กลุ่มสยามมั่นคง ทุนท้องถิ่นเมืองปทุมธานี โหมบุกหนักธุรกิจอสังหาฯยึดทำเลทองคลอง 4 เปิดโครงการสยามไฮวิลล์วงแหวนธัญบุรี มูลค่า 750 ล้านบาท เจาะตลาดกลาง กลุ่มวัยทำงาน พร้อมทุ่มอีก 250 ล้านบาท ข้ามห้วยลงทุนโรงแรมนครพนม จับตลาดนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ รับเมืองชายแดนโต คาดเปิดปี 2561

นายวีระศักดิ์ จงประวัติสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามมั่นคง จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทคือผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลุ่มทุน ท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานีรายใหม่ที่เข้าชิง ตลาดโซนรังสิต-ปทุมธานี จากเดิมที่ทำธุรกิจจำหน่ายคอนกรีต และแผ่นพื้นคอนกรีต ปัจจุบันได้แตกไลน์ธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยเมื่อปี 2559 ได้ประเดิมพัฒนาโครงการ สยามไฮวิลล์ บนเนื้อที่ 29 ไร่ บ้านเดี่ยว 124 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 530 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 3.85 ล้านบาท ตลาดเป้าหมายคือ พ่อค้าแม่ค้าตลาดไท

ทั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นแบรนด์น้องใหม่ แต่ลูกค้ายอมรับในคุณภาพบ้าน เพราะบริษัทจะเน้นการใช้วัสดุก่อสร้างคุณภาพดี การออกแบบดีไซน์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงมีพื้นที่ประโยชน์ใช้สอยในบ้าน จุดขายที่สำคัญคือ บ้านประหยัดพลังงาน เพราะติดตั้งระบบ Breezway นวัตกรรมจากประเทศออสเตรเลีย ช่วยให้อากาศภายในบ้าน ถ่ายเทได้มากขึ้น และติดตั้งกระเบื้องหลังคาผลิตด้วยสีสะท้อนความร้อน

นอกจากนั้นยังมีระบบสาธารณูปโภคต้องครบครัน เช่น สระน้ำระบบเกลือ ฟิตเนส สนามเด็กเล่น พื้นที่ส่วนกลาง 1 ไร่ ระบบความปลอดภัยที่หนาแน่น และยังถมที่ดินให้สูงกว่าระดับน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ขึ้นมาอีก 1 เมตร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า จากผลตอบรับที่ดี ทำให้ ปี 2560 บริษัทลงทุนพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวเพิ่ม คือ โครงการสยามไฮวิลล์ วงแหวนธัญบุรี จำนวน 182 ยูนิต มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท บริเวณคลอง 4 บนเนื้อที่ 46 ไร่ ราคา 3-4 ล้านบาท เจาะตลาดระดับกลาง กลุ่มคนวัยทำงาน โดยมีบ้านตั้งแต่ขนาด 55-100 ตารางวา

สำหรับจุดแข็งของโครงการคือทำเล ที่ดี ใกล้กับถนนวงแหวนธัญบุรี สามารถเชื่อมโยงไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้สะดวก รวดเร็ว ไม่แออัด เพราะเป็นพื้นที่ที่เปิดหน้าดินใหม่ ทำให้การแข่งขันในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีไม่ค่อยสูง ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของกลุ่มทุนท้องถิ่นเพียง 2-3 ราย ขณะที่จุดแข็งด้านคุณภาพบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะมัดใจลูกค้า เพราะจะเลือกใช้วัสดุที่ดี การตกแต่ง ที่ทันสมัยสไตล์โมเดิร์นผสมผสานกับธรรมชาติ

"บริษัทจะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาโครงการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยจะยึดทำเลโซนรังสิต-ธัญบุรี เพราะเป็นทำเลที่ยังไปได้ แนวโน้มการขยายตัวของที่อยู่อาศัยจะขยายตัวมาทางคลอง 4 ขึ้นไป ที่สำคัญบริษัทมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ รู้จักตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคอย่างดี จึงทำให้ได้เปรียบคู่แข่ง ในขณะเดียวกัน การแข่งขันในโซนนี้ก็ไม่สูงมากนัก ส่วนใหญ่ เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ยังไม่มีการเก็งกำไร แต่ในอนาคตจะมีการลงทุนและการแข่งขันสูงขึ้น เพราะจะมีการจุดพลุลงทุนเมการังสิต ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้อสังหาฯขยายตัว" นายวีระศักดิ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต บริษัทได้กว้านซื้อ ที่ดินรัศมีไม่ไกลจากโครงการที่กำลังพัฒนาอยู่ จำนวน 2 แปลง พื้นที่กว่า 90 ไร่ เตรียมรอพัฒนาต่อไป สำหรับสถานการณ์ราคาที่ดินบริเวณคลอง 4 เฉลี่ยอยู่ที่ 4 ล้านบาท/ไร่ ไม่สูงมากยังพอพัฒนาโครงการได้

นายวีระศักดิ์กล่าวว่า บริษัททุ่มงบประมาณ กว่า 250 ล้านบาท ลงทุนโรงแรมพนม ริเวอร์ไซด์โฮเท็ล ขนาด 3.5 ดาว จำนวน 120 ห้อง ในอำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ในเร็ว ๆ นี้ และจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการในปี 2561 ราคาห้องพัก 1,500 บาท/คืน เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ ที่เดินทางไปจังหวัด นครพนม เชื่อมไปยัง สปป.ลาว ที่มี แนวโน้มสูงขึ้น เพราะนครพนมเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการค้าชายแดน และ ในอนาคตจะถูกพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ