MK เร่งกระตุ้นยอดขาย ผุด 5 โครงการ 5.4 หมื่นล.
Loading

MK เร่งกระตุ้นยอดขาย ผุด 5 โครงการ 5.4 หมื่นล.

วันที่ : 8 กุมภาพันธ์ 2560
MK เร่งกระตุ้นยอดขาย ผุด 5 โครงการ 5.4 หมื่นล.

MK เล็งเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่า 5.4 พันล้านบาท ขณะที่วางงบลงทุน 4 พันล้านบาท พัฒนาโครงการซื้อที่ดินใหม่ ล่าสุด เปิดตัว "พาร์ค คอร์ท" ดันส่วนรายได้ค่าเช่าแตะ 50% พร้อมปรับกลยุทธ์สร้างก่อนขาย หวังลดยอดปฏิเสธสินเชื่อ กระตุ้นยอดขาย

นางสาวดุษฎี ตันเจริญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารโครงการ บริษัท มั่นคงการเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า ในปี 2560 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 5.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 4 โครงการ ซึ่งยังคงใช้แบรนด์ชวนชื่นในการขาย ส่วนที่เหลืออีก 1 โครงการ เป็นโครงการอพาร์ตเมนต์ และคอนโด

สำหรับงบลงทุนในปีนี้บริษัทวางไว้ 4 พันล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และการซื้อที่ดินที่รองรับการดำเนินโครงการในบริษัท

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) กว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ทั้งหมด ทั้งนี้ยอด Backlog ของบริษัทอาจจะไม่ได้สูงมากนัก เพราะบริษัทมีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโดยได้มีการตรวจสอบลูกค้าก่อนส่งดำเนินเรื่องกู้แก่ธนาคารและเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาโครงการเป็นการก่อสร้างก่อนแล้วจึงดำเนินการขาย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถโอนโครงการได้เร็ว และลดอัตราการปฏิเสธสินเชื่อลง โดยคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 15-20% จากปัจจุบันที่ 25%

ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้บริษัทมองว่าน่าจะมีการเติบโต สอดคล้องกับจีดีพีที่คาดว่าจะเติบโตได้ 3-4% โดยเห็นได้จากช่วงต้นปีที่ผ่านมาธนาคารมีการอนุมัติสินเชื่อที่ดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 4/2559 มาก รวมถึงขณะนี้ก็ได้มีลูกค้าสนใจเข้ามาดูโครงการจำนวนมาก ทำให้บริษัทเชื่อว่าทิศทางตลาดอสังหาในปีนี้น่าจะกลับมาอยู่ในระดับที่ดีและเติบโตขึ้นจากปีก่อนแน่นอน

เปิดโครงการกระตุ้นยอดขาย

ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวโครงการ อพาร์เมนต์และคอนโดมิเนียมระดับบน (Grand Apartment and Condominium) "พาร์ค คอร์ท (Park Court)" โครงการที่ตกแต่งเสร็จพร้อมเข้าอยู่ (Fully Fur-nished) ตั้งอยู่บนใจกลางสุขุมวิท 77 บนพื้นที่กว่า 7.8 ไร่ รวม 5 อาคาร สูง 7 ชั้น โดย 3 อาคารถูกพัฒนาขึ้นเป็นอพาร์ตเมนต์ รวม 42 ยูนิต และ 2 อาคารถูกพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมรวม 28 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 300 ตารางเมตรต่อยูนิต ขนาด 3 ห้องนอน ปล่อยเช่าอพาร์ตเมนต์ในราคาเฉลี่ย เดือนละ 150,000 บาท และคอนโดมิเนียมเสนอขายในราคาเฉลี่ย 150,000 บาทต่อตารางเมตร โดยจอดรถได้ 146 คัน มูลค่าโครงการกว่า 3 พันล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงเดือนกันยายนนี้

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของบริษัทจะเป็นนักลงทุนต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ โดยคาดว่าจะเป็นชาวตะวันตกจำนวน 70% และอีก 30% จะเป็นชาวเอเชีย โดยโครงการดังกล่าวจะเน้นไปยังผู้ที่อยากลงทุนเพื่อปล่อยเช่าในพื้นที่ด้วย โดยทางบริษัท จะเป็นผู้บริหารจัดการและดูแลการปล่อยเช่าให้แบบครบวงจร เชื่อมั่นว่าจะสามารถปล่อยเช่าและขายได้ 100% ซึ่งคาดว่าในจำนวน 70 ยูนิต นั้นกว่า 50% จะเป็นการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนราว 4% ต่อปี

อัพพอร์ตรายได้ค่าเช่า

โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเปิดขายในช่วง 1-2 เดือนจากนี้ อย่างไรก็ดีในปีนี้บริษัทจะเน้นการพัฒนาโครงการที่เป็นอสังหาเพื่อการเช่ามากขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าเช่า โดยตั้งเป้า 5 ปี (60-64) สัดส่วนรายได้ค่าเช่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 50% จากปัจจุบันที่เล็กน้อย โดยจะเน้นเป็นการทำโรงงาน และโครงการอพาร์ตเมนต์ โดยบริษัทยังมีที่ดินในมือหลายร้อยไร่ที่รอการพัฒนาเป็นโรงงานเพื่อเช่า

ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น

 

 

 

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ