ชูดอกเบี้ย 3 ปีเฉลี่ย 3.33% - ชี้ตลาดบ้านมือสองมาแรงซีไอเอ็มบีรุกสินเชื่ออสังหา
ภาพรวมยอดปฏิเสธสินเชื่อบ้านราคาต่ำ 2 ล้านพุ่ง 50% เล็งคุมเอ็นพีแอลไม่เกิน 4.5%
ซีไอเอ็มบีไทยเปิดยุทธศาสตร์สินเชื่ออสังหาฯ รุกเจาะเซ็กเมนท์เน้นมนุษย์เงินเดือน รายได้ 3 หมื่นบาทขึ้นไป พร้อมเจาะตลาดบ้านมือสอง ชูโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านใหม่3 ปีแรกดอกเบี้ย 3.33% และ3.49%บ้านรีไฟแนนซ์ ตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อบ้านใหม่โต 10% แตะ15,000 ล้านบาท พร้อมคุมเอ็นพีแอลไม่เกิน 4.5% รับยอดปฏิเสธ สินเชื่อบ้านราคาต่ำ 2 ล้านพุ่งเกิน 50%
น.ส.อรอนงค์ อุดมก้านตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย สายธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กล่าวว่า ภาพรวมหนี้เสียของสินเชื่อบ้านทั้งระบบในปีนี้น่าจะยังเพิ่มขึ้นซึ่ง โดยในส่วนของ ธนาคารตั้งเป้าคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) สินเชื่อบ้านไว้ให้ไม่เกิน 4.5% จากปัจจุบัน ที่ 4% ภายใต้ยุทธศาสตร์เจาะกลุ่ม segmentation เพื่อคนกู้ได้ดอกเบี้ยที่เหมาะสม ไม่คิดดอกเบี้ยเหมาเข่ง และรุกตลาดบ้านมือสอง เนื่องจากมองว่ายังมีศักยภาพจากคนยุคใหม่หันมาซื้อบ้านทำเลตรงใจไม่ต้องเป็นบ้านใหม่ ทั้งนี้ธนาคารจะมุ่งปล่อยสินเชื่อบ้านโดยเจาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ระดับ 30,000บาทขึ้นไป ในราคาบ้านตั้งแต่ 3 ล้านบาท ที่มีวงเงินกู้บ้านระดับ 2 ล้านบาท พร้อมกับหาโอกาสขยายสัดส่วนในกลุ่มอาชีพอิสระและผู้ประกอบการราคาบ้านระดับกลาง ถึงสูง 5 ล้านบาทขึ้นไป โดยเสนอโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกที่ 3.33% สำหรับบ้านใหม่และมือสอง อีกทั้งดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกที่ 3.49% สำหรับบ้านรีไฟแนนซ์ ประหยัดดอกเบี้ยได้ปีละ10,000 บาทต่อเงินต้น 1 ล้านบาท เริ่มวันที่ 1 ก.พ. 2560
สำหรับในปีนี้ธนาคาร ตั้งเป้าปล่อย สินเชื่อใหม่ 1.5 หมื่นล้านบาทเติบโต 10% เป็นสินเชื่อรีไฟแนนซ์ 3,000ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 65,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้เติบโต 6-7% ซึ่งส่วนใหญ่เป็น กลุ่มมนุษย์เงินเดือน ราคาบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาท สัดส่วน95% และกลุ่มอาชีพอิสระและ ผู้ประกอบการมีสัดส่วนไม่ถึง5%
"ตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่อง ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง คาดว่า สินเชื่อบ้านทั้งระบบอยู่ที่ 560,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ในปีนี้เติบโตประมาณ 5%"
ส่วนแนวโน้มอัตราการผิดนัดชำระหนี้ ภาพรวมในปีนี้ น่าจะชะลอตัวลง หลังหมดภาระหนี้ผ่อนรถคันแรก และภาระภาษีปีนี้ ลดลงทำให้คนมีเงินในกระเป๋าและมีความสามารถในการผ่อนชำระมากขึ้น ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้ดีขึ้น ทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีปรับตัวดีขึ้นด้วย โดยปัจจุบันอัตราปฏิเสธสินเชื่อบ้านภาพรวมเฉลี่ยอยู่ที่ 50% ในกลุ่มราคาบ้านต่ำกว่า 2 ล้านบาท ยอดปฏิเสธสินเชื่อสูง 50-60% ขณะที่ราคาบ้าน 5 ล้านบาทขึ้นไป มียอดปฏิเสธสินเชื่อที่ 30% และราคาบ้าน 10 ล้านบาทขึ้นไป มียอดปฏิเสธสินเชื่อ ที่20% กลุ่มราคาบ้านต่ำกว่า2ล้านบาทยังมีสัดส่วนถึง70% สูงกว่ากลุ่มราคาบ้าน 5-10 ล้านบาท ขึ้นไป มีสัดส่วน 30% ยังทำให้อัตราปฏิเสธยังสูงและที่ระดับ รายได้เดียวกันในกลุ่มอาชีพอิสระ ยัง สูงกว่ากลุ่มผู้ประกอบการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ