เนาวรัตน์ฯรุกอสังหาฯ เตรียมลุยครบวงจรหวังกินรวบยาว ทั้งโครงการเพื่อขาย-ให้เช่า
เนาวรัตน์ฯ ขยายแนวรบ ส่ง "มานะพัฒนาการ" ลุยอสังหาฯ ครบวงจรทั้งเพื่อขาย อาคารสำนักงานให้เช่า ยันคอมมูนิตี้มอลล์
นายปสันน์ สวัสดิ์บุรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มานะพัฒนาการ บริษัทในเครือบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่อยู่อาศัย อสังหาฯ ให้เช่าและเชิงพาณิชย์ โดยแผนลงทุนช่วง 3 ปีนับจากนี้ ตั้งเป้าลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยประมาณ 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,600 ล้านบาท หรือลงทุนปีละ 2 โครงการ ส่วนจะเป็นสินค้าประเภทใดนั้นขึ้นอยู่กับศักยภาพของที่ดิน ซึ่งปีนี้ตั้งงบซื้อที่ดินไว้ 500-600 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะร่วมกับพันธมิตรเจ้าของที่ดินพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยบริษัทจะ เป็นผู้ลงทุนพัฒนาทั้งหมด เจ้าของ ที่ดินเพียงนำที่ดินมาร่วมลงทุนเท่านั้น ล่าสุดอยู่ระหว่างพิจารณาการลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมย่านกรุงเทพฯ โซนเหนือ
ขณะเดียวกันยังมีแผนพัฒนาอาคารสำนักงานย่านถนนบางนา-ตราด กม.4 โดยจะนำที่ดินสะสมขนาด 20 ไร่ มาแบ่งพัฒนา ในเบื้องต้นจะแบ่งที่ดินขนาด 2 ไร่ พัฒนาเป็นอาคารสูง 8-12 ชั้น จำนวน 2 อาคาร โดยจะใช้เป็นสำนักงานของบริษัทเนาวรัตน์ฯ และบริษัทในเครือ รวมถึงการปล่อยเช่าบางส่วน ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูล คาดว่าจะสามารถลงทุนได้ภายใน 2 ปีข้างหน้า ส่วนโครงการเพื่อการพาณิชย์บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็กรองรับลูกค้าภายโครงการที่อยู่อาศัย โดยเน้นทำเป็นโครงการขนาดเล็ก ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องแปลงที่ดิน
ทั้งนี้ ในส่วนของแผนพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้ จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,600 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ เอสเพน คอนโด เฟสบี สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 398 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ มูลค่า 750 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท และโครงการ บารานี เรสซิเดนซ์ รังสิต-คลอง 3 เป็นบ้านเดี่ยว มูลค่า 850 ล้านบาท บนพื้นที่ดินรวม 34 ไร่ จำนวน 140 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 220-240 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.7 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายที่ประมาณ 800 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ 75% และตั้งเป้าหมายรายรับจากยอดโอนกรรมสิทธิ์เติบโตเพิ่มขึ้น 6 เท่า หรือประมาณ 600 ล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวม 455 ล้านบาท และมีรายรับจากยอดโอนกรรมสิทธิ์กว่า 100 ล้านบาท และมีผลการดำเนินงานขาดทุน 40 ล้านบาท คาดว่าจะล้างขาดทุนหมดภายในปีนี้
ทางด้านภาพรวมธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ในปี 2560 เชื่อว่า จะมีอัตราการฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น โดยมีปัจจัยจากการลงทุนของภาครัฐ รวมถึงแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ผู้ประกอบการแต่ละรายต้องเร่งสร้างจุดขาย เพื่อสู้กับการแข่งขันที่จะสูงขึ้น โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยระดับบน เนื่องจากปีนี้ผู้ประกอบการหันมาเปิดตัวโครงการใหม่ระดับบนทำตลาดมากขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์