'ณุศาศิริ' มั่นใจปีนี้พลิกกลับมีกำไร หลังปรับแผนรุกอสังหาริมทรัพย์ ระดับบน พ่วงแพ็คเกจด้านสุขภาพ และรับบริหารโครงการการันตี ผลตอบแทน 5% ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 3 พันล้านบาท พร้อมสร้างยอดขายใหม่ 5.5 พันล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 12 แห่ง มูลค่ารวม 1.3 หมื่นล้านบาท

นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) NUSA เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้มั่นใจว่าจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ แม้ในปี 2559 บริษัทจะไม่ได้เปิดตัวโครงการใหม่ แต่โครงการที่เปิดขายก่อนหน้านี้ จะทยอยสร้างเสร็จทำให้บริษัทสามารถขายและโอนได้ทันที ทำให้รับรู้ยอดขายได้ทันที  โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะอยู่ที่  3,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ประมาณ 3,300 ล้านบาทจะรับรู้ปีนี้ 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 2,500 ล้านบาท จะเร่งขายและโอนในปีนี้ "ที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลงมากตามภาวะเศรษฐกิจ ในประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการประสบปัญหาขายได้ แต่โอนไม่ได้ จึงเร่งปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยหันมาเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน โดยเน้นผู้ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ควบกับแพคเกจดูแลสุขภาพ 3% ของยอดขาย พร้อมรับบริหารโครงการให้ โดยการันตีผลตอบแทน 5% ต่อปี" ส่วนภาพรวมผลประกอบการปี 2559 ที่มีผลขาดทุน 104 ล้านบาท ช่วง 9 เดือนแรกเป็นผลจากการปรับมาตรฐานบัญชีใหม่

ทั้งนี้ บริษัทจะกลับมาเปิดตัวโครงการใหม่ โดยปีนี้เปิด12 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างยอดขายได้ 5,500 ล้านบาท ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน พ่วงกับแพ็คเกจสุขภาพ และ การการันตีผลตอบแทนอย่างที่กล่าวมา โดยจะเปิดตัวใน 4 ทำเล ได้แก่ เขาใหญ่ ช่วงไตรมาส 1 พัทยาและภูเก็ต ไตรมาส 2 และเชียงใหม่ ช่วงไตรมาส 3

"การปรับกลยุทธ์ครั้งนี้ ทำให้บริษัทไม่ต้องอิงกับเศรษฐกิจ ในประเทศมากนัก ขณะเดียวกัน ยังได้ผลตอบแทนจากการรับบริหารโครงการทั้งหมดนี้ให้กับลูกค้าในช่วง 6 ปีแรกเป็นอย่างน้อย

ทั้งนี้ กำไรจากลงทุนขั้นต้น ก่อนหักค่าใช้จ่ายของโครงการใหม่นี้ จะค่อนข้างสูงมาก อาจจะถึงระดับ 40% เพราะต้นทุนที่ดินของบริษัทซื้อมาตั้งแต่ 3-4 ปีก่อน" ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น เชื่อว่าจะค่อยๆ กลับมาเติบโต จากการเปิดเสรีมากขึ้น และที่ผ่านมาราคาของอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง เพียงแต่ ต้องปรับกลยุทธ์และเจาะกลุ่มลูกค้าให้ถูกต้องยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทจะ พยายามลดการอิงกับเศรษฐกิจภายในจึงหันมาจับอสังหาริมทรัพย์ ที่อิงกับการท่องเที่ยวและด้าน สุขภาพ

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ