แสนสิริ-ไทยพาณิชย์ กอดคอ ตั้งกองทุนพร็อพเทครายแรกในไทย
Loading

แสนสิริ-ไทยพาณิชย์ กอดคอ ตั้งกองทุนพร็อพเทครายแรกในไทย

วันที่ : 3 กุมภาพันธ์ 2560
แสนสิริ-ไทยพาณิชย์ กอดคอ ตั้งกองทุนพร็อพเทครายแรกในไทย

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ หรือเอสซีบี จัดตั้งกองทุนร่วมลงทุน (เวอเจอร์ แคปปิตอล) ภายใต้บริษัท สิริ เวนเจอร์ จำกัด สัดส่วนการลงทุน 90% และ 10% ตามลำดับ โดยมีทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 100 ล้านบาท และในอนาคตจะเพิ่มทุนเป็น 300-500 ล้านบาท โดยจะทำการวิจัยและลงทุนด้านนวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี) เพื่อบริการและรองรับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามการพัฒนาของเทคโนโลยี และเพื่อให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

นายชาคริต จันทร์รุ่งสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิริ เวนเจอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะร่วมลงทุนในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัย โดยจะมีการลงทุนทั้งบริษัทในไทยและต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และประเทศตะวันออกกลาง รวมทั้งจัดตั้งโครงการผลักดันสตาร์ตอัพด้านพร็อพเทค มาพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัย อาทิ เทคโนโลยีด้านสมาร์ทโฮม ทั้งด้านความปลอดภัย การสั่งงานด้วยเสียง เทคโนโลยีหุ่นยนต์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้พักอาศัย รวมทั้งชุดหุ่นยนต์ที่สวมใส่ได้เพื่อเป็นอุปกรณ์เพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์ ที่สามารถนำมาใช้กับงานก่อสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็ว และลดต้นทุนในการทำงาน รวมทั้งจะเชื่อมโยงกับภาคการเงินและฟินเทค เช่น การขอสินเชื่อบ้าน การรีไฟแนนซ์ การทำประกันที่อยู่อาศัย เป็นต้น

นายชาคริตกล่าวว่า ตั้งเป้าหมายในปี 2563 หรือ 3 ปีหลังจากนี้ จะมีพาร์ตเนอร์กว่า 70 ราย สร้างเครือข่ายกับผู้พัฒนานวัตกรรมอย่างน้อย 300 ราย และสร้างบริษัทด้านนวัตกรรมเกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 40 บริษัท ทั้งนี้ ล่าสุด บริษัทจะเข้าไปถือหุ้น 51% ในบริษัท โฮม เซอร์วิส เทคโนโลยี จำกัด ที่เป็นผู้พัฒนาแฟลตฟอร์มอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านและนิติบุคคลผู้บริหารโครงการ และจะมีการขายแฟลตฟอร์มให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ นำไปใช้ในการบริหารจัดการโครงการได้ทั้งคอนโดมิเนียม หรือโครงการแนวราบ ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการอยู่ 13,500 ยูนิต ช่วง 1-2 ปีนี้ คาดว่าจะขยายผู้ใช้บริการจากโครงการต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ยูนิต

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

 

 

 

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ