้างทั่วประเทศมูลค่า 2 แสนล้านบาทต่อปี กว่า 90% อยู่ในมือรายย่อย เพราะเปิดง่าย ล่าสุดมีผู้รับเหมาบ้านจัดสรรมารับงานสร้างบ้านจากเราร่วม 10 ทีม หลังตลาดอสังหาฯชะลอตัว อย่างไรก็ดีปีนี้หวังว่าตลาดจะไม่แย่กว่าปีที่แล้ว ดูจากไตรมาสแรกมีเซ็นสัญญาแล้ว 100 ล้านบาท" นายสุธีกล่าว
นายวรวุฒิ กาญจนกูล ประธานบริหารบริษัท ดับบลิวเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า เริ่มมีผู้รับเหมารายย่อยบ้านจัดสรรและซัพพลายเออร์วัสดุก่อสร้าง เข้ามาขอรับงานจากบริษัทสร้างบ้านมากขึ้น หลังตลาดอสังหาฯชะลอตัว ทำให้บริษัทรายกลาง และรายเล็ก ไม่ลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ ขณะที่ปัจจุบันตลาดรับสร้างบ้านเองก็แย่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯที่ชะลอตัวต้องขยายตลาดสู่ต่างจังหวัดกันมาก ตอนนี้ที่เป็นเรดโซน การแข่งขันสูง คือ ภาคอีสาน เพราะเป็นตลาดใหญ่ มีบริษัทท้องถิ่นอยู่มาก ส่วนตลาด บลูโอเชี่ยน คือ ภาคตะวันออกและอีอีซี ยังมีดีมานด์จากลูกค้าที่เป็นเจ้าของสวนผลไม้หรือ นักธุรกิจท้องถิ่นนิยมสร้างบ้านราคา 5-10 ล้านบาทขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีเขาใหญ่ที่นิยมสร้างบ้านหลังที่ 2 ราคา 70-80 ล้านบาท ทั้งนี้ปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ 300 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2567 เน้นสร้างบ้านขนาดใหญ่ขึ้นราคา 40-50 ล้านบาท
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พฤกษาจะดันบริษัทลูกทำธุรกิจรับสร้างจากเดิมรับงานก่อสร้างของพฤกษาเป็นหลักโดยจะเข้าไปรับงานลูกค้ารายย่อยระดับราคา 10-30 ล้านบาท ทั้งใช้แบบจากที่อื่นและแบบบ้านพฤกษา ชูจุดแข็งสร้างเสร็จ 3 เดือน
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ