กลุ่มเซ็นทรัลเตรียมเงินก้อนโตชิงที่ดินแปลงงาม 25 ไร่ "สถานทูตอังกฤษ" เติมอาณาจักรค้าปลีกครบวงจร กางแผน "ซีพีเอ็น" เป็นแม่งานคุมบิ๊ก โปรเจ็กต์ ระบุลงทุนใหญ่ที่สุดในรอบ 70 ปี ระดมทีมผู้บริหารหัวกะทิ ต่างชาติเสริมทัพ วงการอสังหาฯชี้ราคาทะลุ 2 ล้าน/ตร.ว.

เป็นที่รับรู้กันดีของคนในแวดวงธุรกิจดีว่า ทุกวันนี้ที่ดินแปลงงามที่อยู่ในย่านใจกลางเมืองในย่านธุรกิจการค้านั้นหายากมาก การประกาศขายที่ดินขนาดกว่า 25 ไร่ ติดกับถนนวิทยุ ด้านหลังศูนย์การค้าเอ็มบาสซี ของสถานทูตอังกฤษ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา จึงเป็นที่สนใจของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ รวมทั้งเซ็นทรัล ที่เคยชนะการประมูลที่ดิน 9 ไร่ของสถานทูตอังกฤษมาแล้วเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา

"เซ็นทรัล" สู้ไม่ถอย

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวกลุ่มเซ็นทรัลมีความสนใจ และได้เข้าร่วมประมูล ถ้าถามว่าอยากได้ไหม ก็อยากได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดู ราคาด้วยว่าอยู่ในลิมิตที่เซ็นทรัลจะรับได้ไหม อย่างไรก็ตามได้วางแพลนไว้คร่าว ๆ แล้วว่า ถ้าได้แล้วจะทำเป็นอะไร ยังไง ซึ่งคาดว่าจะเป็นโครงการที่มีการลงทุนครั้งใหญ่และจำนวนเงินสูงมาก

สอดคล้องกับขุนคลังของตระกูล "จิราธิวัฒน์" นายปริญญ์ จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ขยายความว่า ตอนนี้อยู่ในกระบวนการของการรอสถานทูตที่จะพิจารณาและคัดเลือก ซึ่งเหลืออยู่ไม่กี่รายที่เข้ารอบมา และกลุ่ม เซ็นทรัลเป็น 1 ในนั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุป และทราบผลในเร็ว ๆ นี้ โดยในส่วนของเซ็นทรัลก็ได้เตรียมแผนลงทุนและรูปแบบธุรกิจไว้คร่าว ๆ ถ้าได้ที่ดินแปลงนี้มา

"แพลนคร่าว ๆ ถ้าได้ที่ดินแปลงนี้มา จะให้เซ็นทรัลพัฒนา (ซีพีเอ็น) ที่เป็นบริษัทในเครือที่พัฒนาศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์เป็นแม่งานในการลงทุนพัฒนาที่ดินแปลงนี้ และคงต้องใช้เม็ดเงินลงทุนมหาศาล ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ แต่จะเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เซ็นทรัลทำมา ซึ่งเราก็อยู่ในตลาดมา 70 ปีแล้ว"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงปี 2549 หรือประมาณเมื่อ 10 ปีก่อน กลุ่มเซ็นทรัลได้เข้าร่วมประมูลที่ดินของสถานทูตอังกฤษ บนถนนวิทยุ พื้นที่ประมาณ 9 ไร่ และชนะ การประมูลคว้าที่แปลงดังกล่าว ในราคา 9.5 แสนบาท/ตารางวา ทุบสถิติซื้อขายที่ดินแพงสุดของกรุงเทพฯในขณะนั้น และได้ลงทุนสร้างศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี มูลค่ากว่า 1.8 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ภาพการเดินหน้าลงทุนขยายสาขาและสะสมแลนด์แบงก์ทั้งในเชิงลึก และเชิงกว้างเพื่อสยายปีกธุรกิจรอบทิศของกลุ่มเซ็นทรัล สอดคล้องกับภาพของการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ของกลุ่มเซ็นทรัลครั้งล่าสุด ที่ได้ทยอยดึงผู้บริหารมืออาชีพทั้งชาวไทยชาวต่างประเทศหลายคนเข้าเสริมทัพ และนั่งอยู่ในบอร์ดบริหารและเป็นแม่ทัพคุมธุรกิจที่สำคัญในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป (อ่านต่อหน้า 17 ระดมมือดี "ต่างชาติ" เสริมทัพ โครงสร้างใหม่...ติดปีก "เซ็นทรัล" โตไม่หยุด)

คาดราคา ตร.ว.ละ 2 ล้านอัพ

แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า ที่ดินขนาด 23 ไร่ของสถานทูตอังกฤษ คาดการณ์กันว่าจะมีราคาซื้อขายไม่ต่ำกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท หรือราวตารางวาละ 2 ล้านบาท เนื่องจากราคาที่ดินย่านเพลินจิต-ชิดลมถีบตัวสูงขึ้นมาก จากเมื่อปี 2549 ที่เครือเซ็นทรัลซื้อที่ดินสถานทูตอังกฤษ 10 ไร่ ติด ถ.เพลินจิต ในราคา 9.5 แสนบาท/ตร.ว. ถือเป็นราคาที่แพงที่สุดในขณะนั้น เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี

แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ดินย่านเพลินจิต-ชิดลมถีบตัวขึ้นเท่าตัว ตัวอย่างเช่น เมื่อปี 2558 บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ซื้อที่ดินขนาด 3 ไร่ ในซอยชิดลม ในราคา 1.9 ล้านบาท/ตร.ว. ปัจจุบันพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม 28 ชิดลม ราคาเฉลี่ย 3.5 แสนบาท/ตร.ม. และที่ดินโรงแรมปาร์คนายเลิศขนาด 15 ไร่ ซึ่งกลุ่มบีดีเอ็มเอสซื้อมาเมื่อปีก่อน ราคาเฉลี่ย 1.8 ล้านบาท/ตร.ว. ทั้งนี้ ราคาประเมินที่ดินจากกรมธนารักษ์ รอบปี 2559-2562 ระบุที่ดินบนถนนวิทยุ ราคาประเมินอยู่ที่ 5-7.5 แสนบาท/ตร.ว.เท่านั้น

สอดคล้องกับ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แสดงทรรศนะในเรื่องนี้ว่า ที่ดินย่านเพลินจิต-ชิดลม มีแปลงที่ดินเหลือน้อยมาก โดยเฉพาะในรัศมี 500 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้า คาดว่ามีที่ดิน เปิดขาย 2-3 แปลงเท่านั้น และเสนอราคาขาย 2 ล้านบาท/ตร.ว.ขึ้นไปแล้วทั้งหมด

สำหรับผู้เข้าร่วมประมูลที่ดินสถานทูตอังกฤษในครั้งนี้ กระแสข่าวก่อนหน้านี้ปรากฏชื่อ เครือเซ็นทรัล, กลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี และ บมจ.แสนสิริ เข้าร่วมการประมูล ขณะที่กลุ่มคิง เพาเวอร์ ยื่นซองประมูลไปในราคา 1.2 ล้านบาท/ตร.ว. ได้รับแจ้งไปก่อนแล้วว่าไม่ผ่านการประมูล

ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ